วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

Project H.A.A.R.P.......3/3

คลิปวีดีโอนี้จะแสดงให้เห็นถึงหลักการทำงานของเครื่อง HAARP และแสดงสถานที่ติดตั้งเครื่องจริงในอเมริกา คือที่เมือง Anchorage รัฐ Alaska เป็น 1 ใน 3 เครื่องที่มีอยู่ในอเมริกาตอนนี้ครับ




และนี่คือเครือง HAARP ของรัสเซียครับ 



และนี่เป็นคลิปวีดีโอสารคดีเกี่ยวกับโครงการ HAARP และโครงการต่อเนื่องต่างๆ เช่น การสร้างและการควบคุมฟ้าผ่าเพื่อนำไปใช้ในสงคราม การสร้างคลื่นขนาดยักษ์ในทะเลเพื่อนำไปใช้ในสงคราม รวมทั้งความพยายามควบคุม Jet Stream หรือกระแสน้ำอุ่นที่เป็นกุญแจสำคัญอีกดอกของธรรมชาติที่คอยควบคุมการเปลี่ยนแปลงของฤุดูกาล ทั้งหมดมี 4 ตอนครับ 


แต่ในความเป็นจริงเค้าไปไกลกว่านี้มากแล้ว และที่เค้านำเสนอในสารคดีนี้เอามาแค่เพียงแนวคิด ก็คือสารคดีนี้บอกความจริงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ที่ทำเสร็จแล้วใช้อยู่คงจะไม่บอกหรอกครับ




อีก 3 ตอนที่เหลือครับ.....
http://www.youtube.com/watch?v=HjaBAPaZMx0&feature=PlayList&p=81FC2505A0F56CA0&index=1
http://www.youtube.com/watch?v=liZFKBCkNPs&feature=PlayList&p=81FC2505A0F56CA0&index=2
http://www.youtube.com/watch?v=gVf925_0weA&feature=PlayList&p=81FC2505A0F56CA0&index=3

นอกจากนั้น HAARP ยังประยุกต์ไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ 
ได้อีกหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ

" Chemtrail "

Chemtrail หรือ Chemical Trail หรือสายเคมี คือการฉีดพ่นสารเคมี
บางชนิดในชั้นบรรยากาศให้เป็นสายยาวๆ เป็นการจำลองแบบของ
เมฆหรือชั้นบรรยากาศโดยเครื่องบินไอพ่น ที่ออกแบบมาเพื่อการควบ
คุมทิศทางการทำงานของเครื่อง HAARP ( คือวิธีการเดียวกับการ
ทำฝนเทียม )โดยเฉพาะ สารเคมีที่มีพิษอย่างร้ายแรงเช่นสารหนู 
สารปรอท สารแบเรี่ยมนี้ได้ถูกโปรยไปทั่วท้องฟ้าของอเมริกาทุกๆวัน 
โดยคนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นควันของเครื่องบินไอพ่น หรือ (Con Trail) 
ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิดมาตลอด บางคนก็ว่าเป็นโครงการตรวจอากาศ
หรือทิศทางลม ต่างคนต่างคิดและเข้าใจไปเองทั้งสิ้น

ลิ๊งค์เพิ่มเติม:
http://www.youtube.com/watch?v=Psdg3OAw_a8&feature=player_embedded

จุดประสงค์ของการทำ Chemtrail

1.ใช้ควบคุมทิศทางการทำงานของเครื่อง HAARP (สร้างชัั้นบรรยากาศจำลอง)
2.สารที่ปล่อยออกมีสารพิษสารพัดชนิดเช่น สารหนู สารปรอท 
สารแบเรี่ยม อลูมีนั่ม ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายมนุษย์ทั้งสิ้น 
ได้มีความพยายามเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่มี
หน่วยงานหรือองค์กรใดๆ ออกมารับผิดชอบ สารพิษต่างๆ เหล่านี้
เป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยแปลกๆ ที่ไม่มีคำอธิบายทางการ
แพทย์เช่นเป็นแผลที่ปาก เจ็บแน่นหน้าอก ไข้หวัดเรื้อรัง และอีกสาร
พัดโรคซึ่งก็เป็นที่พอใจของคนกลุ่มนี้เพื่อที่จะลดประชากรลง คนที่
ป่วยก็ไปซื้อยาที่บริษัทของพวกเค้าผลิตขึ้นมาขายให้เรารักษาในสิ่ง
ที่เค้าทำครับ
****ใครที่ยังอยู่ในอเมริกา ให้มองขึ้นไปบนทองฟ้า ถ้าสายเคมีที่ออก
มาจากเครื่องบินไอพ่น แล้วยังค้างอยู่นานเกินกว่า 15 วินาที นั่นแหละ 
Chemtrail ครับ สารพัดสารพิษอยู่ในนั้น ลองหาขวดหรือโหลแก้วที่มี
ปากกว้างซักหน่อยพร้อมฝาปิดสนิท เติมน้ำไว้ซักครึ่งหนึ่งครับ เก็บใย
ของมันที่ตกลงสู่พื้น แล้วไปหาห้องแล๊ปตรวจว่าเจออะไรในนั้นบ้างแล้ว

