วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พวกเขาเป็นใครในยุคโบราณ???.......3/3 ( Retouch )

โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากการขุดค้นพบจากที่ต่างๆ จากพระคัมภีร์ไบเบิล และเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดหายไปจาก Dead Sea Scroll หรือม้วนหนังสือโบราณที่มีการค้นพบเพิ่มเติมตามถ้ำต่างๆ ในยุคต่อๆ มา หรือในประวัติศาสตร์ช่วงหลังของมนุษย์ เช่น The Book of Enoch หรือพระธรรมเอโนค ซึ่งจะเป็นเนื้อหาหลักของเรื่องนี้โดยตรง และหนังสือเล่มนี้แหละครับคือรอยต่อ หรือ "จิ๊กซอที่ขาดหายไป" ระหว่าง หนังสือเล่มแรกในพระคัมภีร์คือ "ปฐมกาล" กับหนังสือ "อพยพ" ซึ่งก็คือเล่มที่ 2  เรื่องเผ่าพันธุ์คนยักษ์พอจะสรุปได้พอสังเขปดังนี้ครับ


หลังจากที่พระเจ้าสร้างสรรพสิ่งต่างๆแล้ว พระองค์ก็สร้าง Angel ( หรือทูตสวรรค์ หรือคนไทยจะเรียกว่าเทวดา ) ไว้เป็นฟันเฟืองหรือมือทำงานไว้เพื่อตรวจตรา ( The Watcher )และควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ของโลกให้เป็นไปตามที่พระองค์ต้องการ โดย Angel เหล่านี้จะมีบุคคลิก ลักษณะและความสามารถที่แตกต่างกันไปครับ เช่นบางตนชำนาญในเรื่องการสงคราม ซึ่งได้กลายมาเป็นตำนานเทพแห่งสงครามของกรีกในสมัยนั้น บางตนจะชำนาญในเรื่องดิน ฟ้า อากาศ บางตนชำนาญในเรื่องเทคโนโลยีการสร้างสิ่งต่างๆ แม้กระทั่งอาวุธที่ใช้ในการสงครามครับ

และอีกหลายๆ ตนในเรื่องการใช้แร่ธาตุ การตัดแต่งพันธุกรรม ความสวยงามต่างๆ เวทมนต์คาถา การทำยาและสมุนไพรต่างๆ จิตวิทยา ดาราศาสตร์ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ก็คือฟันเฟืองหรือกลไกการทำงานทุกอย่างที่เราเห็นในโลกมนุษย์ใบนี้แหละครับ แต่องค์ความรู้เหล่านี้ไม่มีในโลกมนุษย์เรา หรือไม่ได้มีไว้สำหรับมนุษย์ที่ทรงสร้างไว้แล้วนั่นก็เพราะทุกอย่างในโลกสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองตามการทรงสร้างแล้วนั่นเอง และโดยวิทยาศาตร์ซึ่งปฏิเสธสิ่งเหล่านี้อย่างสิ้นเชิงเพราะหาคำอธิบายไม่ได้ทั้งหมด จึงเหมารวมทุกอย่างแล้วเรียกสิ่งนี้ว่า "ธรรมชาติ" เพราะถ้าไม่เรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นธรรมชาติ หรือสร้างโดยธรรมชาติหรือเป็นเรื่องของวิวัฒนาการ
(Evolution)ขึ้นมาเอง นั่นก็คือต้องยอมรับการมีอยู่จริงของพระเจ้าหรือพระผู้สร้างสรรพสิ่งต่างๆ หรือไม่แล้ววิทยาศาสตร์จะครองโลกได้อย่างไร

ดังนั้น "วิทยาศาสตร์" ก็คือ ความพยายามศึกษาและถอดรหัสระบบการทำงานเหล่านี้ที่พระเจ้าสร้างขึ้น ด้วยการควบคุมกลไกเหล่านั้น แล้วต่อยอดออกมากลายเป็นสิ่งใหม่ที่เรียกว่า "เทคโนโลยี" นั่นเอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมองค์ความรู้เหล่านี้ไม่ออกมาทีเดียวพร้อมกันทั้งหมด นั่นก็เพราะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้นที่นักวิทยาศาสตร์ไปถึงหรือยังอธิบายไม่ได้ทั้งหมดไงครับ จึงก่อให้เกิดการค้นคว้า ทดลอง วิจัย พัฒนา สิ่งที่เค้าเรียกว่าธรรมชาติ เช่นการศึกษาแมลง พืช สัตว์ หรือร่างกายของมนุษย์ เพื่อให้เข้าใจระบบการทำงานเหล่านั้น หรือก็คือพยายามทำความเข้าใจ หรือค้นหากุญแจของระบบ ที่จะอธิบายและควบคุมสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกอยู่ก่อนแล้ว นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ในที่สุด 

เพราะฉะนั้น อาจจะเป็นความเข้าใจผิดที่ว่า วิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คือผู้สร้างสิ่งต่างๆ แต่น่าจะเป็นว่า วิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์คือผู้ที่พยายามทำความเข้าใจ อธิบาย ควบคุม ดัดแปลง และพัฒนาสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ก่อนแล้วมากกว่าครับ ข้อพิสูจน์ก็คือ จวบจนกระทั่งยุคนี้ ก็ยังมีสิ่งสารพัดที่ยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่จะเข้าใจปรากฏการณ์เหล่านั้น เช่นโรคบางโรคที่ไม่มีทางรักษา เรื่องของดินฟ้าอากาศต่างๆ ฤดูกาล สรรพชีวิตหรือ Life Form จำนวนมากมายมหาศาล ที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของ วิทยาศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ หรือนอกเหนือการควบคุมของมนุษย์  

แล้ว Angel ทั้งหมดมีเป็นพันเป็นหมื่นครับ ที่พระเจ้าทรงสร้างและตั้งท่านไว้เพื่องานของพระองค์ ซึ่งท่านเหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกของพระเจ้าหรือ Sons of God ดังที่คำคำนี้ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์นั่นเอง และกลายเป็นตำนานเทวดา นางฟ้า เทพเจ้า เทพผู้ครองต่างๆ ตามความเชื่อของมนุษย์ในอริยธรรมต่อๆ มา
 
Angel ที่พระเจ้าสร้างขึ้นจะแบ่งเป็นระดับชั้นอย่างง่ายได้ 2 ระดับคือ

Seraphim เซราฟริม คือ Angel ชั้นสูงสุดเป็นมือทำงานที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าที่สุด

According to Christian angelology, the seraphim are the highest order of angels, serving as the caretakers of God's throne and continuously singing his praises (seraphim, שרפים is the plural of seraph, שרפ). Prior to his fall from grace, Lucifer was counted among the seraphim, outshining all others. Seraphim are often depicted as 6 wings radiating from a center either concealing a body or without a body.

