วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

เปิดโปง..911 ( ช๊อคโลก..วินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด)

หลังจากที่ผมได้รับวีซ่าเดินทางเข้าอเมริกา เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2001 ผมต้องกำหนดวันเดินทางเพื่อจะซื้อตั๋วครับ

และผมเลือกวันที่ 11 กันยายน 2001 เพราะผมมีกำหนดจะต้องไปส่งเพื่อนอีกคนขึ้นเครื่องเพื่อไปประเทศจีนวันที่ 11 พอดี เพื่อที่จะไม่ต้องไปสนามบินหลายๆเที่ยว จึงไปติดต่อบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในห้างเพนนินซูล่าพลาซ่า ย่านราชประสงค์ แต่หาตั๋วไม่ได้ครับ แต่ก็ยังยืนยันวันที่ 11 เพราะไม่อยากไปสนามบินหลายๆ เที่ยวอยู่ดี ก็เลยขอให้เค้าใส่ชื่อไว้ในรายชื่อแสตนบาย (Waiting List) ของวันที่ 11 ครับ จนในที่สุดวันที่ 8 ทางบริษัททัวร์เค้าก็โทรมาแจ้งว่า คงไม่ได้นะ ถ้าจะยืนยันตั๋วเลย Confirm จะได้วันที่ 17 เร็วที่สุด ตอนนั้นต้องตัดสินใจครับ ทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้ว ต้องไปครับ เพราะถ้าไม่ไปเดี๋ยวเค้ามีการประกาศเปลี่ยนแปลงก็ต้องวุ่นวาย ตกลงครับ

ผมได้ตั๋ววันที่ 17 ครับ ด้วยสายการบินนอร์ธเวสครับ เส้นทางการบิน

ของผมคือ Bangkok-Narita(Japan)-Minneapolis(MN)

-Boston(Massachusette) แล้วน้าชายจะมารับที่ Logan Airport, Boston สรุปว่าก็ไปส่งเพื่อนเค้าขึ้นเครื่องช่วงบ่ายครับ เราก็กลับบ้านมารอต่อไป แต่………..ช่วงเย็นวันนั้นกลับมาถึงบ้านก็เปิดโทรทัศน์ ก็เกิดเหตุการณ์เครื่องบินชนตึก World Trade Center ครับและ CNN กำลังรายงานสด …….ผมรอดครับ…….

ตามข่าวเครื่องบินถูกจี้จากสนามบินที่ผมจะต้องไปลงครับ 3 ลำ อีกลำจากนิวยอร์ค แต่ถึงผมไปได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเวลาคลาดเคลื่อนกันประมาณ 6 ชั่วโมง ปัญหาคือถ้ามันจี้จากที่อื่นล่ะ เช่น MN ถ้าผิดที่ ผิดเวลา คงไม่ได้มาพิมพ์อยู่ตรงนี้ครับ แต่ถ้ารอดก็ต้องไปลง แคนาดาครับ เพราะเค้าปิดน่านฟ้าแล้วสั่งเครื่องลงหมด ใครไม่ลงยิงครับ เค้ายอมเสีย ก็อาจจะต้องไปลงแคนาดาเป็นอาทิตย์ แต่ถ้าเพี้ยนไปจากนี้ผมอาจจะต้องไปจอดพักหรือเปลี่ยนเครื่องบนตึกสูงบางแห่งของนิวยอร์คครับ หรือไม่ก็พาไปเยี่ยมคาราวะประธานาธิบดีบุชที่ White House เลย รู้สึกเป็นเกียรติครับ แต่ไม่เอาครับ ผมขอเค้าว่าไม่ไปดีกว่า……….

เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น โดยส่วนตัววันนี้ผมคิดว่าผมมีคำตอบแล้วครับ คำตอบที่อาจจะช๊อกความรู้สึกของคนโดยส่วนใหญ่ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ผมตัดสินใจกลับเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี่ครับ แต่ก่อนตัดสินใจกลับ ผมศึกษาข้อมูลและหลักฐานอยู่ 2-3 อาทิตย์ทั้งวันทั้งคืน บางวันนอน 2-3 ชม. คอมพิวเตอร์ 2 เครื่องกับอินเตอร์เนตความเร็วสูง ส่งข้อมูลกันไปมา ต่อภาพกันครับ ยิ่งต่อยิ่งสมบูรณ์ ยิ่งค้นยิ่งแตกประเด็น ไปเจอเรื่องอื่น หนักเข้าไปอีกครับ ยังไงก็ไม่เชื่อครับ เพราะถ้าเชื่อเราต้องทิ้งทุกอย่างที่เราสร้างมาทั้งหมด ค้นต่อไปครับ 


มีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ และไม่น่าเชื่อ และไม่น่าจะเป็นไปได้ และไม่มีใครตอบเราได้ครับ แต่ยิ่งค้น ข้อมูลยิ่งแน่นครับ ไปเจออะไรหลายๆ อย่างที่แม้แต่คนอเมริกันเองก็ไม่รู้ แล้วเค้าก็ให้คำตอบเราไม่ได้ ทั้งเรื่องอาวุธเชื้อโรค ไข้หวัดต่างๆ "การล้มเศรษฐกิจสหรัฐและเงินดอลล่า" รวมทั้งแผนการต่างๆ ที่เค้าวางกันไว้ ซึ่งเรามีข้อมูลมากับเราแล้วทั้งหมด ในหลายๆมุมมองว่าใครเป็นใคร หน่วยงานไหน ทำเพื่ออะไร ผมจะไม่เชื่อถ้าเรามีข้อมูลจากแหล่งเดียวและพิสูจน์ไม่ได้ แต่ที่เรามีส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาลและรัฐสภาของเค้าเอง เนื่องจากรัฐบาลเค้าใหญ่มาก ต่างคนต่างปล่อยข้อมูล ซึ่งเยอะมาก และไม่มีใครสนใจจะไปดูมันครับ แต่ผมไม่มีทางเลือกและต้องดูเพื่อยืนยันความเชื่อและข้อมูลที่เราสงสัย

ทั้งเรื่องการเตรียมพร้อมกฎหมายรองรับเศรษฐกิจล้ม กฏอัยการศึก ค่ายกักกัน โลงศพพลาสติคหลายล้านใบและหลุม(mass grave)ที่พร้อมใช้งาน การถล่มของตลาดหุ้น ภาวะการว่างงาน ทุกอย่างไปทิศทางเดียวกัน มีกระทั่งสัญญาที่บุชจ้างบริษัทของดิ๊ก เชนีย์รองปธน. ของตัวเองก่อสร้างค่ายกักกัน ที่อาจจะเอาไว้ใช้กรณีที่มีการระบาดขั้นร้ายแรงของโรคระบาดบางอย่างในวงกว้าง ในระดับประเทศ หรือแม้แต่ในระดับโลก ทั้งหมดถูกระทำผ่านทางบรษัท Hariburton และเอกสารแสดงสิทธิบัตรการผลิตโลงศพพลาสติครุ่นพิเศษ แบบซ้อนกันได้ ประหยัดพื้นที่ โลงนึงใส่ได้ 2-3 ศพ เป็นของกองควบคุมโรคติดต่อหรือ CDC ของเค้า น่าจะสั่งทำไว้ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านใบตามแคมป์ต่างๆทั่วสหรัฐ เค้ารู้อะไร?? หรือจะทำอะไร?? โดยทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ชวนให้สงสัยครับ แต่ไม่มีคำตอบใดๆทั้งสิ้น หรือแม้แต่หน่วยที่สั่งผลิตคือ CDC ให้เหตุผลเพียงคำเดียวสั้นๆว่า "Pre-need" (เผื่อไว้) .......อะไรฟ่ะ โลงศพพลาสติคนับล้านใบ Pre-need???