จะเข้าใจเองครับ

ลิ๊งค์เพิ่มเติม :
3.ใช้บิดเบือนสภาพอากาศให้ร้อนจัดหรือหนาวจัด คือใช้ควบคุม
สภาวะอากาศนี่เอง โลกร้อนส่วนหนึ่งเกิดจากสาเหตุนี้แหละ เพราะตก
กลางคืนแทนที่ความร้อนจะถูกถ่ายเทออกจากพื้นโลก แต่ก็ทำไม่ได้
เพราะติดเจ้าสายเคมีพวกนี้ ความร้อนก็เก็บสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ
ของโลกเรานี่เอง
4.ใช้ในโครงการ Bluebeam คือทำสร้างเป็นเหมือนฉากสะท้อนภาพ
ของเครื่องโปรเจคเตอร์แรงส่งสูงทำให้เราเห็นภาพปรากฏการณ์ประ
หลาดต่างๆ บนท้องฟ้า จุดประสงค์หลักตรงนี้คือนำไปใช้ในโครงการ 
Bluebeam ซึ่งเป็นโครงการใหญ่อีกโครงการหนึ่ง จะเล่าให้ฟังใน
ตอนต่อๆ ไปครับ

ใครฆ่า จอห์น เอฟ เคเนดี้? (JFK Assasination)

ใครที่ติดตามสิ่งต่างๆ ที่ผมพยายามจะสื่อให้เห็นและรับรู้ คงพอจะเข้าใจแล้วว่าทั้งหมดคือเรื่องเดียวกันครับ "หลุมดำ" ของมนุษยชาติ ความจริงที่ซ่อนตัวไว้หลายร้อยปี จนถึงหลายพันปี ถูกคนกลุ่มนี้ปิดบังไว้ถึงกระทั่งเข้าซื้อโรงพิมพ์หนังสือเรียนของอเมริกาและยุโรป ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่ออะไรรู้ไม๊ครับ "เพื่อบิดเบือนและเขียนประวัติศาสตร์ทั้งหมดใหม่ในแบบที่เค้าต้องการให้เป็น"  แล้วเอามาสอนพวกเราให้เชื่อตามตำราเรียนเหล่านี้ครับ 


มาถึงจุดนี้คงจะเห็นภาพ และเหตุการณ์ในปัจจุบันคงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีอยู่แล้ว แต่ผมมีพยานอีก 1 ปากครับ เค้าพยายามเปิดเผย และบอกเรื่องนี้กับชาวโลกว่า "มีองค์กรลับอยู่จริง" แล้วกำลังทำอะไรบ้าง และเพื่ออะไร เค้าขอให้สื่อและประชาชนอยู่ข้างเค้า และช่วยเค้าในเรื่องนี้ครับ ท่านคือ JFK หรืออดีต ปธน.จอห์น เอฟ เคเนดี้ นั่นเอง เรามาดูครับว่าท่านพยายามจะบอกอะไร กับชาวโลก แต่เพียง  2 ปี หลังจากความพยายามครั้งนั้น ท่านก็ถูกลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยมครับ โดยคนกลุ่มนี้นั่นเอง



"The very word "secrecy" is repugnant in a free and open society; and we are as a people inherently and historically opposed to secret societies, to secret oaths and secret proceedings. We decided long ago that the dangers of excessive and unwarranted concealment of pertinent facts far outweighed the dangers which are cited to justify it. Even today, there is little value in opposing the threat of a closed society by imitating its arbitrary restrictions. Even today, there is little value in insuring the survival of our nation if our traditions do not survive with it. And there is very grave danger that an announced need for increased security will be seized upon those anxious to expand its meaning to the very limits of official censorship and concealment. That I do not intend to permit to the extent that it is in my control. And no official of my Administration, whether his rank is high or low, civilian or military, should interpret my words here tonight as an excuse to censor the news, to stifle dissent, to cover up our mistakes or to withhold from the press and the public the facts they deserve to know."

"For we are opposed around the world by a monolithic and ruthless conspiracy that relies on covert means for expanding its sphere of influence--on infiltration instead of invasion, on subversion instead of elections, on intimidation instead of free choice, on guerrillas by night instead of armies by day. It is a system which has conscripted vast human and material resources into the building of a tightly knit, highly efficient machine that combines military, diplomatic, intelligence, economic, scientific and political operations.

Its preparations are concealed, not published. Its mistakes are buried not headlined. Its dissenters are silenced, not praised. No expenditure is questioned, no rumor is printed, no secret is revealed."

"No President should fear public scrutinity of his program. For from that scrutiny comes understanding; and from that understanding comes support or opposition. And both are necessary. I am not asking your newspapers to support the Administration, but I am asking your help in the tremendous task of informing and alerting the American people. For I have complete confidence in the response and dedication of our citizens whenever they are fully informed.

I not only could not stifle controversy among your readers-- I welcome it. This Administration intends to be candid about its errors; for as a wise man once said: "An error does not become a mistake until you refuse to correct it." We intend to accept full responsibility for our errors; and we expect you to point them out when we miss them.

Without debate, without criticism, no Administration and no country can succeed-- and no republic can survive. That is why the Athenian lawmaker Solon decreed it a crime for any citizen to shrink from controversy. And that is why our press was protected by the First (emphasized) Amendment-- the only business in America specifically protected by the Constitution-- not primarily to amuse and entertain, not to emphasize the trivial and sentimental, not to simply "give the public what it wants"--but to inform, to arouse, to reflect, to state our dangers and our opportunities, to indicate our crises and our choices, to lead, mold educate and sometimes even anger public opinion.

This means greater coverage and analysis of international news-- for it is no longer far away and foreign but close at hand and local. It means greater attention to improved understanding of the news as well as improved transmission. And it means, finally, that government at all levels, must meet its obligation to provide you with the fullest possible information outside the narrowest limits of national security...

"And so it is to the printing press--to the recorder of mans deeds, the keeper of his conscience, the courier of his news-- that we look for strength and assistance, confident that with your help man will be what he was born to be: free and independent."
 