Cherubim เชรูบิม คือ Angel ที่ทำงานเฉพาะด้านหรือเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง
Cherubim are mentioned several times in the Tanakh, or Old Testament, and are alluded to in the Book of Revelation. They are described as angelic creatures and in medieval Catholic theology are considered to be a certain rank of angels - one of the highest ranks, along with seraphim.

Cherubims is an order of angels among angels, archangels, principalities, powers, virtues, dominions, thrones, cherubim, and seraphim.

Descriptions in the Bible vary, but in general all describe cherubim as winged creatures combining human and animal features. In the book of Genesis cherubim are described as guarding the way to the Tree of Life armed with flaming swords (Gen 3:24). The book of Exodus states that cherubim are depicted in the Israelites' tabernacle. Cherubim are said to have been embroidered on the curtains of the tabernacle (Ex 26:1), and two sculpted cherubim are described as standing on the cover of the Ark of the covenant facing each other (Ex 25:18). The Ark of the covenant stood in the Holy of Holies, where the glory of God was said to reside; for this reason God is referred to in the Tanach as "God who dwells between the cherubim". Cherub (כרוב) is a Hebrew word; its plural is cherubim (כרובים). In English it has become a synonym for angel. Because some English speakers are unfamiliar with Hebrew plural formation, the word cherubims is sometimes used as a plural, for example in the King James Bible. The etymology of the word cherub is very doubtful. Some scholars connect it with the Babylonian word karabu, meaning to be propitious or blessed. Others connect it with kirabu, the name of an Assyrian winged-bull god. Some scholars have also suggested tentatively that the Greek word gryphon might be derived from cherub

 

เพราะฉะนั้นท่านจึงส่ง Angel เหล่านี้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อตรวจตราดูแลในเรื่องต่างครับ หนึ่งในนั้นคือ เซมยาซ่า Semyaza ( Son of God ) ซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของพระเจ้านั่นเอง และโดยตำแหน่งเค้าก็คือ " The Watcher " หรือจะแปลได้ว่าคือผู้ตรวจตรานั่นเองครับ แต่ในที่สุดก็มี Angel ถึง 200 ตนที่คิดก่อการกบฎขึ้นโดยการนำของ Semyaza นั่นเอง โดยเนื้อหาในตอนนี้บางส่วนถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในหนังสือเอโนค ( The Book of Enoch )

เราลองมาดูใน The Great Seal หรือตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนธนบัตรดอลล่ากันครับ และดวงตาที่อยู่บนยอดปิระมิดหรือที่เรียกกันว่า "All Seeing Eye" หรือดวงตาที่กำลังจ้องมองดูเราอยู่ ซึ่งความหมายที่แท้จริงที่น้อยคนจะรู้ก็คือสื่อถึง "The Watcher" หรือทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งลงมาตรวจตราโลกใบนี้นั่นเองครับ.......ชัดเจนนะครับ


แต่ทูตสวรรค์เหล่านี้ลงมาทำอะไร คำตอบอยู่ข้างล่างสุดคือ "NOVUS ORDO SECLORUM" ซึ่งเป็นภาษละตินแปลความหมายได้คือ

NOVUS = NEW
ORDO = ORDER
SECLORUM = GLOBAL
ซึ่งก็คือ New Global Order หรือ New World Order นั่นเอง


ย้อนกลับไปในสมัยของอาณาจักรอิยิปต์ ซึ่งก็มี RA ครับ หรือเทพเจ้าราห์ เป็นเทพสูงสุด ซึ่งก็ยังคงมีรากฐานมาจาก "The Watcher" หรือทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งลงมาตรวจตราโลกใบนี้อีกนั่นเองครับ.......ชัดเจนนะครับ



การปฏิวัติเกิดขึ้นโดยมีหลักคิดที่ว่า The Watcher หรือพวกเค้าแต่ละตนก็มีความสามารถและสิทธิอำนาจมากมายขนาดนั้น ทำไมพวกเค้าเป็นได้แค่นั่นหรือ คือแค่ทำตามคำสั่งและคอยทำงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นหรือ ถ้าเค้ารวมตัวกันแล้วเค้าก็เป็นเช่นพระเจ้าได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงนำไปสู่ "การปฏิวัติ" ครั้งแรกสุดหลังการทรงสร้าง 
 

และต่อไปนี้คือรายชื่อของ Angel ทั้ง 200 ตนที่ทำการปฏิวัติในครั้งนั้น ให้สังเกตุว่าในนี้จะมี Semyaza,  Lucifer, Baal, Phoenix และ Satan รวมอยู่ด้วยครับ แล้วด้านหลังชื่อจะเป็นหน้าที่หรือความสามารถที่ท่านทั้งหลายได้รับการทรงสร้างหรือได้รับมอบหมายไว้จากพระผู้สร้าง

Abaddon - fallen angel of death whose name means "to destroy." ( ที่มาของเทพแห่งการทำลายล้าง ศิวะเทพ และปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล วิวรณ์ 9:11 )
Abezethibou - one-winged Red Sea fallen angel.
Allocen - fallen angel who is a duke in hell.
Amduscias - name of the fallen angel who appears as a unicorn. ( ที่มาของม้ายูนิคอห์น ในเทพนิยายต่างๆ )
Amon - fallen angel who is a strong marquis over 40 legions.
Amy - name of a fallen angel who is a president in hell.
Andras - fallen angel marquis and appears raven-headed.
Andrealphus - fallen angel who can transform humans into birds.
Andromalius - fallen angel who appears as a man holding a serpent.
Apollyon - fallen angel of death; same as Abaddon. (ที่มาของชื่ออพอลโล่ที่ปรากฏตามที่ต่างๆ เทพอพอลโล่ ยานอพอลโล่ และในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล วิวรณ์ 9:11 )
Armaros - fallen angel who teaches the "resolving of enchantments."
Asmoday - fallen angel king with three heads: a bull, a ram, and a man.
Asmodeus - one of the most evil of fallen angels, being an archdemon.
Astaroth - fallen angel who is a grand duke in hell.
Azael - evil, fallen angel who cohabited with women.
Azazel - fallen angel whose name means "God strengthens."
Azza - fallen angel whose name means "the strong."
 