มาดูกันครับว่าเราเจออะไรบ้างใน เหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ หรือ เรียกกันง่ายๆว่า "911" ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนอเมริกันและโลกทั้งโลกอย่างไม่มีวันหวนกลับ


ผมสรุปได้ว่าเหตุ 911 เป็น “Inside Job” หรือทำกันเองครับ หรือแม้แต่คนอเมริกันเอง ที่อาจจะมากกว่า 75% และสูงขึ้นเรื่อยๆที่ยังคาใจหรือสงใสในเรื่องนี้ และที่ผมเจอก็คือ "กลุ่มอิลลูมินาติ" ครับ เพื่อ...

1. หาเหตุที่จะบุกอัฟกานิสถาน เพื่อเข้าไปวางท่อส่งน้ำมัน ที่เค้าต้องผ่านทางครับ เพื่อสูบและส่งน้ำมันลงสู่ทะเลแคสเปี้ยน เพื่อขนกลับครับ

2. หาเหตุบุกอิรัค เพื่อน้ำมันครับเพราะซัดดัมประกาศไม่เอาดอลล่า และต้องการการชำระราคาเป็นเงินสกุลยูโรแทน เค้ารู้ทันอเมริกาครับ แต่ซัดดัมและอิรัคมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองใต้ผืนดินเป็นอันดับ 2 ของโลก คงไม่ง่ายแล้วครับ คุยกันไม่รู้เรื่องต้องบุกครับ จะเป็นอย่างนี้ครับ ถ้าใครมีของที่เค้าต้องการแล้วปฏิเสธเงินดอลล่าก็อาจจะมีจุดจบเช่นนี้ครับ

3. บุกอิรัคเพื่อสร้างฐานที่มั่นทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางครับ ตอนนี้เค้ามี Military Complex หรือฐานทัพอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่นั่น และอิรัค ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ “อาณาจักรบาบิโลน” ซึ่งครั้งนึงเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปกครองโดยกษัตริย์นิมโรด (Nimrod) ซึ่งเป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในยุคนั้นครับ และเป็นคนก่อสงครามครั้งแรกของมนุษยชาติ อารยธรรมที่มีอายุประมาณ 3500 BC. หรือ 3500 ปีก่อนคริสตกาลครับ ตรงนี้มีความเชื่อมโยงกันอยู่ครับ “เค้าไปเอาของที่เคยเป็นของเค้าคืนครับ” และทั้งหมดก็เพื่อการใหญ่ในวันข้างหน้า คอยดูบทบาทของอิรัคกันต่อไปครับ

4. ฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดครองอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยหน่วยงานทางทหารและกองกำลังต่างๆ ที่ตั้งขึ้นใหม่โดยอ้างว่าตั้งหน่วยงานเหล่านี้เพื่อการป้องกันประเทศ จากภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หรือ Terrorist Attack จุดนี้เป็นอะไรที่สำคัญครับ ผู้ที่สนใจลองดูว่า ***เค้าผ่านกฏหมายและตั้งหน่วยงานอะไรขึ้นมาบ้างหลังจากเหตุการณ์ 911 ทุกอย่างชัดเจนในตัวเอง คำว่า Freedom หรือเสรีภาพสำหรับประเทศนี้กลายเป็นอดีตไปซะแล้วครับ 

5. ผ่านร่างกฏหมาย Patriot Act ที่ครอบคลุมถึง Martial Law หรือ กฏอัยการศึก บ้านเราก็เอาบ้าง ทำเหมือนเค้าเป๊ะ เอาบ้างของเราเลยมี พรบ.ความมั่นคงไงครับ โดยอ้างเรื่อง 3 จว. ชายแดนภาคใต้ แค่ลักไก่เปิดช่องไว้ทั้งประเทศ (กฏหมายติดหนวด แต่หนวดเค้ายาวกว่าเรามาก)

6. เป็นการปูทางเพื่อไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ “New World Order” หรือ “New Age” หรือจะเรียกว่าโลกยุคใหม่ หรือการปฏิวัติโลกก็ไม่ผิดครับ

