วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

SDR, Silver Manipulation และ IMF Gold Sale 1/3

Vince (guest): ฝากถึงคุณจิมมี่ช่วยรบกวนขยายความให้หน่อยครับเรื่อง SDR จากครึ่งหลังของวีดีโอนี้น่าสนใจมากครับ AJ กับ BC พูดเกี่ยวกับการผลักดัน อัตตราแลกเปลี่ยนใหม่ของโลกขึ้นมา การออกมาแฉเรื่องการบิดเบือนราคา Silver ที่ออกมาในข่าว mainstream วิธีการกดราคาโดยการประกาศขายทองของ IMF ที่ผ่านมา มีบางช่วงที่ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง SDR ครับ ขอบคุณครับ http://www.youtube.com/watch?v=YmYNDtO0464
 
ตอบครับ : 

เนื่องด้วยเป็นคำถามที่ต้องตอบยาวครับ ขอนำมาตอบในโพสต์นี้เพื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆท่านอื่นที่สงสัยในประเด็นนี้เช่นกันครับ

SDR หรือ Special Drawing Right ก็คือตราสารที่เปรียบได้กับเงินสกุลหนึ่งที่ออกโดย IMF โดยมีทองคำเป็นตัวหนุนครับ SDR เกิดขี้นถ้าจำไม่ผิดก็ 16-17 ปีมาแล้วครับ แต่ไม่มีการใช้อย่างแพร่หลายเพราะสหรัฐ "ไม่ชอบ" เพราะกลัวว่ามันจะแพร่หลายนั่นเองแล้วเมื่อเค้าปั๊มเงินดอลล่าออกไปใครจะเอาล่ะครับเพราะเป็นกระดาษล้วนๆและไม่มีทองคำหนุน ก็เลยต้องไม่เวิร์คไปตามระเบียบ สาเหตุของการเกิดก็คือในหลายๆ ครั้งเมื่อดอลล่าเกิดสั่นคลอน แล้วประเทศคู่ค้าใหญ่ๆของสหรัฐเห็นความเสี่ยงของเงินดอลล่าก็ช่วยกันผลักดันและให้ IMF ซึ่งเปรียบเสมือนองค์กรกลางทางการเงินของโลกเป็นเจ้าภาพให้ครับ

ที่สำคัญจะออกตราสารตัวนี้อย่างซี้ซั้วมั่วนิ่มไม่ได้ เพราะจะต้องใช้ทองคำสำรองของ IMF เองเป็นตัวหนุนเท่านั้น จึงจะสร้างความเป็นกลางและความเชื่อมั่นในระดับโลกได้ครับ ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ หลังจากที่สหรัฐโดนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปเต็มๆ ทำให้ประเทศต่างๆที่ถือครองทรัพย์สินในสกุลดอลล่าได้หวาดเสียวกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่ม BRICS ที่มีปริมาณการค้าในสกุลดอลล่าที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงเรียกร้องให้ IMF ปัดฝุ่นและนำ SDR ออกมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะกับสหรัฐในประเด็นของเงินดอลล่าเท่านั้นเอง

แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะคะแนนเสียงการโหวตใน IMF เป็นของชาติมหาอำนาจตะวันตกไปแล้ว 60 กว่าเปอร์เซนต์ จีนและรัสเซียจึงพยายามดิ้นรนเพื่อเพิ่มสัดส่วนคะแนนเสียงการลงคะแนนเสียงของตนใน IMF ในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา โดยอ้างชาติกำลังพัฒนาต่างๆ แต่ก็โดนบล๊อคอีกตามระเบียบ เพราะฉะนั้นในทางลึก IMF ก็เป็นองค์กรของพวก Globalist นั่นเอง

มันถึงได้เข้ามาล้มประเทศไทยในวิกฤติการปี 40 แล้วให้กลุ่มทุนในเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังเข้ามาไล่กว้านซื้อทรัพย์สินของเราในราคาถูกนั่นไงครัับ (ส่วนนี้เพิ่มเติมให้ในกรณีที่ใครเพิ่งจะเข้ามาอ่านครับ)

ส่วนความพยายามผลักดัน SDR ในช่วงนี้ คงจะถึงเวลาที่การ "ล่มสลาย" ของเงินดอลล่าใกล้เข้ามาทุกที แล้วจะต้องมีเงินสกุลใหม่มาแทนที โดยจีนก็พยามผลักดันเงินหยวนของตัวเอง แต่...โดนเตะสกัดอีกตามระเบียบ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าเงินสกุลกลางเป็นของใครผู้นั้นก็ครองอำนาจในโลกใบนี้นั่นเอง เพราะจะเป็นผู้ควบคุมการพิมพ์พันธบัตร มีอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลอย่างเช่นสหรัฐในวันนี้ 