Baal - fallen angel whose name means "the lord." (พระบาอัลที่กล่าวถึงอย่างมากมายในพระคัมภีร์)
Balam - fallen angel who looks like Asmoday with a serpent tail.
Balberith - fallen angel who is a grand pontiff in hell.
Baraqijal - fallen angel who teaches astrology.
Barbatos - fallen angel who is a great count, earl and duke of hell.
Bathin - pale horse riding fallen angel. ( อัศวินผู้ขี่ม้าตัวสุดท้ายหรือตัวที่ 4 จากม้า 4 ตัวในหนังสือวิวรณ์ )
Beelzebub - fallen angel known as the "prince of demons."
Behemoth - fallen angel who is the "demon of the deep."
Beleth - fallen angel who is a terrible king over 85 legions.
Belial - deceptively beautiful fallen angel whose name means "without worth."
Belphegor - fallen angel whose name means "lord of opening."
Berith - fallen angel...
Bernael - fallen angel of darkness and evil.
Bifrons - fallen angel that appears monstrous and teaches mathematical arts.
Botis - fallen angel who appears as a viper.
Buer - fallen angel who teaches philosophy, logic and ethics.
Bune - fallen angel who appears as a dragon with three heads.
Caim - fallen angel who appears as a thrush or man with a sword.
Dantanian - fallen angel who appears as a man with many faces.
Decarabia - fallen angel who appears as a star in a pentacle.
Eligor - fallen angel who appears as a good knight with lance.
Enepsigos - fallen angel who appears in the shape of woman.
Flauros - fallen angel who appears as a leopard.
Focalor - fallen angel who appears as a man with griffin wings.
Forcas - fallen angel who teaches logic and ethics.
Forneus - fallen angel marquis who appears as a sea monster.
Furcas - fallen angel who appears as a cruel man with long beard.
Furfur - fallen angel who appears as a hart with a fiery tail.
Gaap - fallen angel who appears as a man with bat wings.
Gadreel - fallen angel whose name means "God is my helper."
Gamygyn - fallen angel who appears as a small horse.
Glasyalabolas - fallen angel who appears as a winged dog.
Gomory - fallen angel who appears as a camel riding woman of beauty.
Gusion - fallen angel who can discern the past, present or future.
Hagenti - fallen angel who appears as a bull with griffin wings.
Halpas - fallen angel who appears as a stork.
Imamiah - fallen angel who governs voyages.
Ipos - fallen angel who appears as an angel with a lion's head.
Kokabiel - fallen angel whose name means "star of God."
Kunopegos - fallen angel who appears as a sea horse and sinks ships.
Lahash - fallen angel who interferes with divine will.
Lerajie - fallen angel who appears as an archer in green.
Leviathon - fallen angel associated with the deep seas. ( อสูรร้ายลิเวียธาน ที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ )
Lillith - fallen female angel who searches for children to kidnap or kill. ( ภรรยาคนแรกของอาดัม ที่กลายเป็นอสูรร้ายในภายหลัง )
Lix Tetrax - fallen angel of the wind.
Lucifer - actually a Babylonian king whose name means "bearer of light." ( ลูซิเฟอร์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ก่อการในครั้งนั้น )

Malpas - fallen angel who appears as a crow.
Marbas - fallen angel who appears as a lion.
Marchosias - fallen angel who appears as a she-wolf with griffin wings.
Mastema - fallen angel whose name means "hostility."
Mephistopheles - fallen angel; name means "he who loves not the light."
Morax - fallen angel who appears as a bull.
Naamah - fallen angel of prostitution whose name means "pleasing."
Naberius - fallen angel who appears as a crowing cock.
Obyzouth - fallen angel femal who kills newborns and cause still-births.
Onoskelis - female fallen angel who lives in caves and perverts men.
Orias - fallen angel who appears as a lion with serpent's tail.
Ornias - fallen angel who is annoying and can shape-shift.
Orobas - fallen angel who appears as a horse.
Ose - fallen angel who appears as a leopard and is a president in hell.
Paimon - fallen angel who appears as a crowned man on a camel.
Penemuel - fallen angel who corrupts mankind through writing.
Pharzuph - fallen angel of fornication and lust.
Phoenix - fallen angel who appears as a phoenix bird.
Procel - fallen angel who can speak of hidden and secret things.
Purah - fallen angel of forgetfulness and the conjuring of the dead.
Purson - fallen angel who appears as a lion-headed man on a bear.
Qemuel - fallen angel who was destroyed by God.
Rahab - fallen angel of pride whose name means "violence."
Raum - fallen angel who appears as a crow.
Ronobe - fallen angel who is a monster who teaches rhetoric and art.
Ruax - headache fallen angel.
Sabnack - fallen angel who appears as a soldier with lion's head.
Saleos - fallen angel who appears as a soldier on a crocodile.
Samael - evil fallen angel whose name means "the blind God."
Satan - christian fallen angel whose name means "adversary." ( ที่มาของซาตาน )
Seere - fallen angel who appears as a man on a winged horse.
Semyaza - fallen angel leader and one of the Sons of God. ( เซมยาซ่า ผู้นำการก่อกฏ )
Shax - fallen angel who appears as a stork; stealer of money.
Solas - fallen angel who appears as a raven and teaches astronomy.
Sorath - fallen angel to some whose number is 666.
Sytry - fallen angel; appears as a man with griffin wings and leopard head.
Uzza - fallen angel whose name means "strength."
Valac - fallen angel who appears as a small boy with wings on a dragon.
Valefor - fallen angel who appears as a many-headed lion.
Vapula - fallen angel who is skilled in handicrafts, science and philosophy.
Vassago - fallen angel who discovers all things lost or hidden.
Vepar - fallen angel who appears as a mermaid. ( ทีมาของเงือก )
Vine - fallen angel and appears as a lion sitting on a black horse.
Vual - fallen angel who appears as a huge camel.
Wormwood - fallen angel who brings plagues upon the Earth.
Xaphan - fallen angel who fires the fires of hell.
Zagan - fallen angel who can transform things; looks like a bull with wings.
Zepar - fallen angel who makes women love men. 


และสิ่งเหล่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความบาปทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยในขณะที่ฑูตสวรรค์เหล่านี้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ได้เกิดสิ่งนี้ขึ้นครับซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของมนุษย
ชาติทั้งมวลตั้งแต่นั้นมาคือ

ปฐมกาล บทที่ 6 ความชั่วของมนุษยชาติ

6:1 ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน
Wickedness of Man
6:1 And it came to pass, when men began to multiply on the face of the earth, and daughters were born unto them,


6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.

คำเตือนของพระเจ้าถึงการพิพากษา
6:3 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะเพียงแค่ร้อยยี่สิบปี"

God's Warning of the Coming Judgment
6:3 And the LORD said, My spirit shall not always strive with man, for that he also is flesh: yet his days shall be an hundred and twenty years.

6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.


