วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 09:45:40 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
10 บริษัทยักษ์จ่อคิว ′ล้มละลาย′ ลุ้นชะตากรรม ใครจะเป็นรายต่อไป ?
แม้กูรูด้านเศรษฐกิจจะมองว่า ภาวะต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว และเริ่มมีต้นอ่อนของเศรษฐกิจเกิดขึ้นมาหลังเกิดมรสุมการเงินครั้งล่าสุด
แต่ยังมีบริษัทอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังอยู่ในภาวะยากลำบาก รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งที่ยังต้องลุ้นว่าจะหนีพ้นจากชะตากรรม ′ล้มละลาย′ ได้หรือไม่
แม้กูรูด้านเศรษฐกิจจะมองว่า ภาวะต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว และเริ่มมีต้นอ่อนของเศรษฐกิจเกิดขึ้นมาหลังเกิดมรสุมการเงินครั้งล่าสุด
แต่ยังมีบริษัทอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังอยู่ในภาวะยากลำบาก รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายแห่งที่ยังต้องลุ้นว่าจะหนีพ้นจากชะตากรรม ′ล้มละลาย′ ได้หรือไม่
′เดอะ บิสซิเนส อินไซเดอร์′ อ้างถึงรายงานล่าสุดของ ′ออดิต อินทิกริตี้′ ที่ระบุว่า 10 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในสหรัฐมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะต้องเข้าสู่ ชะตากรรมล้มละลาย
โดยพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งไม่นับรวมบริษัทที่มีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ และจัดอันดับรายชื่อโดยพิจารณาจากดัชนีชี้วัดความเสี่ยงภาวะล้มละลายที่คำนวณจากมูลค่าตลาด (MC-market cap) เทียบกับมูลค่ากิจการ (EV-enterprise value) ซึ่งหากตัวเลข MC/EV อยู่ในระดับต่ำ จะสะท้อนว่าตลาดมีความเชื่อว่า บริษัทนั้นๆ มีความเสี่ยงจะเข้าสู่ภาวะล้มละลายมากขึ้น
′เฮิร์ตซ′ (Hertz) บริษัทให้เช่ารถยนต์รายใหญ่สุดของโลก ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 1 ของทำเนียบบริษัทจดทะเบียนที่เสี่ยง ล้มละลาย ด้วยค่า MC/EV เท่ากับ 32% เนื่องจากบริษัทมีหนี้จำนวนมหาศาล ขณะที่ความต้องการเช่ารถที่ลดลงอย่างมาก
แม้บริษัทจะยื้อชีวิตด้วยการเพิ่มทุนในเดือนพฤษภาคม แต่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ทั้ง ′ฟิทช์′ และ ′มูดีส์′ ต่างก็ปรับลดอันดับของเฮิร์ตซในเดือนกรกฎาคม
อันดับ 2 คือ ′เท็กซ์ทรอน′ ที่มีธุรกิจ หลากหลายในมือ ทั้งผลิตเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และการเงิน โดยค่า MC/EV เท่ากับ 39% ซึ่งภาวะเศรษฐกิจได้ส่งผล ต่อการขายเครื่องบินของบริษัท
เท็กซ์ทรอนต้องลดมูลค่าทรัพย์สินลง เพราะบริษัทยกเลิกการออกแบบเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ บวกกับความต้องการซื้อที่ลดลง
′สปรินต์ เน็กซ์เทล′ ผู้ให้บริการมือถือและอินเทอร์เน็ต ติดอันดับ 3 ด้วย MC/EV เท่ากับ 41% เพราะบริษัทกำลังสูญเสียลูกค้า โดยอาจเสียลูกค้าแบบ post-paid ราวๆ 4.4 ล้านรายในปีนี้ และยังติดบ่วงปัญหาหนี้ที่จะครบชำระใน 2-3 ปีข้างหน้า
ตามมาด้วยห้าง ′เมซีส์′ (Macy)ที่กำลังเสี่ยงกับชะตากรรมล้มละลายเช่นกัน โดยมีค่า MC/EV อยู่ที่ 47% โดยยอดขายในสาขาที่ดำเนินการมานานกว่า 12 เดือนของเมซีส์ มีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่องในปีนี้ และมีหนี้ที่จะครบกำหนด 5 ปีข้างหน้า 2.4 พันล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทต้องพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
′มายแลน′ (Mylan) ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ติดอันดับ 5 ด้วยค่า MC/EV ที่ 51% โดยธุรกิจของมายแลนสะดุดหลังจากควักเงินซื้อธุรกิจผลิตยาสามัญจาก ′เมิร์ค′ ในปี 2550 แพงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ขณะนี้บริษัทเผชิญกับหนี้ระยะยาว 5 พันล้านดอลลาร์
′กู๊ดเยียร์′ ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อยู่อันดับ 6 ด้วย MC/EV ที่ 53% หลังจากความต้องการยางรถยนต์ลดลง รวมทั้งต้องแบกรับหนี้และภาระเงินบำนาญก้อนโต
อันดับ 7 ได้แก่ ′ซีบีเอส′ สื่อรายใหญ่ ซึ่งถูกกระทบจากโฆษณาและค่าธรรมเนียมไลเซนส์ที่ลดลง จนทำให้รายได้ของซีบีเอสในปีนี้เหมือนยืนอยู่บนปากเหว และหากยังคงเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างยาวนาน ก็อาจทำให้บริษัทมีปัญหาในการรีไฟแนนซ์หนี้มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ที่จะครบกำหนดภายใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ค่า MC/EV ของซีบีเอสอยู่ที่ 55% และบริษัทเสี่ยงที่จะเผชิญความยากลำบาก ไม่ว่ารายได้ที่ทรุดหนักจะเกิดขึ้นตามวัฏจักรของธุรกิจ หรือเป็นผลจากเทรนด์ของธุรกิจสื่อดั้งเดิมอย่างทีวี ที่กำลังล้มหายตายจาก
อันดับ 8 ผู้ผลิตโปรเซสเซอร์รายใหญ่ ′แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์′ (เอเอ็มดี) ที่มีค่า MC/EV ที่ 55% เช่นกัน โดยบริษัทมีหนี้ระยะยาวมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทอาจขาดทุนมากขึ้นอีกในปีนี้และปีหน้า หลังขาดทุนไปราว 3 พันล้านดอลลาร์ ในระหว่างปี 2550-2551
ตามด้วยอันดับที่ 9 ′ลาสเวกัส แซนด์ส′ ขาใหญ่ในธุรกิจกาสิโน ที่มีค่า MC/EV อยู่ที่ 60% โดยบริษัทติดบ่วงปัญหาจากการโหมขยายธุรกิจมากเกินไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ขณะนี้มีหนี้มากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากอาการไม่ดีขึ้นก็เป็นไปได้ที่บริษัทจะลงเอยที่ศาลล้มละลาย
สุดท้ายอันดับที่ 10 ′อินเตอร์พับลิก กรุ๊ป′ บริษัทโฆษณาและการตลาด ซึ่งมีค่า MC/EV ที่ 80% โดยบริษัทได้รับแรงกระแทกจากภาวะถดถอยอย่างหนัก โดยตัวเลขรายได้ลดลงในระดับเลข 2 หลัก และมีแนวโน้มที่สถานการณ์ย่ำแย่จะหยั่งลึกและยาวนาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น