ลองคิดดูว่าแค่สหรัฐมีเงินดอลล่าที่เป็นสกุลกลางโดยยังมีเงินอีกสารพัดสกุลในโลก แต่สหรัฐยังมีอิทธิพลได้ขนาดนี้แล้วถ้ากลายเป็นระบบเงินสกุลเดี่ยวหรือสกุลเดียวที่จะใช้กันทั่วโลกและถ้าใครได้อำนาจตรงนี้ไป คือจะเป็นผู้ควบคุมการพิมพ์พันธบัตรหรือที่เราเรียกกันว่าเงินออกมา ก็แทบจะกลายเป็นผู้ครอบครองระบบเงินตราของโลกแบบเบ็ดเสร็จทันที

ซึ่งจะรวมไปถึงเศรษฐกิจโลก การค้าโลก การเมืองโลก และการทหารไปด้วยครับ แค่คิดก็หนาวแล้ว และนี่ก็คือ "จุดประสงค์หลัก" ของเรื่องและเป็นที่มาของความวุ่นวายทั้งหมด ที่พวกเค้าพยายามผลักดันกันอยู่นั่นเองครับ ซึ่งโอกาสสำเร็จมีความเป็นไปได้สูงมากด้วยเครือข่ายและเครื่องมือที่เค้ามีอยู่ น่าจะได้เห็นกันเร็วๆนี้ และอาจจะเร็วจนเราไม่ทันตั้งตัวก็ได้ครับ

เพราะฉะนั้น ถ้านี่คือจุดประสงค์หลัก วิธีการก็คือเค้าต้อง "ทุบ" ดอลล่าให้ตายในกรอบเวลาที่วางไว้ไงครับ และนี่ก็คือที่มาของการทำ QE2 และอีกสารพัดวิธีที่จะทำได้ แต่...ที่ผ่านมาหลังจากที่ทุบแล้วชาติต่างๆที่เป็นเจ้าหนี้ที่ถือครองดอลล่าไว้ก็เป็นฝ่ายเดือดร้อนสิครับก็เข้าไปอุ้มไว้เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของตนด้อยค่าลง ที่สำคัญประเทศคู่ค้าก็ต่างๆ ก็ต้องสร้างสมดุลย์ไม่ให้เงินของตัวเองแข็งเกินไปจนกระทบกับความสามารถในการแข่งขันและการส่งออก และโดยเฉพาะอีกหลายๆประเทศที่เก็บทุนสำรองเป็นเงินดอลล่าไว้อย่างมหาศาลโดนเข้าไปเต็มๆครับ แทบจะคิดมูลค่าความเสียหายออกมาเป็นรายวันได้เลยเมื่อดอลล่ามีการซวิงขึ้นลงอย่างรุนแรง จึงแปรสภาพกลายไปเป็น Currency War หรือสงครามค่าเงินไปในที่สุด และมีการคาดการณ์ว่าสงครามค่าเงินแหละที่จะนำไปสู่สงครามการค้า และสงครามจริงในที่สุด ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นแล้วในประวัติศาสตร์โลกที่ผ่านๆ มาครับ

รอดูกันครับว่าการประกาศวันที่ 3 เค้าจะ "ทุบ" ประมาณไหน จะเอาแบบแค่เบาะๆไปเรื่อยๆ ลากไปอีกซักหน่อย หรือจะเอาแบบ "ตายคามือ" แล้วเปลี่ยนแปลงโลกกันไปเลย ก็รอฟังข่าวกันครับ


.......เพราะฉะนั้นชื่อของเกมส์ เกมส์นี้ก็คือ "อำนาจ" ครับ.......

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

The Movie.......Inside Job

เป็นภาพยนตร์กึ่งสารคดีอีกเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อ "เปิดโปง" ขบวนการฉ้อฉล ในแวดวงการเมือง การเงิน การธนาคาร ตลาดหุ้นวอลสตรีท และตลาดตราสารต่างๆ ของสหรัฐ ที่แยกกันไม่ออกครับ เพราะทั้งหมดก็คือคนกลุ่มเดียวกันหรืออยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ภายใต้หน้ากากของ รัฐบาลอเมริกัน, FED, CFR, Bilderberg Group และอีกสารพัดกลุ่มทั้งบนดินและใต้ดิน เพื่อผลักดันวาระของพวกเค้าก็คือ "New World Order หรือการจัดระเบียบโลกใหม่"