จากพระธรรมเอโนค 7:2:11

Note: หนังสือที่ถูกตัดออกจากการเป็นพระคัมภีร์เมื่อประมาณช่วงศตวรรษที่ 2 โดยรีบบีชื่อ Simeon ben Jochai เพราะซาตานไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องราวของมัน มันมักแอบทำอะไรแบบลับๆล่อเสมอ เช่น พฤติกรรมของบรรดาสมาชิกของสมาคมลับต่างๆที่บูชาซาตานนั่นเอง


"....2. เหล่าฑูตสวรรค์ มองดูพวกนาง จึงเกิดความลุ่มหลงในพวกนาง และกล่าวแก่กันและกัน: 'มา ให้พวกเราเลือกบุตรหญิงในหมู่มนุษย์มาเป็นภริยา และ.ให้กำเนิดลูกของเรากันเถิด'
3. และ Samyaza ที่เป็นผู้นำของพวกเขากล่าวแก่พวกเขาว่า: 'ฉันกลัวพวกเจ้าจะไม่เต็มใจที่จะกระทำการเช่นนี้
4. และฉันคนเดียวจะต้องถูกลงโทษในความผิดอันใหญ่หลวง.'
5. และพวกเขาทั้งหมดตอบเขาและกล่าวว่า'เราทั้งหมดสาบาน
6. และผูกมัดตัวเองโดยทั้งสองฝ่ายโดยกระทำการอันชั่วช้าร่วมกัน ไม่ละทิ้งแผนนี้แต่ให้ทำสิ่งนี้. '
7. แล้วพวกเขาทั้งหมดสาบานและผูกพันด้วยตนเองโดยทั้งสองฝ่าย กระทำการอันชั่วช้าร่วมกัน พวกเขาทั้งหมดมีจำนวนสองร้อย ผู้ที่ได้ลงมาสู่อาร์ดีส ที่อยู่บนยอดเขาอาร์โมน (เฮอร์โมน)
8. และพวกเขาจะเรียกภูเขาอาร์โมน(เฮอร์โมน) เนื่องจากพวกเขาได้สาบานและผูกพันด้วยตนเองโดยทั้งสองฝ่ายที่นั่น
9. และเหล่านี้คือชื่อของผู้นำ: Samyaza ผู้นำของพวกเขา, Urakabarameel, Akibeel, Tamiel, Ranuel, Danel, Azkeel, Saraknyal, Asael, Armers, Batraal, Anane, Zavebel, Samsaveel, Ertael, Turel, Yomyael, Arayal. ทั้งหมดมีครบถ้วนในจำนวนสองร้อย
10. พวกเขาก็ได้เลือกภริยาสำหรับตนเอง และพวกเขาได้เริ่มเข้าหาพวกเธอ หา และพวกเขาก็สอนวิชาหมอผี เวทมนต์คาถา การปลุกเสก รวมทั้งวิชาการทำลายล้าง(การทำสงครามในปัจจุบัน-ผู้เรียบเรียง) ให้กับภริยาที่พวกเขาอยู่ร่วมนั้น
11. และพวกผู้หญิงก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรเป็นมนุษย์ร่างยักษ์
12. แต่ละคนมีรูปร่างสูง 300 ศอก คนยักษ์เหล่านี้กินอาหารทั้งหมดของมนุษย์ที่มีอย่างตะกละตะกลาม จนกระทั่งมนุษย์ไม่สามารถเลี้ยงพวกเขาได้
13. แล้วพวกมันจึงต่อสู้กับมนุษย์ เพื่อจะได้มากินมนุษย์.
14. และพวกเขาเริ่มทำร้ายนก สัตว์ สัตว์เลื้อยคลาน และปลา แล้วก็ฆ่ากันเอง " 

ดังที่มีการบันทึกไว้ในพระคัมภีร์เล่มแรกสุด คือปฐมกาล ในบทที่ 6 เมื่อฑูตสวรรค์เหล่านั้นกลับลงมาฉุดคร่าบุตรสาวของมนุษย์ ไว้เพื่อเป็นภรรยาของตน แล้วได้ถ่ายทอดวิทยาการ วิชาความรู้ในด้านต่างๆ นับร้อยชนิด ให้กับมนุษย์ ไม่เพียงเท่านั้นยังให้กำเนิดบุตรที่เป็นมนุษย์พันธุ์ผสม ( Hybrid ) ที่มีขนาดรูปร่างใหญ่โต แข็งแรง เต็มไปด้วยสติปัญญาและความสามารถ และขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วพื้นภิภพ โดยความได้เปรียบเหล่านี้จึงขึ้นปกครองชนชาติต่างๆ  ( หัวเมืองที่เต็มไปด้วยคนยักษ์ที่กระจายอยู่ในพระคัมภีร์หลายๆ ตอน ) ด้วยลักษณะทางกายภาพและสติปัญญาที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป  


ซึ่งตรงจุดนี้ได้เกิดข้อสงสัยมากมายว่าทำไมในบางช่วงบางตอนของพระคัมภร์ พระเจ้าทรงตรัสสั่งให้ชนชาติอิสราเอลกำจัดคนกลุ่มนี้ให้หมดไปอย่างสิ้นซาก นั่นก็เพราะต้นกำเนิดของคนยักษ์เหล่านี้ก็คือ "ความบาปผิด" นั่นเองครับ ไม่ใช่พระเจ้าทรงไม่เมตตาหรือโหดเหี้ยมแต่ประการใด แต่ในทางกลับกันมนุษย์ยักษ์เหล่านี้กลับใช้กำลังและสิ่งต่างๆที่เหนือกว่าปกครองมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น ฆ่าฟัน ทำร้าย แย่งชิงแหล่งอาหาร จนในที่สุดกัดกินมนุษย์เป็นอาหาร และในที่สุดเผ่าพันธุ์เหล่านี้ก็ได้แพร่กระจายย้ายถิ่นฐานไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยวิชาการ สติปัญญา ความรู้ความสามารถที่ถ่ายทอดและติดตัวมาจากผู้ให้กำเนิด ซึ่งก็คือ The Watcher หรือเหล่าฑูตสวรรค์นั่นเองครับ 
 
และสุดท้ายท่านเชื่อหรือไม่ว่าพวกเราที่กำลังนั่งอ่านบทความนี้อยู่หลายๆส่วน ก็สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เหล่านั้นเช่นเดียวกัน มนุษย์จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เฉลียวฉลาดที่สุดและปกครองอยู่บนโลกใบนี้ตั้งแต่อดีตกาลนั่นเอง แต่ในส่วนลึกแล้ว นี่คือคำอธิบายว่าทำไมมนุษย์ทุกคนพร้อมที่ทำความบาปผิดอยู่ตลอดเวลา นั่นก็เพราะ "ความบาป" มันยังคงแฝงอยู่ในจิตวิญญาน สายเลือดและชาติกำเนิดของเราไงครับ 




ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=1






























































24 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งอ่านตอน 2 เสร็จตะกี้ ตอน 3 โผล่มาล๊ะ 555+ ไวมากกกกก ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  2. Ruax - headache fallen angel ง่ะ มีงี้ด้วย lol

