วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Gold Update.......This way

ทำไม ราคาทองคำจึงพุ่งไม่หยุด  

วันอาทิตย์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2552
Posted by บรรยง



ทองคำพุ่งทำสถิติราคาสูงสุดใหม่อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 20 พย. โดยเพียงแค่ 20 วันแรกของเดือนพฤศจิกายนนี้  ราคาทองคำขยับขึ้นมาแล้ว 9 %  


ล่า สุด ( 20 พย.) ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่มีกำหนดส่งมอบ ณ เดือนธันวาคมที่ตลาด COMEX ( ตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าในนิวยอร์ค )  ราคาทองคำปิดที่ 1,148.50 เหรียญต่อออนซ์  นับเป็นราคาปิดที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการซื้อขายทองคำมา
     

ทำไม ราคาทองคำจึงพุ่งต่อเนื่อง

     1. ใช้ทองคำเป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อ
 

     ในห้วงวิกฤติที่ผ่านมา  ธนาคารชาติต่างๆได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า  จะทุ่มเงินเข้าไปกอบกู้เศรษฐกิจของตน  เพื่อไม่ให้ธุรกิจล้มเป็นลูกโซ่  เมื่อมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบจำนวนมาก  ทำให้เงินท่วมระบบ  นักลงทุนเริ่มกังวลว่ามันจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ
 

     นักลงทุนที่รอบคอบมักเพิ่มการลงทุนในทองคำ  ในสถานการณ์ที่เขาคิดว่าจะมีเงินเฟ้อในอนาคตเสมอ  ทองคำจึงถูกใช้เป็น Inflation Hedge ที่โดดเด่นที่สุด
 

     มาถึงวันนี้  ดูเหมือนว่ายังไม่มีธนาคารกลางใดที่จะถอนการกระตุ้นเศรษฐกิจ  เพราะทุกประเทศต่างรู้ดีว่า  เศรษฐกิจของตนที่ดูดีขึ้นในเวลานี้  แท้ที่จริงแล้วยังมีความเปราะบางอยู่มาก
 

     ดังนั้น  ตราบเท่าที่ธนาคารกลางยังคงใส่เงินเข้าระบบหรืออย่างน้อยก็ไม่ได้มีการดึง เงินออกจากระบบ  ตราบนั้นทองคำยังคงเดินหน้าขยับขึ้นเพื่อตอบรับปัญหาเงินเฟ้อที่คาดว่าจะ เกิดขึ้นในอนาคต
 

     2. นักลงทุนหนีเงินดอลลาร์ไปเข้าทองคำ
 

     นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ  เงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าต่อเนื่อง  สาเหตุมาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ  ไม่ว่า การขาดดุลการค้าที่ยังคงทำสถิติใหม่  หรือการพิมพ์เงินดอลลาร์จำนวนมหาศาลเพื่อเข้าไปอุดหนุนสถาบันการเงิน
 

      ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ระยะยาว  จึงพากันผละจากเงินดอลลาร์ไปลงทุนในทองคำแทน
 

     3. ใช้ทองคำเป็นแหล่งพักเงิน
 

     ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ  ตลาดหุ้นมักร่วงลงตอบรับการคาดการณ์ผลประกอบการที่เลงร้ายของบริษัทจด ทะเบียน  เมื่อตลาดหุ้นไม่มีเสถียรภาพ  กองทุนใหญ่ที่เน้นปกป้องเงินต้น เช่นกองทุนบำเหน็จบำนาญ  ก็ไม่กล้าลงทุนในตลาดหุ้น  จึงนำเงินไปลงทุนในทองคำแทน  รอจนกระทั่งตลาดหุ้นมีเสถียรภาพแล้ว  จึงค่อยกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นใหม่อีกครั้ง

     4. ธนาคารกลางเพิ่มการลงทุนในทองคำ
 

     ตามปรกติ  ธนาคารกลางชาติต่างๆมักซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไว้เป็นทุนสำรอง  เพราะถือว่าเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักของโลก  แต่เมื่อเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะยาว  ธนาคารกลางบางประเทศเริ่มชลอการซื้อพันธบัตรสหรัฐ  แล้วหันไปซื้อทองคำแท่งแทน
 

      ข่าวธนาคารกลางของอินเดียที่เข้าไปซื้อทองคำจำนวน 200 ตันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ไปกระตุ้นให้นักลงทุนยิ่งเฮโลไปลงทุนในทองคำมากขึ้น  ราคาทองคำจึงพุ่งทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง




แผนภาพราคาทองคำในตลาดส่งมอบทันที ( spot ) ย้อนหลัง 1 ปี ล่าสุด ณ เย็นวันที่ 20 พย. 2009ปิดที่ราคา 1,151 เหรียญต่อออนซ์ 
 

      Andrew Cole นักวิเคราะห์จาก Baring Multi Asset Fund บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า  ราคาทองจะทำสถิติใหม่ปีนี้และในปีหน้า  จากการที่นักลงทุนใช้มันเป็นกำบังป้องกันเงินเฟ้อ
 

      อาจจะมีนักวิเคราะห์บางท่านกล่าวว่า  การซื้อทองคำที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้  เป็นการกังวลเงินเฟ้อจนเกินเหตุ  แต่นักวิเคราะห์จาก JPMorgan กลับให้ความเห็นว่า “อย่าลืมว่าคุณควรซื้อประกันก่อนที่บ้านของคุณจะเกิดไฟไหม้”
 

      การพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของทองคำในเวลานี้  ทำให้ทองคำไม่ใช่แหล่งพักเงินที่ปลอดภัยอีกต่อไป  แต่กลายเป็นเครื่องมือเก็งกำไรที่น่าตื่นเต้นทั้งผลตอบแทนและอาจเป็นฝันร้าย ในเวลาเดียวกัน  ขึ้นกับว่าใครจะจับทิศทางได้แม่นยำกว่ากัน เท่านั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น