อย่างที่บอกครับว่า คงถึงเวลาของพวกเค้าแล้วที่จะเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเพียง Conspiracy Theory หรือทฤษฏีสมรู้ร่วมคิด หรือเป็นเพียงการจับแพะชนแกะ ส่วนอะไรที่จะตามมาก็คงต้องไปลุ้นกันครับ

CFTC เริ่มเปิดประเด็นการบิดเบือนตลาดเงินและทองคำ

หากวันนี้ใครที่เข้าเวบไซท์ข้อมูลราคาทองคำของ Kitco ในส่วนของข่าว คงจะได้เห็นเรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นมาครับ โดยมีการพาดหัวในสื่อขนาดยักษ์ของโลกถึง  3 สื่อ คือ Bloomberg..link, Reuters..link  และ Financial Times..link ถึงการออกมาเปิดเผยในเรื่องความพยายามบิดเบือนราคาทองคำและเงินของ Big Brother หรือกลุ่มขาใหญ่ในตลาดโลก สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงกันครับว่ามีและทำกันจริงๆ ใครที่ยังคิดว่าเป็นเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน หรือกลไกตลาดก็คงจะได้เห็นความจริงซะทีครับ 


มีท่าทีจาก CFTC ว่าจะออกมาเปิดเผยว่าพวกขาใหญ่เค้าทำอะไรและจะมีมาตราการในการป้องกันอย่างไร โดยเจ้าหน้าที่บางคนของหน่วยงานนี้ออกมาถึงกับประกาศว่าถ้า CFTC ไม่ออกมาประกาศในเรื่องนี้ พวกเค้าจะเปิดเผยกันเองให้ชาวโลกได้รับรู้   ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกว่าทำไมต้องเป็นช่วงนี้ ทั้งที่การ "กด" และ "บิดเบือน" ราคาทองคำ ก็ทำกันมาหลายสิบปี แต่จะมาบอกเอาตอนนี้ เหมือนกับความพยายามเปิดโปงการทุจริตหลายๆ เรื่องในหลายๆ ด้าน ในทุกภาคส่วนทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน และการเมือง ทั้งสร้างเป็นหนัง สารคดี และอีกสารพัด และดาบสุดท้ายก็คงเป็นสื่อกระแสหลักหรือก็คือหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งก็เป็นของพวกเค้าอีกนั่นแหละ 

และนี่ก็เป็นบรรยากาศของการไต่สวนในเรื่องนี้ของ CFTC ครับ



ดูเหมือนเค้าจะหงายไพ่ให้ดูหมดแล้วล่ะครับ แล้วบอกว่าพวกคุณ "แพ้หมดแล้ว" และไม่มีอะไรจะต้องปิดกันอีกต่อไป และการรุกฆาตก็ใกล้เข้ามาทุกที ถึงบอกไปก็ไม่มีใครทำอะไรได้นอกจากการรับรู้ความจริง แล้วจะมีการเปิดเผยในลักษณะนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ เป็นระลอกๆ อย่างเช่น ความจริงเรื่องสงครามอิรัคจาก Wikileak ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการทรมาน การสังหารหมู่ประชาชนชาวอิรัค ตัวเลขต่างๆ ที่รัฐบาลสหรัฐบิดเบือนและโกหกชาวโลกมาตลอด มีทั้งเอกสารทางราชการ คลิปวีดีโอที่มีทั้งภาพและเสียงอย่างชัดเจน 

รวมทั้งสารคดี 60 Minutes โดย CBS ได้ออกมา "แฉ" เกี่ยวกับสถานการณ์การว่างงานจริงๆ ที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ณ เวลานี้ ที่ตัวเลขเฉลี่ยจริงๆของทั้งประเทศอยู่ที่  17%  และสูงกว่า 20% ในบางรัฐเช่น 21.90% ในรัฐแคลิฟอเนีย, 21.60% ในรัฐมิชิแกน, 21.50% ในรัฐเนวาดา (ซึ่งเป็นที่ตั้งของลาสเวกัส) และ 20.10% ในรัฐโอเรกอน





หรือถ้าจะดูสารคดีชุดนี้ฉบับเต็มๆ ก็...คลิกที่นี่


จุดประสงค์ของการเปิดเผยก็คือการตบหน้าคนอเมริกันและชาวโลก และสร้างความเกลียดชังต่อการเมืองและอำนาจรัฐเพื่อสุมไฟให้เกิดการประท้วง (Revolt) ต่อต้านรัฐบาลอเมริกันและลุกฮือ (Riot) ของประชาชนนั่นเอง แล้วความรุนแรงก็อาจจะนำไปสู่การประกาศ Martial Law หรือกฏอัยการศึก เพื่ออ้างเหตุการณ์ความวุ่นวายในการเข้าควบคุมสถานการณ์โดยการฉีกรัฐธรรมนูญและเข้ายึดครองแบบเบ็ดเสร็จก็จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งกฏหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องได้ถูกเขียนขึ้นมาอย่างแนบเนียนและเบ็ดเสร็จ เพื่อรองรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไว้แล้วครับ 