    ตอบลบ
  3. Ruax ต้องปราบด้วย Aspirin :-)
    ทุกท่านนี่นับถือศาสนาคริสต์ใช่ไหมครับ

    ตอบลบ
  4. ^
    ^
    ผมเปงคริสเตียนครับ ;)

    ตอบลบ
  5. ผมเป็นคริสเตียนแต่ไม่ได้โดยกำเนิดครับ หนีมาตลอดเวลาเป็นเวลา 10 กว่าปี ที่รับเพราะต้านทานการพิสูจน์ไม่ไหว สุดท้ายก็ยอมครับ แต่ก็ไม่หยุดศึกษาเพิ่มเติมตลอดครับ เพราะไม่อยากถือหรือเชื่อเแบบมงมงาย คือมันต้องอธิบายได้สิว่าทำไม แต่หลายๆ สิ่งก็เกิดขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆแต่ในทางทีดี แต่ก็อธิบายไม่ได้อยู่ดีครับ วันนี้พอจะเข้าใจแล้วว่าเรามีงานที่ต้องทำครับ :) วันนี้ก็กำลังทำอยู่ครับ ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลยครับ เพราะทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ให้ก่อนกลับมาถึงบ้านเกิดอีกครับ งงครับ แล้วก็อธิบายไม่ได้อีกแล้วครับ :)

    พอจะนึกออกหรือยังครับว่าฮอลลีวูด เค้าเขียนบทหนังเช่น X Men และพวก Super Hero ต่างๆ มาจากไหน เค้าน่ะบอกเรามานานแล้วครับ เรื่องเหล่านี้ถูกบันทึกมานานกว่า 6-7,000 ปีมาแล้วครับ หาดูหนังหลายๆ เรื่องสิครับเค้าบอกตรงๆ แรงๆ เลยก็มี เช่น Gabriel ลองหา Trailer ใน YT ดูครับ

    ลองเอาเรื่องนี้ไปวิเคราะห์เรื่องเอเลี่ยน หรือปรากฏการเหนือธรรมชาติอย่างอื่นดูสิครับ มันคือจิ๊กซอที่หายไปนั่นเอง

    ตอบลบ
  6. เป็นพุทธค่ะ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  7. purifysoul.com/word/thai/Enochthai1.doc
    Thai version ครับ

    ตอบลบ
  8. อ่านแล้วดูเหมือน พลังอำนาจและเนื้อเรื่องอยู่ทางด้าน ยุโรป,อเมริกา แล้วก็ อาหรับ แล้วส่วนในทาง เอเชียล่ะครับจะเป็นอย่างไร หรือ Asia has been only slave.

    ตอบลบ
  9. นึกว่ามีผมคนเดียวที่เป็นพุทธซะอีก แหะๆ
    จริงๆแล้วในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่ามี 3 โลก คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และก็นรก สวรรค์ก็แบ่งเป็นหลายชั้น เทวดาที่ดีก็มี ไม่ดีก็มี มีเทวดาผู้เป็นใหญ่ปกครองเทวดาต่างๆ ตามระดับชั้น (เนื้อหามากมายเล่าไม่หมดครับ) แต่คำสอนของพระพุทธองค์แค่ต้องการให้รู้ว่าถ้าทำความดี ผลของกรรมดีก็จะพาเราไปสู่ภพชาติที่ดี แต่ถ้าทำกรรมชั่วก็ต้องตกนรกหรือไปเกิดในภพชาติที่ไม่ดี นั่นก็คือกฎแห่งกรรม แล้วก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป แต่เป้าหมายสูงสุดของพระพุทธองค์คือการ "ตรัสรู้" เพื่อให้หลุดพ้นจากวัฏจักร ไปสู่จุดหมายสูงสุดคือ "พระนิพพาน" คือไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก อันนี้ถือว่าเป็นการแชร์ความรู้ทางศาสนาอันน้อยนิดของผมแล้วกันนะครับ ผมไม่ใช่ผู้มีความรู้ทางศาสนาพุทธอะไรมาก เพียงแต่เคยอ่านศึกษาพระไตรปิฏกบางส่วนอ่ะครับ

    ตอบลบ
  10. ว้าววววววว อ่านไปนิดหน่อยแต่ก็สมบูรณ์ครับ แปลจากภาษาโบราณอีกต่างหาก ไม่ธรรมดาจริงๆ ยินดีด้วยครับ เจอทางลัดกันแล้วววว คงต้องอ่านอีกรอบแล้วครับ

    คุณ Leonidas คุณฟู ครับเป็นความเชื่อไหนไม่ต้องกังวลเลยครับ เปิดกว้าง หาข้อมูลได้เต็มที่ครับ ลองถอยกลับไปก่อนที่จะมีคำว่าศาสนาสิครับ แล้วจะเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่น่าสนใจครับ

    แล้วเรื่องที่เอโนคบันทึกนี่แหละครับเป็นที่มาของศาสนา ความเชื่อ ศักดิเทพผู้ครอง เทวดาต่างๆ ของหลายๆ ชาติ ศาสนาในยุคต่อๆ ซึ่งมีขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 2500-3000 ปีครับ

    เห็นฉบับภาษาไทยซะที :)

    ตอบลบ
  11. เป็นพุทธครับ ได้อ่านครั้งแรกที่ goldhips ครับแล้วรู้สึกว่าเหมือนสิ่งที่คอยอยู่ แต่ยังตามไม่ทันขออ่านไปเรื่อยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่มาให้ความรู้
    ปล.ทุกท่านเรียนรู้ตัวเราเองให้มากๆนะครับ
    madan_911

    ตอบลบ
  12. บิงโก!! ฉบับภาษาไทยมาซะที ขอบคุณมากเลยคร้าบบ T T/

    ตอบลบ
  13. ไม่ได้คิดไรมากเลยค่ะคุณจิมมี่ ดีซะอีกได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ศาสนาไหนก็อยู่ในโลกใบนี้ บ้านเดียวกันทั้งนั้นแหละค่ะ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  14. ฉันไม่ใช่ทั้งพุทธ และคริสต์ แต่ก็ติดตามมาตั้งแต่ในบอร์ด

    ไม่ว่าจะนับถืออะไร มนุษย์โลกคือพี่น้องกันเพราะเป็นลูกหลานอาดัมเหมือนกัน

    ไม่ได้มาจากลิง ชีวิตมนุษย์ของมนุษย์เหมือนการเดินทางจากโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่ง