ลิ๊งเพิ่มเติมจากเหตุการณ์จริงและหาดูได้ยากครับ :

Dollar Index (USDX)........ Update

USDX  76.77 (-0.28) ดูเหมือนยาของ G20 จะเริ่มหมดฤทธิ์แล้วครับ แค่ข้ามคืนสถานการณ์พลิกกลับเป็นคนละข้างเลย ดอลล่าโดนบีบรอบด้านครับ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ดูปัจจัยเหล่านี้ครับ


1. ณ วันนี้ 12% หรือคนอเมริกันถึง 35 ล้านคนฝากชีวิตไว้กับคูปองอาหาร ( Food Stamp )ที่หน่วยงานการประกันต่างๆ ของรัฐบาลแจกให้ครับ ซึ่งมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จากการอัตราการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ 
http://thecomingdepression.blogspot.com/2009/09/35-million-americans-on-food-stamps-12.html


2.อ้าวทำงี้ได้ไง แหกโค้งแซงหน้าผู้ว่าคนเหล็กแห่งรัฐแคลิฟอเนียไปแล้วครับ 
MI "Michigan" หรือรัฐมิชิแกน ไปไม่ไหวแล้วครับ รัฐบาลท้องถิ่นต้องปิดตัวเองลงอย่างไม่มีกำหนด คือสาธารณูปโภคต่างๆ ของรัฐจะทยอยหยุดให้บริการ คือประชาชนต้องพึ่งตัวเองทั้งหมดครับ น้ำ ไฟ โทรศัพท์ ดับเพลิง โรงพยาบาล ตำรวจ ทุกอย่างเพราะไม่มีเงินจ่ายแล้วครับ และรัฐอื่นๆ ก็คงจะตามมาติดๆ หลัง 1 ตุลาคมนี้เพราะเป็นการเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ ถ้าปิดหีบงบประมาณของปีหน้าไม่ได้ (Short Fall)ตามรัฐธรรมนูญของเค้าก็บริหารต่อไปไม่ได้ครับ งบดุลย์ของปีที่ผ่านก็ติดกันให้ยุ่งไปหมด ที่ไปออก IOU ไว้ก็ยังจ่ายไม่หมด  ไปไม่ไหวครับ 
http://thecomingdepression.blogspot.com/2009/09/michigan-to-shut-down-next-week.html


3.FDIC กองทุนค้ำประกันเงินฝากของสหรัฐอาจจะต้องล้มละลายครับ ตอนนี้เกิดสภาพกองทุนติดลบไปเรียบร้อย และต้องการเงิน 45 Billion เพื่อมีลมหายใจต่อไปได้ แต่โอบาม่าประกาศไปแล้วว่า ไม่อุ้มครับ ให้ไปดิ้นเอาเอง (กดระเบิดไปเรียบร้อย รอเวลาเท่านั้นเอง) ที่บอกว่าจะไปกู้จากธนาคารขนาดใหญ่ ก็ผิดหลักการอีกเพราะจะไปเอาเงินของธนาคารมารองรับการล้มละลายของธนาคารเอง ตอนนี้ FDIC เหลือทางออกไม่มากแล้ว ใครที่ยังฝากเงินตามแบ๊งค์เล็กของอเมริกา เตรียมถอนออกได้เลยครับ เพราะระบบธนาคารกำลังจะตันและล่ม เพราะถ้าข่าว FDIC แดงออกมาคนจะไปแห่ถอนเงิน ระบบธนาคารจะล้มครืนทันที 
 http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601039&sid=aEKc7Yh8ogXw
http://www.zerohedge.com/article/fdic-discloses-deposit-insurance-fund-now-negative





4.กลุ่มค้าปลีกขนาดยักษ์ แบรนด์เนม ชั้นนำต่างๆ เตรียมปิดตัวหรือลดจำนวนสาขาลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายกันเป็นแถบครับ ดูรายชื่อกันเอาเองครับ เห็นรายชื่อแล้วบอกได้คำเดียวว่าหนาวววววครับ 
http://www.walletpop.com/specials/retail-stores-closing-doors


5.กลุ่ม BRIC+ คือ Brazil, Russia, India, China, Iran, Venezuela และแถบอเมริกากลางแลพใต้ทั้งหมดประกาศไม่เอาดอลล่านานแล้วครับ แล้วตอนนี้อิหร่านประกาศอย่างเป็นทางการว่าการซื้อขายน้ำมันต่อไปนี้รับเฉพาะเงินยูโรเท่านั้น ดอลล่าไม่เอาครับ ระวังจะจบลงแบบอิรัคล่ะ เพราะประกาศแบบนี้เหมือนกันเปี๊ยบ
http://thecomingdepression.blogspot.com/2009/09/iran-stops-using-us-dollar-to-buy-oil.html


6.รอแค่ว่านโยบายจากรัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นว่าจะเอายังไง แต่เค้าประกาศมาตลอดว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง เค้าไม่เอาดอลล่าเหมือนกันครับ ถ้าเบอร์ 1 คือจีน และเบอร์ 2 คือญี่ปุ่นไม่เอาด้วยคงรู้นะครับว่าดอลลาจะเป็นยังไงต่อไป *******อัดทองเต็มที่ครับ
http://thecomingdepression.blogspot.com/2009/09/japan-to-dump-us-dollar.html
http://www.thetrumpet.com/index.php?q=6567.5047.0.0


7.เงินดอลล่าโดนอัดอย่างหนักในการประชุม G20 ครั้งนี้ครับ สรุปอย่างไม่เป็นทางการว่าต้องเปลี่ยนดอลล่าออก แล้วเอา SDR เสียบ (Special Drawing Right กลุ่มดำขาวเตรียมไว้นานแล้ว เข้าทางเลย) แต่กรอบเวลาและวิธีการให้แต่ละชาติไปวางแผนเล้วเอาไปประชุมใน G20 ครั้งหน้าคืออีก 6 เดือนครับ 
http://news.yahoo.com/s/afp/financeeconomyg20forexuschina












วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

สรุปประเด็น G20 Summit Pittsburgh, PA



G20 SUMMIT, Pittsburgh, PA. USA 
On Sept. 24-25.