ถึงวันนี้ใครที่ถือครองทองคำไม่ว่าจะราคาไหน ไม่ต้องห่วงเรื่องติดดอยหรอกครับ  เพราะอีกไม่นานเกินรอราคาที่คุณว่าเป็นดอยนั้น คุณอาจจะไม่ได้เห็นมันไปอีกนานแสนนาน แล้วดอยที่คุณว่ามันจะกลายเป็นแค่เนินเขาเท่านั้นเอง อยากจะขอย้ำครับว่ากำไรจากราคาทองคำหรือการเก็งกำไรใดๆ เป็นเพียงผลพลอยได้จากสถานการณ์เท่านั้นเอง ความอยู่รอดทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณเป็นเรื่องที่สำคัญกว่ามากครับ      

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Imagine.......When & How The Economic Collapse

คลิปวีดีโอ 2 ตอน ด้านบนเป็นการจำลองเหตุการณ์ครับ ส่วนด้านล่าง ดร.รอน พอล วุฒิสมาชิกจากรัฐเทกซัส ออกมาเตือนประชาชนและเพื่อนร่วมชาติถึงการล่มของระบบเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น และเงินดอลล่า ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ และเป็นการยากที่จะคาดเดากรอบเวลาที่แน่นอน ดร.พอล ได้พยายามอธิบายถึงสาเหตุ ผลกระทบ สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้น และให้เตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นครับ

เพราะฉะนั้นวีดีโอ 2 ตอนแรกเป็นการจำลองเหตุการณ์ แต่อันหลังของ ดร.พอล นี่เป็นของจริงครับ!!! 



วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

2 พฤศจิกายน 2553 ........ ฤาจะเป็นวันที่โลกหยุดนิ่ง???

ตารางด้านล่างนี้เป็นการคาดการณ์การลงคะแนนเสียงของ สมาชิก FED จากสาขาต่างๆทั่วประเทศของสหรัฐ ในประเด็นว่าจะมี QE2 หรือมีการประกาศการพิมพ์เงินเพิ่ม เพื่อมาซื้อหนี้เสียและเพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอีกหรือไม่ หรือภาษาทางการเงินจะเเรียกว่า Debt Monetization เรียกง่ายๆว่าเป็นการพิมพ์กระดาษออกมาจ่ายหนี้นั่นเอง โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งบทสัมภาษณ์และวาระการประชุมของ FOMC ในช่วงที่ผ่านมาครับ

โดยคณะการกรรมการของ FOMC ประกอบด้วย สมาชิก 16 คน จากสำนักงานสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ และจากข้อมูลที่รวบรวมไว้ มีความเป็นไปได้สูงมากที่ FED จะมี Majority หรือเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นเป็นมติให้พิมพ์เงินเพิ่มได้ 

Person, PositionFOMC MembershipQE2 Position
Ben S. Bernanke, Board of Governors, ChairmanFOMCYes
Janet L. Yellen, Fed Vice Chairman, Board of GovernorsFOMCYes
William C. Dudley, New York, FOMC Vice ChairmanFOMCYes
James Bullard, St. LouisFOMCYes
Elizabeth A. Duke, Board of GovernorsFOMCYes (probably)
Thomas M. Hoenig, Kansas CityFOMCNo
Sandra Pianalto, ClevelandFOMCYes
Sarah Bloom Raskin, Board of GovernorsFOMCYes (probably)
Eric S. Rosengren, BostonFOMCYes
Daniel K. Tarullo, Board of GovernorsFOMCYes (probably)
Kevin M. Warsh, Board of GovernorsFOMCUndecided
Charles L. Evans, ChicagoAlternateYes
Richard W. Fisher, DallasAlternateUndecided
Narayana Kocherlakota, MinneapolisAlternateUndecided
Charles I. Plosser, PhiladelphiaAlternateNo
Christine M. Cumming, First Vice President, New YorkAlternateUnknown