    เริ่มจากโลกแห่งวิญญาณ โลกในครรภ์มารดา โลกใบนี้ โลกแห่งความตาย โลกที่นิรันดร์

    แต่แปลกคนส่วนมากจะไม่ให้พูดถึงเรื่องแบบนี้ เขาว่าอัปมงคล

    แต่สำหรับฉัน มันก้เรื่องธรรมดา มันเป็นเรื่องจริงที่เราต้องพบเจอแน่นอน

    ไม่รุ้จะปฏิเสธความจริงทำไม หลอกตัวเองไปทำไม

    ตอนนี้เราอยู่โลกปัจจุบัน โลกแห่งการตัดสินว่าชีวิตของเราจะเป็นยังงัยในโลกต่อไป

    ฉันเชื่อเรื่องพระเจ้า โลกใบนี้มีหลายคำสอน หลายศาสนา ทุกศาสนาสอนให้คนทำดี แต่ฉันเชื่อว่าหนทางรอดมีทางเดียว เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องเลือก มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกอย่างจะถูก ซึ่งก็ต้องตามหากันต่อไป

    ชอบมาอ่านในบล็อคนี้ แม้จะต่างกัน แต่คุยกันอบอุ่นดี ไม่โจมตีกัน ด่าทอกัน ถ้าทั้งโลกเป้นแบบนี้ก็ดีเน่อะ จะได้ไม่มีสงคราม ฆ่าล้างกัน

    ตอบลบ
  15. อ่าน Enoch ทั้งหมดตามที่ส่งลิ้งค์มาแล้ว...มีความรู้สึกว่าเหมือนกับบุคคลชื่อ Enoch นี้ ได้รับการพาไปท่องเที่ยวชมสวรรค์และนรก ...และกลับมาเขียนเล่าลงในหนังสือตามที่ได้เป็นเห็นมา...มีลักษณะของสถานที่และสิ่งที่เห็นหลายอย่างคล้องจองกับที่ผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนาบางท่านไปท่องเที่ยวสวรรค์และนรกมา...แต่ของท่าน Enoch นี้ คงจะมีนิมิตเกี่ยวกับอนาคตผสมไปด้วย เพราะมีเทวฑูต (เทวดา) เป็นผู้นำทางไปท่องเที่ยว อธิบายสิ่งที่เห็นให้รู้ และบอกถึงอนาคตข้างหน้านี้ที่จะเกิดจุดเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ (ซึ่งเกิดเป็นประจำตาม Cycle ของโลก)

    ถ้าว่าตามเนื้อหาใน Enoch ...วันและเวลาดังกล่าวไม่ได้ระบุไว้ แต่บอกตลอดถึงความแตกต่างระหว่างฝ่ายดีและฝ่ายมาร (ซึ่งเป็นเทพด้วยกันทั้งคู่)..เป็นสารจากฝ่ายเทพนะ ...เราว่า...ถ้าเป็นฝ่ายมาร สารของเค้าคงจะแตกต่างไป...ก็ต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าตนเองจะต้องเป็นผู้ชนะในสงคราม...แต่ที่แปลกก็คือ ทำมัยมาขัดแย้งกันบนโลกมนุษย์ก็ไม่รู้...

    ในข้อเกือบท้ายๆ ท่าน Enoch ก็บอกค่อนข้างชัดว่าเทวฑูตบอกว่าสิ่งที่ได้เห็นและรู้นี้เป็นการเปิดเผยจาก Lord of Spirits (เจ้านายแห่งกายทิพย์ทั้งมวล)อันเป็น parabolic meaning ... Parable แปลว่า a story of moral (ซึ่งน่าจะแปลเป็นไทยอีกทีได้ว่า เรื่องราวแห่งศีลธรรม) ...คงจะหมายความว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีความหมายให้เข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะดีและชั่วออกจากกันในโลกนี้...ประมาณว่า ความดีมาจากไหน ความชั่วมาจากไหน และจะส่งผลอะไรในบั้นปลาย...ประมาณนั้นม๊างง

    And I asked the angel who went
    3 จำนวนของฑูตสวรรค์ และสิ่งเหล่านั้นได้รักษาความเชื่อในแต่ละดวงดาว และข้าพเจ้าได้ถามฑูตสวรรค์ที่ไปกับข้าพเจ้า
    4 with me who showed me what was hidden: 'What are these?' And he said to me: 'The Lord of Spirits hath showed thee their parabolic meaning (lit. 'their parable'): these are the names of the holy who dwell on the earth and believe in the name of the Lord of Spirits for ever and ever.'
    4 ผู้ซึ่งได้สำแดงต่อข้าพเจ้าในสิ่งที่ปิดไว้ว่า สิ่งนี้คืออะไร? และเขาตอบข้าพเจ้าว่า พระเจ้าของจิตวิญญาณทั้งมวลได้สำแดงเจ้าถึงความหมายอุปมาอุปมัย มีพระนามบริสุทธิ์ผู้ซึ่งท่ามกลางอยู่บนโลก และเชื่อในพระนามของพระเจ้าผู้ทรงสร้างจิตวิญญาณทั้งมวลผู้ทรงพระชนม์อยูเป็นนิจนิรันดร์

    ตอบลบ
  16. 3 ตอนพิเศษ มาแปลกใหม่ ^^

    ชื่อที่ขีดแดงๆนี้คุ้นๆนะ ถ้านำคำมากลับกัน.......เหอะๆๆ

    แต่เคยได้เห็นหนังสือเล่มหนึ่งนะ จำชื่อเรื่องแทบไม่ได้แล้ว อ่านนานแล่ะ ชื่อเรื่องประมาณว่า '' พระพุทธเจ้าทรงกล่าว แต่แอนไสต์พิสูทธ์ให้ประจักษ์ '' อะไรสักอย่างเนี้ยละคะ ถ้าผิดพลาดอะไรต้องขออภัยด้วยคะ พอดีจำชื่อหนังสือไม่ได้จริงๆ
    ในหนังสือเล่มนั้น แอนไสต์บอกว่า ศาสนาที่เชื่อถือที่สุดในโลก ก็คือ ศาสนาพุทธ

    เอาเถอะ จะศาสนาไหนก็เหมือนกัน แต่ความเชื่อต่างกัน แต่ก็มีหลักคำสอนที่ตายตัวทุกศาสนานั้นก็คือ สอนให้เป็นคนดี
    มีศาสนาไหนสอนให้เป็นคนชั่วบ้างล่ะ นอกจากไอ้คนที่อยู่ในศาสนาแล้วทำตัวเองต่างหาก ต่างคนต่างจิตใจ มีมุนษย์ ล้านคน ก็มีหัวใจล้านดวง มีมุนษย์พันล้านคนก็ต้องมีความคิด พันล้านความคิดเช่นกัน
    10 นิ้วของคนยังไม่เท่ากันเลย แล้วทุกคนมันจะเหมือนกันได้ไง จริงมะ ?