The summit will focus on how to boost the recovery of the worldeconomy and its continuous development, improve financial monitoring, reform international financial institutions, work out an exit strategy for economic stimulus measures, and battle against trade protectionism.

The following are some of the views on these issues from parties to attend the summit.

การประชุมจะมุ่งเน้นประเด็นไปเพื่อเร่งการฟื้นตัวของโดยรวมของเศรษฐกิจโลก และความต่อเนื่องของการพัฒนา ปรับปรุงการตรวจสอบภาคการเงิน ปฏิรูประบบสถาบันการเงินในระดับนานาชาติ หาทางออกให้กับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านๆ มา และต่อสู้กับการกีดกันทางการค้า


และต่อไปนี้เป็นความเห็นและมุมมองในบางประเด็นของผู้ร่วมการประชุมในครั้งนี้ครับ

ON IMBALANCE OF DEVELOPMENT

U.S. President Barack Obama recently proposed a sustainable and balanced development framework in which all G20 members would adjust their economic policies to make the world economy more balanced.

The U.S. government insists that China and Germany, with export-oriented economies, unduly rely on exports and continuously increase trade surpluses, which flow back to the United States in the form of investment and breed financial bubbles. It says China and Germany should reduce exports to the United States and import more U.S. products to avoid future crises.

China says the global economic imbalance is a special phenomenon in the process of economic globalization and due to many complex factors. It will take time to solve the problem and any measures adopted should be gradual and orderly and avoid sharpups and downs in the world economy.

Helping developing countries, especially the most underdeveloped, is the way to address the problem of imbalanced development in the world, China says. China has expressed its hope that the Pittsburgh summit will yield positive results in this area.

The Chinese government recently revealed a package of measures to aid developing countries, which covered agriculture, food aid, education and training, health, clean energy, debt-relief, zero tariffs and other fields.


ความไม่สมดุลย์ของการพัฒนา

โอบาม่าเสนอกรอบความร่วมมือในการรักษาสมดุลย์ทางเศรษฐกิจระหว่างกลุ่มสมาชิกด้วยกันเองเพื่อให้สมาชิกแต่ละประเทศได้ปรับปรุงเศรษฐกิจของตนเองเพื่อให้การค้าโลกสมดุลย์ขี้น

รัฐบาลสหรัฐยังคงยืนยันให้จีนและเยอรมันที่เน้นการส่งออกเป็นหัวใจของเศรษฐกิจ ให้ลดการพึ่งพาการส่งออกและลดการเกินดุลทางการค้าลง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการเร่งการลงทุนในสหรัฐและนำไปสู่การสร้างฟองสบู่ในที่สุด และยังเสนอให้จีนและเยอรมันลดปริมาณการส่งออกมายังสหรัฐ แต่ให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้นเป็นการทดแทนเพื่อป้องกันวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคต


จีนเห็นว่าการไม่สมดุลย์นี้เป็นปรากฏการณ์ที่พิเศษ ที่เป็นผลของโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจและปัจจัยที่ซับซ้อนอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา และมาตรการต่างๆ จะต้องทำด้วยความต่อเนื่องและเป็นขั้นตอนโดยลำดับเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

การให้ความช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนาคือหนทางที่จะแก้ปัญหาความสมดุลย์ของเศรษฐกิจโลก จีนคาดหวังที่จะเห็นการประชุมครั้งนี้ส่งผลบวกต่อประเทศต่างๆเหล่านี้

ไม่นานมานี้รัฐบาลจีนได้เปิดเผยถึงแผนความช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาเหล่านี้ ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมการเกษตร ความช่วยเหลือทางด้านอาหาร การศึกษาและอบรม สุขภาพ พลังงานสะอาด การลดหนี้สิน พิกัดอัตราภาษี และในด้านอื่นๆ

ON INTERNATIONAL FINANCIAL REGULATIONS

China has brought forward a series of proposals to boost financial regulation, including strengthening crisis early warning, improving evaluation of the fragility of international and national financial regimes, paying more attention to the influences of international monetary environment changes and cross-border capital flow on the stability of financial systems, increasing financial institutions' capital and its liquidity, implementing stable profit-sharing and salary management measures, and enhancing financial institutions' risk resistance capacity.

On Sept. 17, European Union (EU) leaders listed seven principles to curb the salaries of senior bank officials. European Commission President Jose Manuel Barroso said the EU should rein in senior bank officials' salaries even without the U.S. support.

การควบคุมและตรวจสอบระบบการเงินในระดับนานาชาติ


จีนได้หยิบยกข้อเสนอต่างๆขี้นมาเพื่อเร่งการควบคุมและตรวจสอบทางการเงิน รวมถึงการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบเตือนภัยทางเศรษฐกิจ พัฒนาวิธีการวิเคราะห์ความเปราะบางของกลุ่มการเงินในระดับประเทศและระดับโลก ใส่ใจกับอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางการเงินในระดับชาติ และการเคลื่อนย้ายเงินทุน ที่มีผลกระทบต่อความมีเสถียรภาพของระบบการเงิน การเพิ่มขึ้นของทุนและสภาพคล่องของสถาบันการเงิน การจัดเตรียมวิธีการการแบ่งปันผลกำไรและผลตอบแทน เพื่อป้องกันความเสียงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันการเงินต่างๆ

วันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา Mr. Jose manuel Barroso ประธานสหภาพยุโรป ได้ร่างแผน 7 ประการเพื่อกำหนดกรอบการจ่ายเงินโบนัสหรือการแบ่งปันผลประโยชน์แก่ผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงินต่างๆ แม้จะไม่มีเสียงสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐก็ตาม

ON REFORMING INTERNATIONAL FINANCIAL INSTITUTIONS

The developing countries in the G20 are demanding a greater sayin the International Monetary Fund (IMF) and the World Bank (WB).