ในทางลึกแล้ว FED ไม่มีทางออกอื่นใดอีกนอกจากการทำ QE เพราะมาตรการทางด้านดอกเบี้ยก็ได้ถึงทางตันไปนานแล้ว โดยปรับลดดอกเบี้ยจนต่ำติดดินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มีเพียงการพิมพ์เงินเพิ่มเท่านั้น ที่เปรียบเสมือนกระสุดนัดสุดท้ายที่จะยังใช้ได้ คำถามก็คือ FED จะใช้กระสุนนัดเดียวที่มีนี้ได้นานขนาดไหน คำตอบก็อย่างที่ท่านคิดเป็นไปไม่ได้ครับและประเทศเจ้าหนี้ก็คงไม่ยอมให้เป็น แล้วใครล่ะที่เป็นเจ้าหนี้บ้าง คำตอบก็คือเกือบทุกประเทศในโลกนั่นเลยครับ และอีกคำถามคือกระสุนนัดนี้จะถูกใช้ในการยิงเพื่อทำลายระบบการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนโดยรวมหรือไม่  

ในความเห็นของผม เหตุการณ์ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ อาจจะไม่เป็นเพียงวันธรรมดาวันนึงครับ เพราะ
1.เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐในระดับประเทศ
2.FED เลือกที่จะดึงเวลามาประกาศผลของการประชุมในวันนี้ ภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะมีนัยสำคัญบางประการและเป็นไปในทางลบต่อตลาดเงินและตลาดทุน
3.มีการเตรียมความพร้อมทางทหารก่อนล่วงหน้า 1 เดือน โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการซ้อมและเตรียมความพร้อมในกรณีทีเกิด Cyber Attack หรือการโจมตีทางระบบอินเตอร์และการสื่อสารในระดับโลก
4.เป็นวันที่ ที่เหมือนเป็นการเตือนล่วงหน้าในหนัง Sherlock Holms

อย่างที่บอกครับว่าสถานการณ์ต่างๆ งวดเข้ามาทุกที การประกาศในครั้งนี้ "อาจจะ" ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดทุน และตลาดการเงินโลกอย่างรุนแรง เพราะดอลล่าเป็นเงินสกุลหลักของโลก การทำ QE ไม่ได้เป็นการเสื่อมค่าเงินของคนอเมริกันเท่านั้น แต่เป็นเงินสำรองที่อยู่ในคลังของรัฐบาลประเทศต่างๆและของคนทั่วโลก  อาจจะเป็นการช๊อคตลาดหุ้นสหรัฐเอง และตลาดที่สำคัญๆ ทั่วโลก หรือที่เรียกว่า Market Crash แล้วเกิดเป็นซึนามิทางการเงิน และเศรษฐกิจครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของโลก การล่มของระบบอีเลคทรอนิคในภาคต่างๆ ก็จะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ดูเหมือนรัฐบาล "อิลลูมินาติ" ได้จัดเตรียมเรื่องนี้ไว้อย่างเสร็จสรรพแล้วครับ ความวุ่นวาย โกลาหลครั้งใหญ่ก็จะเกิดขี้นในสหรัฐ ทั้งการสื่อสาร คมนาคม ไฟฟ้า ประปา  และระบบสาธารณูประโภคพื้นฐานต่างๆ  

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้กำลังเป็นที่กังวล เป็นภาพที่กำลังถกเถียงกันในหมู่นักเศรษฐกิจ การเงิน นักสังเกตุการณ์ในภาคต่างๆ นี่แหละครับ ทำไมคำว่า QE2 คำเดียวจึงได้ผลักดันราคาทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ให้ทำสถิติใหม่กันเป็นว่าเล่นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา 

ถ้าความกังวลและเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ภาพทั้งหมดจะเป็นเพียงการเริ่มต้นครับ สถานการณ์ต่างๆ อาจจะลากยาวไปจนถึงวันขอบคุณพระเจ้าในช่วงปลายเดือนคือวันที่ 25 พฤศจิกายน แล้วความเลวร้ายต่างๆ คงจะตามมาอีกมากมายครับ รอให้ใกล้หรือถึงวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้อีกนิด คงจะมีข้อมูลและความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะมาเขียนให้ในโพสต์ที่ 2 ของเรื่องนี้ครับ (ถ้าระบบอินเตอร์เนตยังใช้งานได้เป็นปกติ)

อย่างที่บอกครับว่า จากตอนนี้ไปจนถึงปี 2012 ประมาทไม่ได้เลยครับ การ "End Game" หรือการปิดเกมส์ของพวกเค้าเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ด้วยศักยภาพ เครือข่ายและเครื่องมือที่เค้ามี ขอเพียงให้ความกังวลในเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการกระตุ้นให้เรารับรู้ข่าวสารและเตรียมพร้อมรับได้ทุกสถานการณ์ อย่าหวังพี่งคนอื่นหรือรัฐบาลครับ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นพวกเค้าอาจจะไม่อยู่ให้ท่านได้พึ่งแล้วล่ะครับ

สุดท้าย การเตรียมการทางทหารเป็นเพียงเพื่อการระวังป้องกันในกรณีที่เกิดขึ้นจริง หรือเค้ารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิด เช่นในฝรั่งเศษและยุโรป ก็เลย "จัดให้" รอไว้เลยครับ ปั้นเกมส์มาตั้งนานแล้ว หรือจะได้เวลาสรุปซะที...