    ปล. LA ตอนนี้อากาศแมง ห. จริงๆเลยอ่ะ ตอนเช้าๆหนาวโคดๆๆ ตอนกลางวันร้อนขิงๆ ตอนเย็นก็หนาวจนขาสั่น เฮ่อ....เอาอากาศสักอย่างไม่ได้หรือไงเมืองนี้..........

    Nequioze

    ตอบลบ
  17. The Book of Enoch
    XLI. 3-9. Astronomical Secrets. XLI. 3-9.
    สิ่งที่ยิ่งใหญ่ความลึกลับเกี่ยวกับดวงดาวเคราะห์

    Chapter 41
    ข้อ 5 และเป็นจุดเริ่มต้นกำเนิดของโลก ข้าพเจ้าได้เห็นห้วงอวกาศประกอบด้วยดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ที่ซึ่งสิ่งเหล่านั้นได้กำเนิดขึ้น และรู้ว่าจะไปทางไหน และหมุนอยู่รอบตัว และแสงสว่างก็เกิดขึ้นรอบๆ และทุกอย่างหมุนรอบตัวเอง และหมุนรอบดวงอาทิตย์ เป็นวงรี และสิ่งเหล่านั้นในห้วงอวกาศไม่ได้ออกนอกวงโคจร และสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เพิ่มอะไรเข้าไป วิถีวงรีนั้นไม่ได้เปลี่ยนไป สิ่งเหล่านั้นมีความเชื่อถือต่อกัน และตามที่ได้ทำหน้าที่มีทั้งหมด 6 สิ่งที่หมุนอยู่กลับไปกลับมา และหนึ่งคือดวงอาทิตย์ เกิดขึ้นก่อน และสิ่งอื่นได้หมุนรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางที่ได้ออกคำสั่งไว้

    --
    เรื่องวงโคจรของดวงดาว เขียนมาเป็นพัน ๆ ปีแล้ว ..ปิดบังเราไว้ซะนานเลย
    เล่นหลอกกันเป็นพันปีเลยแฮะ กว่าเราจะรู้ความจริง..
    ึถึงว่าทำไม เขาหวงกันจริง ๆ หนังสือนี้
    ผมคิดว่ามีอีกหลายเล่มนะครับ ในตระกูล apocripha

    ไปเจอมา 2 ที่ ใครว่างช่วยกันดูหน่อยครับ จากบอร์ด คาทอลิก
    http://forums.catholic.com/showthread.php?t=128574
    http://www.newadvent.org/cathen/13722a.htm

    ตอบลบ
  18. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  19. จะหาซื้อไบเบิลฉบับ original ได้ที่ไหนครับใครพอรุช่วยแนะนำหน่อยครับ

    ตอบลบ
  20. สิ่งที่คุณเรียกว่า พระเจ้า ผมกลับเชื่อว่า ไม่ได้มีแค่องค์เดียว.....

    ไดโนเสาก็ตัวโต แต่สูญพันธ์ไปแล้ว ถ้าจะมีมนุยษ์ที่ตัวโตบ้างจะแปลกอะไร ??? แปลกถ้ายังไม่สูญพันธ์.. :P

    คุณเชื่อหรือว่าจะมีสิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้เท่านั้น ในห้วงอวกาศหลายจักรวาล และคุณเชื่อหรือว่ามนุษย์คือผู้ที่ฉลาดมีพัฒนาการสูงสุดถึงได้ครอบครองโลกใบนี้

    มนุษย์มีพัฒนาการที่สูงก้าวกระโดดห่างจากสัตว์หลายขุมนัก และสัตว์ก็มีพัฒนาการกว่าพวกแมลงหลายขุมๆๆเช่นกัน....และแมลงก็มีพัฒนาการกว่าเชื้อโรคหลายขุมๆๆๆๆๆๆ อีก

    ....ผมก็อนุมานได้ไม่ยากที่จะมีสิ่งที่มีพัฒนาการสูงกว่ามนุษย์หลายๆๆๆๆขุมอีกเช่นกัน อาจมาในรูปสิ่งแปลกๆที่เราไม่สามารถอธิบายได้ หรือไปๆมาๆแบบ UFO หรือแบบพวก x-man หรือจิตและวิญญาณที่สรุปไม่ได้ หรือพวกเทวดา พระอินทร์พระพรมหม์ หรือพระเจ้า......

    ...อาจมีอีกหลายพัฒนาการที่สูงกว่า สูงที่สุด ที่สุดของที่สุด หรือไม่มีที่สิ้นสุด และคงไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งมีน้อย....แต่ที่แน่ๆ ดูแค่สัตว์มันยังกัดกันสู้กันด้วยหลากหลายเหตุผล บ้างว่าเพื่อความอยู่รอดและแพร่พันธ์ ก็เลยไม่แปลกที่มนุษย์จะมีพฤติกรรมคล้ายๆกัน และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่พัฒนาการสูงกว่ามนุษย์ก็เช่นกัน อาจแบ่งพวกแบบที่คุณกว่าดีกับเลว...หรือหลายชั้น

    ในเมื่อสัตว์ไม่สามารถพัฒนาการมาเป็นมนุษย์ได้ (ในเร็ววันหรือไม่ได้เลย) ก็อนุมานได้เช่นกันว่า มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ต่อไป ไม่สามารถกระโดดไปเป็นสิ่งอื่นใดได้เช่นกัน และถ้ามนุยษ์เลี้ยงสัตว์รังแกสัตว์ได้ ก็ไม่แปลกที่เราจะโดนสิ่งนั้นทำกับเราได้เช่นกัน...5555.....เรายังเลี้ยงหมาให้มันเฝ้าบ้านไล่ขโมยได้เลย จะแปลกอะไรถ้าเค้าให้ใครสักคนหรือหลายคนในโลกนี้เฝ้าทำอะไรหรือดำเนินแผนการอะไรให้เค้า.....ไม่ว่าจะเฝ้าดู แจ้งเตือน ทำลาย ปั่นป่วน ฯลฯ

    ทุกวันนี้ใครตอบได้หรือครับว่า เกิดมาทำไม อยู่ต่อไปทำไม ตายแล้วไปไหน หาคำตอบไม่ได้แต่ต้องอยู่ต่อไป ก็เลยหาแนวทางที่คิดว่าดีเหมาะสมในการดำเนินชีวิตต่อไป จนพัฒนามาเป็นบทเรียน บทสอน คำภีร์ พระไตรปิดก ...ฯลฯ หรือมีใครรู้มาบอก ก็ยากที่จะเชื่อ เพราะทุกวันนี้ เราเชื่อตามกัน และเชื่อเมื่อได้สัมผัส

    ผมติดตามอ่านมาตลอด ยอมรับว่าไม่ได้อ่านทั้งหมด เพราะบางอย่างเราไม่สนใจ เราก็ข้ามไป บางอย่างสนใจเราก็จะใช้เวลาศึกษาหาเพิ่มเติม