China says the Pittsburgh summit should further reveal the need to transfer voting power from developed to developing countries to provide fairer representation in fund organizations.

China also insists developing countries and emerging markets should also have a bigger slice of senior administrative seats at fund institutions, so that the administrations have wider representation and more legality.

Although the United States agrees that the developing countries and emerging economies should be better represented in international financial blocs, it insists the EU, instead of the United States, should cut their shares in the IMF and WB

การปฏิรูประบบสถาบันการเงินในระดับนานาชาติ

ประเทศกำลังพัฒนาที่เข้าร่วมในการประชุม G20 ต้องการการมีส่วนร่วมหรือมีอิทธิพลมากขึ้นในองค์กรการเงินระหว่างประเทศเช่น IMF และ World Bank

จีนเสนอให้การประชุมครั้งนี้ เป็นการเปิดกว้างให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นในการออกเสียงเพื่อกำหนดนโยบายองค์กรการเงินระหว่างประเทศดังกล่าว คือจีนพยายามเรียกร้องถึงความเสมอภาคระหว่างชาติที่กำลังพัฒนา และชาติที่พัฒนาแล้ว ในการเข้าไปบริหารจัดการกองทุนเหล่านี้ด้วยครับ

จีนยังมีความพยายามที่จะเสนอให้ชาติที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ มีสัดส่วนที่มากขึ้นในการเข้าไปเป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์การเงินระหว่างประเทศเหล่านั้น เพื่อให้ผลของการประชุมในระดับต่างๆ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและเป็นไปตามหลักของฏหมายระหว่างชาติสมาชิก

ถึงแม้สหรัฐแสดงท่าทีเห็นด้วยในส่วนนี้ แต่ผลกระทบจะไปตกอยู่กับสหภาพยุโรปที่จะต้องตัดและเสียส่วนแบ่งในการออกเสียง IMF และ World Bank จึงมีการประท้วงออกมาจากสหภาพยุโรปในเรื่องนี้ครับ

EXIT STRATEGY AND PROTECTIONISM

The global economy has shown signs of recovery, prompting the design and implementation of an exit strategy for economic stimulus measures to be brought onto the agenda.

Early this month, financial ministers and central bank governors of the G20 gathered in London and reached consensus that all countries should keep a discreet attitude on whether to conduct the exit strategy so that a wrong signal would not be sent to the market.

They agreed that only after the foundation for the world recovery had become solid, should each country consider stopping its stimulus measures.

South Korean President Lee Myung-bak said, although the world economy was still at risk of a renewed downturn, countries concerned should implement a proper and orderly exit strategy, phasing out economic stimulus measures in the coming months.

He said G20 leaders should reach consensus on what should be the principles for the exit strategy at the Pittsburgh summit, but different countries could carry out their own specific measures for the strategy according to their own timetables.

On trade protectionism, China has clearly expressed its opposition to protectionism and pushed forward the Doha round of trade talks to reach a comprehensive and balanced outcome.

On Monday, British Prime Minister Gordon Brown told a press conference that "we want a world without protectionism... we must remember the lessons from past recessions and that the more trade there is, the better chances the resumption of growth and the better the chances of jobs."

หนทางออกจากวิกฤติและการป้องกัน

เศรษฐกิจโลกได้ส่งสัญญาณการฟื้นตัว จึงมีการวางแผนเพื่อจะออกจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและนำมาถกกันในการประชุมครั้งนี้ครับ

เมื่อต้นเดือนในลอนดอน มีการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของสมาชิกในกลุ่ม G20 ได้มีความเห็นร่วมกันที่จะให้ชาติสมาชิกมีความรอบคอบในการเปลี่ยนแปลงวิธีการในกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดออกสู่ตลาด

ยังมีความเห็นร่วมกันว่า จะต้องเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจนแล้วเท่านั้น จึงจะหยุดมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจได้

นายลี มยุง บัค ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ถึงแม้เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังมีความเสี่ยงกับการกลับไปถดถอย แต่ก็ควรวางมาตการที่ถูกต้องและเป็นขั้นตอนเพื่อออกจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้อยู่ (คือการอัดเงินเข้าสู่ระบบ) เพื่อออกจากมาตรการดังกล่าวในเดือนต่อๆ ไป

เค้ายังกล่าวว่าชาติผู้นำใน G20 ควรมีความเห็นร่วมกันว่า อะไรคือหัวใจสำคัญของการออกจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแต่ละประเทศสามารที่จะกำหนดกลยุทธและกรอบเวลาที่เหมาะสมของตัวเอง

ในหัวข้อเรื่องการกีดกันทางการค้า จีนแสดงท่าทีอย่างชัดเจนที่จะต่อต้านเรื่องนี้ และผลักดันให้การเจรจาทางการค้ารอบโดฮา สัมฤทธิ์ผลอย่างสมบูรณ์