Quantitative Easing ( QE )

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย

China 2030 AD. .......เจ็บจริงๆ

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้อมูลเชิงลึก โดย Lindsey Williams

วันนี้มีข้อมูลเชิงลึกโดย Lindsey Williams เป็นประเด็นสำคัญหลายๆ ประเด็นมาฝากครับ ค่อยๆ ฟัง ประติด ประต่อเรื่องราว จากข้อมูล ข่าวสาร หลักฐานที่เรามี จะคิดเห็นอย่างไร ขอให้ใช้วิจารณญานของตัวท่านเอง ข้อมูลเหล่านี้อาจจะหนักซักหน่อยครับ เพราะเป็นประเด็นใหญ่ๆ ที่จะสั่นสะเทือนโลกใบนี้ได้ทั้งนั้น จะเป็นเรื่องของ

1.จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินสกุลดอลล่าภายในปี 2012 กันแน่!!!
2.สงครามอิหร่าน???
3.Gog และ Mogog ถ้าใครที่ศึกษาไบเบิ้ล จะเข้าใจได้ว่าก็คือ จีนกับรัสเซียนั่นเอง แล้วคู่นี้กำลังทำอะไร???
4.ราคาน้ำมันในระยะสั้นและระยะกลางจะไปทางไหน ครั้งที่แล้วก็ว่าสุดแพงแล้ว ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร???
5.ประเทศสหรัฐอเมริกาและคนอเมริกัน จะมีสภาพอย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หรือจะถึงเวลาที่ต้องชดใช้กรรมแล้วกระมัง???
6.ราคาทองคำ $1,350 ยังถูกอยู่เลย???  สิ่งที่จะได้เห็น อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนชั่วชีวิต


ถ้าผมมีเวลาอาจจะสรุปให้อีกที แต่ตอนนี้รบกวนเพื่อนๆ ช่วยฟังแล้วแบ่งปันด้วยการแปลบางส่วนบางตอนที่สำคัญให้กับเพื่อนอีกหลายท่านที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษด้วยนะครับ เพราะเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ สถานการณ์ ณ ตอนนี้ ผมอยากให้เพื่อนๆ เริ่มมองออกไปให้ใกลกว่าประเด็นของราคาทองคำแล้วครับ เพราะดูเหมือนพายุใหญ่กำลังตั้งเค้าแล้ว 

บล๊อกที่ผมเขียนนี้ชื่อ "The Gold War" แต่จุดประสงค์ของการเขียนจริงไม่อยู่ที่กำไรจากการซื้อขายทองคำครับ กำไรตรงส่วนนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ครับ สงครามทองคำเป็นเพียงสมรภูมิรบย่อยๆ ใน "สงครามใหญ่" ดูเหมือนเวลางวดเข้ามาทุกทีครับ การขมวดปม "น่าจะ" อยู่ที่ปี 2012 แต่ก่อนที่เค้าจะขมวดปมนี่สิครับ คงต้องมีอะไรก่อนเพื่อที่จะขมวดให้ได้ อย่างเช่น "สงครามค่าเงิน หรือ Currency War" ที่กำลังระอุ ร้อนแรง แล้วเริ่มที่จะขยายวงออกไปเรื่อยๆ จุดประสงค์ของมันก็คือการสร้างเงินสกุลใหม่ ที่จะมาเป็นเงินสกุลหลัก สกุลเดียวของโลก แทนที่เงินดอลล่า หรือก็คือ New World Currency  นั่นเอง เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้ "เละ" ขนาดไหนก่อน เพื่อจะบังคับให้ทุกประเทศต้องจำยอมใช้เงินสกุลใหม่นี้ น่าคิดไม๊ครับ นั่นแหละครับคือสิ่งที่จะต้องเกิด ประเด็นนี้แหละครับที่โยงกับคำถามที่ 1 ข้างต้น 

จับตาดูข่าววันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ รัสเซียจะเริ่มเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันโดยตรงที่เซ็นสัญญากันไว้กับจีน โดยที่การชำระราคาทั้งหมด "จะไม่ทำในสกุลเงินดอลล่าอีกต่อไป" ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้ครับ แล้วถ้าประเทศอื่นๆ ทำตามบ้างล่ะ ดอลล่าจะทำอย่างไร ในหลายทศวรรษที่ผ่านมาไม่ว่าประเทศไหนๆ ที่ปฏิเสธเงินดอลล่าก็จะลงเอยด้วย สงคราม เช่น อิรัคและเวียดนาม และอีกหลายๆประเทศที่ต้องลงเอยด้วยความพยายามแทรกแทรงและล้มรัฐบาลนั้นๆลง ด้วยอำนาจจากนอกประเทศ เช่น คิวบา เป็นต้น   