    ศาสนา ผมนับถือพุทธ และอย่างที่ว่า ติดมาแต่กำเนิด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาการ และการไม่สิ้นสุด(เหมือนทองเลย ขึ้นไม่สุดสักกะที...อิอิ) หรือเมื่อมาถึงจุดๆหนึ่งแล้วมันต้องเปลี่ยนแปลง หรือเริ่มใหม่ หรือโดนล้างบาง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเป็นไป ไม่ว่าจะตามคำสั่งใครหรือไม่

    และถ้าผมถามว่าพรุ่งนี้จะมีขีปนาวุธลูกหนึ่งหรือหลายลูกตกมาเป็นดอกเห็ดที่ประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะรู้ก่อนหรือไม่ คุณจะทำอะไร....เลือกที่จะไป หรือจะอยู่ (อยู่เพื่อดูหายนะ) ถ้าถามผม ผมก็เลือกให้มันลงกลางบ้านผมเลย เพราะจะได้ตายทันที อย่างน้อยถ้าเวียนว่ายตายเกิดได้จริง คงมีสักชาติที่ได้กลับมาเป็นมนุษย์และคงไม่เร็วๆนี้ อาจจะตอนโลกใหม่ถูกสร้างแล้วก็เป็นได้ ดีกว่านะผมว่า...5555 แล้วตอนนั้นผมจะมาขุดค้นหาโครงกระดูกอนุชนรุ่นก่อนๆนั้น(อาจเป็นรุ่นนี้) เพื่อหาคำตอบว่า เกิดอะไรขึ้นหว่า ใครสร้างโลก..แล้วใครทำลายโลกมาก่อน..กี่ครั้งแล้วล่ัะเนี่ย....

    ...ไม่แน่นะผมอาจจะค้นเจอซากคอมพิวเตอร์เก่าๆ ไหม้ไปเกือบหมดแต่มีแผ่นฮาร์ดดิสกลมๆเหลืออยู่พอถอดระหัสได้แบบว่า นี่ไงความลับของโลกนี่ไงประวัติศาสตร์..อาจเป็นคอมคุณจิมมี่ก็ได้นะ......ฮึ้ย.......ล้อเล่ง

    สำหรับทอง เป็นโลหะที่ดูสวยงาม มันวาว และหลายคุณสมบัติที่เหนือกว่าโลหะทั่วไป มนุษย์ก็เลยชอบ (แปลกนะไม่เห็นสัตว์ไหนชอบทอง) และพอมันหาได้ยาก มันก็เลยมีราคาแพง ลองคิดเล่นๆ ถ้าทองมีมากมายแบบน้ำ 3 ใน 4 ของโลก ถามจริงว่ามันจะราคาเท่าไร กิโลละ 10 บาทไหมนะ (เห็นน้ำดื่มลิตรละประมาณ 10 บาท...แฮ่)

    อย่าคิดมากนะครับ ผมก็บ่นไปบ่นมา ตามประสาคนชั่งสงสัยแต่ไม่ต้องการคำตอบ(ที่ถูกใจ) ก็เท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดหรือจะลบหรู่สิ่งใด แต่ผมมองอย่างที่เขียนไว้จริงๆ

    ก็มีอีกหลายเรื่องที่ผมมักมีแนวคิดบ้าๆบอๆ ไม่ยึดติดอะไร(ที่ขัดใจตนเอง) อิอิอิ ไว้จะแทรกมาเรื่อยๆให้รำคาญเล่น...ฮีๆๆ

    ตอบลบ
  21. คุณ aoodii ไม่ได้มีแนวคิดบ้าๆบอๆอะไรนี่คะ เราเองก็คิดบางอย่างแบบคุณเหมือนกัน(เข้าข้างตัวเองว่าไม่บ้า อิอิ)

    ความเห็นส่วนตัวเรานะคะ เราคงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเล็กๆ(เล็กมาก)ของโลกใบนี้ เรื่องราวที่เราได้จากบล๊อกนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะมีความเชื่อมาก เชื่อน้อยแค่ไหน ใครที่ทำให้เกิดเรือ่งราวต่างๆนี้ เขาใหญ่กว่าเรามาก เราคงทำอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะหากว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เพียงแค่รับรู้เรื่องราวและเตรียมพร้อมใจไว้บ้างหากว่ามันจะเกิดแค่นั้น ปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่มันเป็นไป อย่างน้อยหากมันเกิดจริงเราก็ยังหาเหตุผลให้มันได้บ้างจากที่เราพอจะรู้มาว่ามันน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร

    ยังไงเราก็ยังคงต้องอยู่ในโลกใบนี้ไปจนตายค่ะ หนีไปไหนก็คงไม่พ้นอยู่ดี อิอิ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  22. Merryค่ะ ..สวัสดี..คุณบาบารา ฟู และเพื่อนๆทุกท่านค่ะ

    เรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากน่ะึค่ะ เราไม่ว่ากันค่ะ... เป็นสิทธิ เสรีภาพของแต่ล่ะท่าน แต่ล่ะครอบครัว

    ด้วยที่พระเป็นเจ้า...พระองค์รัก และให้อิสระภาพกะ..มนุษย์..มากมายจนไร้ขอบเขต แต่มนุษย์กับทำผิดคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์ คือสมัยอดัม และเอวา นั่นล่ะค่ะ

    ครอบครัวMerry เป็น คริสต์นิกายคาทอลิก ค่ะ..." รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจสุดกำลังความสามารถ และรักผู้อื่นหมือนรักตัวเราเอง"...มั่นคงในพระวาจาของพระเจ้า ยำเกรงต่อพระเจ้า ถวายพระเกียรติ และนมัสการแด่พระเจ้าเสมอมา...เพราะใก้ลถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาแล้ว

    ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกๆท่านค่ะ

    ตอบลบ
  23. เมื่อวันเสาร์ไปดูหนังกับลูกมาเรื่อง I am number four หนังเป็นของกลุ่ม NWO อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ มีทั้งสัญญลักษณ์ที่เป็นดวงตา การพูดถึงการจัดระเบียบโลกใหม่ แล้วก็พูดถึงมนุษย์ต่างดาว...บรื๋อออออออ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  24. ผมคิดว่าความดีและความชั่วนี่ มันเป็นพลังงานพื้นฐานที่เอาไว้สร้างจักรวาล เหมือนเต๋าที่บอกว่าในดำมีขาวในขาวมีดำ มีความต่างศักย์เหมือนขั้วบวกขั้วลบ ถ้าจะทำให้มันหายไปต้องนำสองสิ่งนี้มาหักล้างจึงกลับเข้าสู่ความว่างกลายเป็นศูนย์

    หนุ่ม

    ตอบลบ