เมื่อวันจันทร์ก่อนการประชุม กอร์ดอน บราวน์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศว่าเค้าต้องการให้ระบบการค้าโลกโดนยรวมปราศจากการกีดกันทางการค้า และกล่าวว่า "เราต้องจดจำบทเรียนของความตกต่ำทางเศรษฐกิจในครั้งที่ผ่านมา และ เมื่อการค้าขยายตัวขึ้น ก็เป็นโอการของการกลับมาขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน"


ส่วนอันนี้เป็นสรุปการประชุม 2 ครั้งก่อนที่ วอชิงตัน ดีซี และลอนดอนครับ
http://news.xinhuanet.com/english/2009-09/24/content_12105225.htm

Gold Update....This way

ดอลล่าเสื่อมค่า 99.98% นับจากปี 1971-ปัจจุบัน


เงินดอลล่าเสื่อมค่าลงไป 96% จากปี 1913 และเหลือมูลค่าหรือกำลังซื้อจริงเหลือเพียง 4% เป็นตัวเลข ณ สิ้นปี 2007  แต่.......นี่ยังไม่นับรวมผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการอัดฉีดเงินดอลล่าจำนวนมหาศาลถึง 700 Billion - 2 Trillion เข้าสู่ระบบด้วยการพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อเข้าไปอุ้มกลุ่มทุนวอลสตรีทที่อยู่เบื้อหลังรัฐบาล ก็คือมูลค่าหรือกำลังซื้อจริงอาจจะเหลือเพียง 0.02% สรุปก็คือดอลล่าเสื่อมค่าไป 99.98% นับตั้งแต่ปี 1971 จนถึงปัจจุบัน 


ส่วนอีก 0.02% ก็คือมูลค่าจริงของเงินดอลล่า ณ ปัจจุบัน หรือคือส่วนที่เหลือที่ทำให้เงินดอลล่ายังคงอยู่และยังอยู่คงในกระเป๋าสตางค์ของผู้คนในโลกอยู่ตอนนี้ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นครับ และอาจจะภายใน 6-18 เดือนข้างหน้านี้ครับ ที่เค้าพยายามทำตอนนี้ก็คือ ยื้อเวลาและลากสถานภาพนี้ไปจนถึงจุดหนึ่งเท่าที่่เค้าต้องการเท่านั้นเอง 




วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

H1N1 ( ไข้หวัด 2009 ).......Update


จำได้ว่ามีคนขอรูปตัวอย่างหน้ากาก แบบ N95 ของผมที่มีอยู่เอาติดมาจากอเมริกา เป็นของ 3M Aseptex N95 จะเป็นแบบหมอและพยาบาลเค้าใช้กันครับ (เหมือนในรูป) เวลาหาซื้อลองถามหมอหรือพยาบาลก่อนก็ได้ครับ น่าจะมีขายตามร้านเครื่องมือแพทย์หรือร้านขายยาใหญ่ๆ ครับ ซื้อเตรียมไว้ได้เลยครับ หน้ากากการ์ตูน 10 บาท ของบ้านเราอย่าซื้อเลยครับเสียเงินเปล่าและเสี่ยงอีกต่างหาก ชีวิตคุณตอนนี้มีค่ามหาศาลครับ สิ่งที่คุณรู้จากบล๊อกนี้ จะช่วยชีวิตคนได้อีกเยอะครับ ขึ้นอยู่กับคุณแล้วครับ 


ถ้าใน US, UK ซื้อเตรียมไว้ได้เลย สั่ง online ได้เลยครับ ในอเมริกาต้นเดือนหน้าอากาศจะเย็นลงอีกครับ แล้วเท่าที่ได้ข้อมูลมาปีนี้ไปจนถึงอีก 5 ปีข้างหน้า ฤดูหนาาวอากาศจะหนาวจัดมาก และโอกาสการระบาดมีสูงครับ เอาเวบนี้ไว้ดูอัพเดตครับ เป็นความเคลื่อนไหวเรื่องไวรัสหวัดจากทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกาให้ดูจากวันที่ 5-15 ของเดือนตุลาคม จะมีการให้ให้วัคซีนในเด็กและผู้ใหญ่ในรูปแบบของยาพ่นจมูก ที่ผมมีข้อมูลมามีสิ่งผิดปกติครับ " การระบาดใหญ่อาจจะเริ่มจากตรงนี้ " 




เรื่องนี้ "ซีเรียส" ครับ รัฐที่ผมเคยอยู่ "Massachusette" มันทำเกินไปครับ ออกกฏหมายบังคับฉีดวัคซีน ถ้าไม่ฉีดปรับวันละ $1,000 หรือไม่ก็ต้องกักกัน หรือเข้าคุกครับ ทุกอย่างเค้าจ่อรออยู่หมดแล้ว แค่คำสั่งกดปุ่มปล่อยเท่านั้นเอง







ประเทศไทยไปรับเงิน WHO หรือองค์การอนามัยโลกมา $70 ล้าน เพื่อผลิตวัคซีนครับ WHO ก็กลุ่มนี้แหละครับ เค้าคิดอะไรต้องตามให้ทันครับ กระจายเรื่องนี้ไปครับ ใครไม่เชื่อช่างเค้า ปล่อยเค้าเป็นหนูลองวัคซีนไป ช่วงที่ระบาดร่างกายเราต้องแข็งแรงที่สุด 