ถ้าท่านใดที่ได้ฟังข้อมูลชุดนี้แล้ว ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกอะไรจนเกินไปนะครับ เราค่อยๆ ตามดูกันไป แต่คงต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นมาจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งเป็นการอ่านทาง อ่านใจกันผ่านทางข้อมูลซะมากกว่า ที่สำคัญมันเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นเองครับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เปิดใจ ศึกษา เข้าใจ และเตรียมพร้อมเท่านั้นที่จะอยู่รอด.....อย่างสงบและสันติ

ปลาใหญ่อาจจะจับปลาเล็กกินไม่ได้เสมอไปหรอกครับ.....ขอพระเจ้าอยู่ด้วยและอวยพระพรให้แก่ทุกท่านครับ    

Lindsey Williams [ลินซี่ วิลเลี่ยม link1, link2]   คือผู้ที่นำประเด็นของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์มาเปิดเผยก่อนล่วงหน้า ในช่วงที่ราคาน้ำมันยังอยู่ที่ $40 ต่อบาเรล เค้ากล่าวว่าราคาน้ำมันจะถูกคนกลุ่มนึงปั่นราคาขึ้นไปที่ $150 ต่อบาเรล ผลก็คือทุกคนลงความเห็นว่าชายคนนี้ท่าจะ "บ้า" แต่หลังจากนั้นอีกเพียง 4-5 เดือน ราคาน้ำมันดิบก็พุ่งขึ้นไปที่ระดับ $146 ต่อบาเรล .......สิ่งที่เค้าพูด ไม่ใช่การทำนาย การพยากรณ์ หรือการคาดการณ์ใดๆ แต่มันคือ Insider หรือข้อมูลภายในครับ ครั้งนี้ขออย่าให้เค้าพูดถูกอีกเลย มันหนักกว่าครั้งที่แล้วเยอะเลยครับ!!!  

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Financial Collapse by Jim Willie

อีกหนึ่งบทสนทนาที่น่าสนใจโดย Jim Willie ผู้เชี่ยวชาญทางการลงทุนในตลาดโลหะ เรามาฟังเค้าพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนราคาทองคำอย่างรุนแรง คือ QE2*** ( Quantitative Easing II ) ทั้งของสหรัฐและญี่ปุ่น ที่ทำให้จีนต้องเคลื่อนตัวและปรับทิศทางที่ไม่ค่อยจะมีทางให้ออกเท่าไหร่, Currency War (สงครามค่าเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนที่กำลังเป็นไปอย่างร้อนแรง ระหว่างชาติมหาอำนาจของโลก คือ สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน) ในบทสนทนานี้จะพูดถึงการ Collapse หรือการล้มของระบบการเงินของสหรัฐ ซึ่งจะรุกลามไปที่ตลาดทุน การธนาคาร และเศรษฐกิจทั้งระบบ  ซึ่งก็รวมถึงเงินสกุลหลักของโลกก็คือ "ดอลล่า" นั่นเอง

และนี่ก็เป็นอีก Scenario หรืออีกภาพหนึ่งของเงินดอลล่า ที่ต้องอ่านใจ ( กลุ่ม NWO )กันในระดับโลกครับ ส่วนอีกภาพหนึ่งคือการเกิดสงครามใหญ่ก่อนแล้วดอลล่าจะล้มตามมาที่หลัง ( โดยวุฒิสมาชิก รอน พอล Rep, TX ) ซึ่งนักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ให้น้ำหนักในภาพแรกมากกว่า แต่ด้วยความเป็น รอน พอล แคนดิเดตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ท่านนี้ไม่ธรรมดาครับ


ปล.คงต้องขออภัยและคงยังโพสต์บทความได้ไม่เต็มที่ครับ คงได้แค่แวะเวียนมาบางครั้ง เนื่องจากกระท่อมน้อยที่สร้างใหม่อยู่ตรงรอยต่อของหุบเขาพอดี อินเตอร์เน็ตก็ดันไปหยุดตรงปากทางเข้าซะงั้น เฮ้อออออ จะใช้ Air Card ก็ยังทำใจรับกับ Speed ของมันไม่ได้เท่าไหร่ ตอนนี้ก็เลยมาอาศัยอินเตอร์เนตคาเฟ่ ของ CAT ครับ ( ไหนๆ ก็มาอยู่พัทยาแล้ว ก็เลยทำตัวเหมือนฝรั่งซะหน่อย 555 แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับผม )

อย่างที่ทราบครับประเด็นตอนนี้ที่น่าติดตามคือ 
1.QE II ที่ผ่านมาแค่คิดแค่คุยกันครับว่า "ถ้ามี" ถ้าทำขึ้นมาแล้ว $1400 ยังน้อยไปครับ กำหนดการอยู่ที่เดือนหน้าหรือเดือนพฤศจิกายน
2.Currency War ผ่านทางตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศ
3.อาจจะมีการเริ่มโจมตีอิหร่านของอิสราเอลในเร็วๆ นี้ โดยมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือสหรัฐและลึกกว่านั้นคือวาติกัน
4.มีลุ้นครับว่า USDX หรือดอลล่าอินเด็กซ์รอบนี้ ว่าจะหลุด 72 หรือไม่ ซึ่งจะมีนัยสำคัญมาก แต่ถ้าไปเฉี่ยวๆ หรือลงไป "แตะแล้วเด้ง" ก็อาจจะได้เห็นการลากไปอีกซักระยะหรืออีกซักปีเป็นอย่างน้อยครับ ก็ไปลุ้นเอาที่ปี 2011 แต่ถ้าไม่เด้ง พวกเราก็ต้องเด้งเองครับ คือเด้งที่จะเตรียมพร้อมรับมือครับ
5.การล้มตัวครั้งใหม่และครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ ในลักษณะเดียวกับปี 1928-1930 ถ้าเป็นไปได้ลองค้นดูโพสต์เก่าๆ ในเรื่องนี้ครับ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม มุขเก่าๆ ดัชนีและกรอบเวลาได้หมดแล้วครับ คือ ที่ 3 ปีจากการทรุดตัวในปี 2007 และปั่น(ล้วนๆ)กลับขึ้นมาที่ 11,000-12,000 จุด
6.สุดท้าย ยังจำเรื่องการไต่สวนการบิดเบือนราคาทองคำและเงินโดยกลุ่มขาใหญ่โดย CFCT  ได้ไม๊ครับ จะมีการเปิดเผยผลการไต่สวนเร็วๆนี้ และอาจจะเป็นภายในเดือนตุลาคมนี้ครับ โดยเชื่อว่าจะมีผลกระทบกับราคาของทองคำและเงินไปในทางบวก จะรุนแรงแค่ไหนคงต้องรอลุ้นกันดูครับ ระวังเรื่องนี้จะเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่ก็แล้วกัน!!!     

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Gold and Silver Prices Signal the Destruction of the Dollar

Gold and Silver Prices Signal the Destruction of the Dollar 



ลองมาลุ้นกันครับว่าการทรุดตัวลงของดอลล่าในรอบนี้ พวกเค้าจะปล่อยเลยหรือไม่ คือเมื่อ USDX ล่วงลงแตะ 72 เมื่อไหร่ (ซึ่งราคาทองยังต้องไปอีกไกล) ก็คงใกล้ที่จะถึงเวลา "End Game" เข้าไปทุกที  ที่ต้องรอดูก็คือ เมื่อไหร่ที่พวกเค้าจะถอดปลั๊กจากระบบการเงิน การธนาคารโลกทั้งหมด ก็คงถึงเวลาแล้วที่หายนะจะเริ่มขึ้น!!! ลองถามตัวเราเองดูครับว่า เราพร้อมหรือยัง ไม่ว่าผลกระทบจะรุนแรงขนาดไหน โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าผลของมันจะไม่ธรรมดาครับ อาจจะไม่เกิดกับเราโดยตรง แต่ถ้าเกิดหนักบ้าง เบาบ้างกับคนรอบข้างของเรา ก็คงจะมากระทบเราในที่สุด

การไหลทะลักของเงินเข้ามาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซีย พร้อมๆ กันหลายประเทศ จนทำให้ตลาดหุ้นดูดี เงินบาทแข็ง มองในเง่ดีก็ดีครับ แต่จะมองอีกด้านก็ต้องระวังว่าจะเป็นการเข้ามา "วางระเบิด!!!" ซึ่งทำพร้อมๆ กันกับอินเดียและในอีกบางประเทศซึ่งเป็นศูนย์กลางหรือฮับทางการเงิน การธนาคารและเศรษฐกิจการค้า หากมองในมุมนี้บวกกับกรอบเวลาต่างๆ จะไปสอดรับกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2012 หรือก็คือ New World Order หรือ การจัดระเบียบโลกใหม่นั่นเอง