( วิตามิน D จากแสงแดด คือกุญแจของเรื่องนี้ครับ คือในฤดูหนาวแสงแดดจะน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยบางทีเป็นอาทิตย์ โดยเฉพาะในเมืองหนาวจะเห็นชัดมาก จะไปทำให้ปริมาณวิตามิน D ในร่างกายเราต่ำลงผิดปรกติ และเจ้า Vit D นี่แหละที่เป็นตัวควบคุมและเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน หรือ Anti Body ในร่างการของมนุษย์ ให้ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ คือไม่ใช่เชื้อโรคมันแข็งแรงนะ แต่ร่างกายเราเองที่อ่อนแอลง ยิ่งถ้าเป็นเชื้อไวรัสที่รุนแรงเราก็จะเป็นหนักมาก แค่นี้เองครับระบบการทำงานของร่างกายมนุษย์  ) 
***แล้วจะหาผลงานวิจัยมาเสริมให้เรื่อง Vit D ครับ ไม่รู้ไปเก็บไว้ไหนแล้ว


อัดวิตามิน C เพิ่มจากผลไม้ให้มีปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน (ระวังการ overdose จะเป็นผลเสีย) พักผ่อนให้เพียงพอ และหน้ากาก ของบ้านเราพอเข้าหนาวก็คงจะระบาดเหมือนกัน อย่าโทษว่าธรรมชาติหรือพระเจ้าลงโทษอะไร คนพวกนี้แหละที่เป็นคนทำ ข้อมูลหลักฐานเต็มไปหมดในอเมริกาฟ้องร้องบริษัทยา บริษัทที่ผลิตวัคซีน รัฐบาล กันเยอะมากครับ แต่ทุกอย่างเป็นของเค้า ก็ต้องทำใจครับ





ไม่ว่าท่านใดที่มีข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ ขอแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ด้วยนะครับแล้วผมจะรีบเอาขึ้นโพสต์หน้าหลักทันทีที่ตรวจสอบและยึนยันข้อมูลแล้วครับ  

Dollar Index (USDX)........ Update

กราฟเทคนิควิเคราะห์ดอลล่าอินเด็กซ์ 
(ช่วง 28 กันยายน - 2 ตุลาคม 09)



Gold Update....This way

เป้าหมายราคาทอง $1,500 ลองดู Link นี้ครับทั้งการวิเคราะห์กราฟแทคนิค และปัจจัยพื้นฐานครบเครื่อง ข้อมูลแน่นหนามากครับ ขอบอก!!! นีดึงมาบางส่วน เดี๋ยวมาแปลให้อีกทีครับ ใครอ่านได้ อ่านนำไปก่อนเลยครับ.......

http://www.kitco.com/ind/degraaf/sept242009.html


นี่คือปัจจัยพื้นฐานบางส่วนที่จะดันราคาทองไปแตะที่ระดับ $1,500 / ออนซ์ครับ
    • เมื่อระดับราคาทองคำทะลุ $1,000 ทำให้ไม่มีแนวต้านของราคาใดๆ ที่ทองคำจะฝ่าไปไม่ได้
    • เกิดปรากฏการณ์การเสื่อมค่าของเงินสกุลต่างๆพร้อมกันทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
    • โดยปกติกลุ่มธนาคารกลางจะเป็นผผู้ควบคุมราคาทองคำ โดยการนำทองคำสำรองที่มีออกมาเทขายในตลาดโลก แต่กลับกลายเป็นผู้ที่ต้องซื้อทองคำเก็บเข้าเสียเอง รัสเซียกว้านซื้อทองคำเข้าคลัง 300,000 ออนซ์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จีนประกาศเข้าซื้อทองคำ 403.3 ตัน หรือท้ังหมดที่ IMF นำออกมาเสนอขาย และจะเข้าซื้อทันทีที่ราคาอ่อนตัวลง ที่ผ่านมากลุ่มธนาคารกลางนำทองออกมาทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้่งที่ไม่มีการปรับตัวเลขทางบัญชี ทองคำที่ว่ากันว่าอเมริกาเก็บไว้ที่ Fort Knox ไม่มีการเข้าไปตรวจสอบโดยองค์กรระหว่างประเทศมาตั้งแต่ปี 1953!!!  ในทางลึกไม่มีเหลือแล้วครับ สุดท้ายความพยายามของ IMF ที่จะนำทองคำออกขายแทบไม่แรงกระเพื่อมใดๆ ต่อราคาทองคำในตลาดโลกเหมือนครั้งทีผ่านๆ มา
    •  รัฐบาลจีนกระตุ้นให้ประชาชนเข้าซื้อทองคำในวงกว้าง ซึ่งเป็นการกลับลำจากนโยบายที่ผ่านๆ มาโดยสิ้นเชิง และนโยบายนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าตลาดทองคำของฮ่องกงในทันที ทำให้ร้านค้าทองคำในประเทศต้องเพิ่งปริมาณทองจำนวณมหาศาลเพื่อรองรับกำลังซื้อนี้ และนำไปสู่การดูดซับ Supply หรืออุปทานของทองคำในตลาดโลกซึ่งอยู่ในสภาวะขาดแคลนมาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว
    • จีนแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของสหรัฐ ที่ทำให้เงินดอลล่าเสื่อมค่าจากนโยบายการเงินที่ผ่านๆ มา และยังเพิ่มภาษีการนำเข้ายางรถยนต์จากจีนขึ้นอีก 25% จีนจึงตอบโต้สหรัฐด้วยการเทขายเงินดอลล่าและพันธบัตรสหรัฐออกมาอย่างต่อเนื่องโดยการเข้าซื้อ Commodity และโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่นทองคำ
    • จากการที่ธนาคารทองคำต่างๆ ของสหรัฐได้เปิดสถานะ Short ทองคำไว้ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า และถึงเวลาที่จะต้องไปไล่ซื้อทองคำเพื่อไปปิดสถานะ ท้้งๆ ที่ราคาทองคำยังอยู่ในระดับสูง และประสบภาวะขาดทุนจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้านี้อีกต่างหาก
    • ทันทีที่ราคาทองยืนอยู่เหนือ $1,000 กองทุนป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่ทำกำไรได้จากการเข้าไปเปิดสถานะ Long ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ ก็มีท่าทีที่จะเพิ่มการเข้าซื้อสัญญาใหม่ในสถานะ Long แทบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันอย่างต่่อเนื่องให้กับ ธนาคารทองคำ (Bullion Bank)เหล่านั้น 
    • นักลงทุนจำนวนมากเริ่มตระหนักแล้วว่าการเข้าซื้อสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาด GLD, SLV และ ETF ไม่น่าจะมีปริมาณทองคำเพียงพอต่อการส่งมอบอย่างแน่นอน และจะมีการผิดนัด และทิ้งสัญญาซื้อขายจำนวนมหาศาลในที่สุด นักลงทุนเหล่านี้จึงแห่เข้าซื้อทองคำจริง หรือ Actual Gold แทนการซื้อขายสัญญาหรือกระดาษ
    • อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงถึง 2 หลักเริ่มก่อตัวขึ้นจากความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติต่างๆ ด้วยนโยบายการอัดฉีดเงินกระดาษเข้าสู่ระบบ ในขณะที่อัตราการผลิตของทองคำจากเหมืองทองต่างๆ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้เพียง 1.5% ต่อปีเท่านั้น ซ้ำยังส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ถึบตัวสุงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
    • เหมืองแร่ทองคำโดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่เสื่อมค่าไปแล้ว ซึ่งแต่ละเหมืองนั้นมีอายุที่จำกัด ยกเว้นการค้นพบสายแร่ใหม่ในเหมืองนั้นๆซึ่ง ณ ปัจจุบันเกือบทุกเหมืองกำลังประสบปัญหาเดียวกันคือการค้นพบสายแร่ทองคำใหม่ในเหมืองที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ อัตราการค้นพบสายแร่ทองคำในอัฟริกาใต้ ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายความตื่นตัวและห่วงใยในสภาพแวดล้อมที่มากขึ้นในหลายๆ ประเทศก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของทองคำมีราคาที่สูงขึ้นและส่งผลให้ขั้นตอนการผลิตทองคำสู่ตลาดโลกกินเวลามากขึ้นครับ

Project H.A.A.R.P.......2/3

วีดีโอนี้จะอธิบายถึงหลักการทำงานของ เครื่อง HAARP ครับ เปรียบง่ายๆกับเครื่องดนตรีเช่นกีต้าร์ หรือเปียโน ที่จะสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเมื่อเราเล่นที่โทนเสียงต่ำๆ ครับ และเค้าใช้หลักการเดียวกันนี้ในการสำรวจแร่ธาตุในดินต่างๆ เช่นน้ำมัน ทองคำ และอื่นๆ โดยการส่งคลื่นเสียงความถึ่ต่ำประมาณ 30 วัตต์(เท่านั้น) ลงไปในชั้นหินต่างๆ เมื่อคลื่นเสียงนี้ไปกระทบกับแร่ธาตุเหล่านั้น ก็จะตอบสนองในระดับที่ต่างๆ กัน เค้าก็จะบอกได้ว่าเค้าเจออะไรจากการสำรวจนั้นๆ  


และในวีดีโอนี้อดีตรัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น เค้าออกมายอมรับครับว่า ประเทศเค้าถูกภัยคุกคามจาก "เครื่องสร้างแผ่นดินไหว" หรือ HAARP ครับ เค้าจึงต้องยอมให้ประเทศที่ทำกับเค้าควบคุมระบบการเงินทั้งหมดของญี่ปุ่น เพราะเค้าต่อต้านไม่ได้ ซึ่งฟังแล้วสลดใจมากครับ ผู้สัมภาษณ์ชาวอเมริกันคนนี้ ก็พยามยามที่จะเอาเรื่องนี้กลับมาเพื่อจะมาเปิดโปงว่าใครเป็นคนทำ และเค้าก็สู้มาตลอดเพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ครับ


อีกอย่างหนึ่งคือเราจะสังเกตุได้ถ้าเค้าใช้เครื่อง HAARP ยิงไปที่ไหน มันจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ออโรร่า (Aurora) ขึ้นบริเวณนั้นๆ ครับ คือพลังงานนับพันล้านวัตต์จากเครื่อง HAARP จะไป "เผาไหม้" และ "ทำลาย" ชั้นบรรยากาศบริเวณนั้นๆ แล้วทำให้เกิดกลุ่มเมฆมีสีสันเหมือนกับรุ้งขึ้นบนท้องฟ้าบริเวณนั้น ซึ่งก็คือ ปรกกฏการณ์ออโรร่านั่นเอง แล้วดูวีดีโอนี้ครับว่าเกิดอะไรขึ้นบนท้องฟ้าเหนือเมืองไซฉวน ของจีนก่อนที่จะมีแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดวัดความสั่นสะเทือนได้ถึง 7.8 ริคเตอร์ วีดีโอนี้ถูกถ่ายเก็บไว้ได้โดยบังเอิญโดยชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งเห็นปรากฏการณ์การประหลาดบนท้องฟ้าครับ 30 และ 10 นาทีก่อนเกิดเหตุวิปโยคครับ 







และนี่คือบทสรุปของความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นครับ




Link นี้เป็น แผนที่แสดงถึงภัยพิบัติทุกชนิด

จากทุกมุมโลกแบบ Interactive  
เพื่อจะดูว่าเค้าเอาเทคโนโลยี HAARP ไปใช้ที่ไหนบ้าง

Http://hisz.rsoe.hu/alertmap/index2.php