“การเข้าสู่ข้อมูลต่อไปนี้เป็นการย้อนประวัติศาสตร์ ที่มีหลักฐานการจดบันทึกไว้ทั้งหมด อาจจะเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน เคลียสมองครับ จะต้องเอาสิ่งที่ถูกโปรแกรมมาจากสถาบันการศึกษาชิดไว้ข้างใดข้างนึงของสมองครับ แนะนำว่าเป็นข้างซ้าย เพราะข้างขวาเป็นส่วนของความคิดและการไตร่ตรอง แต่เราส่วนใหญ่เอาไว้ท่องจำและเก็บข้อมูลครับ เพิ่มข้อมูลชุดนี้เข้าไป แล้วโปรแกรมการทำงานของสมองใหม่ แล้วคุณจะมองเห็นภาพร่างของโลกทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตครับ เป็นจิ๊กซอตัวสำคัญ คำตอบสุดท้ายคือ Terrorists หรือผู้ก่อการร้ายไม่มีครับ มัน……”Hoax หรือแหกตา”ชาวโลกอีกแล้วครับ” เป็นเพียงผู้ร้ายตัวใหม่ที่คนกลุ่มนี้สร้างขึ้นเพื่อขับเคลื่อนโลกไปสู่อีกกระแสหนึ่ง กระแสที่ต้องมาแทนที่ "สงครามเย็น" ที่จบลงไปแล้ว  


ทีนี้เรามาดูตัวละครมีใครบ้าง (แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเหตุการ์ 911 ไม่ใช่ละครนะครับ และทุกอย่างมีหลักฐานยืนยันความมีอยู่จริง) ที่สำคัญที่สุดคือ “The Illuminati” ครับ เรามาดูครับว่าเค้าเป็นใคร ใหญ่แค่ไหนถึงกล้าทำขนาดนี้ เอาแบบถึงรากเลยนะครับ illuminati เป็นมือทำงานสาย Hard Core โดยเฉพาะด้านการทหารให้ "ตัวดำขาว" ครับ โดยมี Knight Templar หรืออัศวินแห่งวิหารย์ เป็นรากฐานสำคัญของกลุ่มอิลลูมินาติ ฟรีเมสัน และอีกหลายกลุ่ม ล้วนทำงานให้กับคริสตจักรจนในที่สุดอัศวินเทมพลาร์ต้องถึงการณ์ล่มสลาย เมื่อกรุงเยรูซาเลมพ่ายต่อ สุลต่าน ซาลาดิน การสนับสนุนจากยุโรปก็ตกต่ำลง ในช่วงท้ายปี 1300 กษัตริย์ ฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ได้ยืมเงินจำนวนมากจากอัศวินเทมพลาร์เพื่อใช้ในการทำสงครามกับอังกฤษ แต่ไม่มีเงินพอที่จะใช้คืนได้ เลยหาเหตุเบี้ยวหนี้ สั่งสอบสวนผู้นำของ Templar Grand Master Jacques de Molay ในฐานะเป็นพวกนอกรีต ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธ

ในวันศุกรที่ 13 ปี 1307 ฟิลิปจับกุมตัวสมาชิกอัศวินเทมพลาร์ทั้งหมดในฝรั่งเศส กล่าวหาว่าพวกอัศวินเทมพลาร์บูชาปีศาจบาโฟเมต(ซาตาน) เป็นพวกนอกรีต และสั่งประหาร ซึ่งทำให้ฟิลิปรอดพ้นจากการเป็นหนี้พวกอัศวินเทมพลาร์ซ้ำฟิลิปยังยึด ทรัพย์สินของพวกอัศวินเทมพลาร์ทั้งหมดในฝรั่งเศส

ด้วยแรงกดดัน จากฟิลิป พระสันตปาปาคลีเมนต์จึงสั่งยุบกลุ่มอัศวินเทมพลาร์ที่ดินของอัศวินเทมพลาร์ ถูกโอนไปให้พวก Hospitallers และพวกผู้นำในยุโรปก็เอาตามอย่างฟิลิป ประกาศให้พวกอัศวินเทมพลาร์เป็นพวกนอกรีตและยึดทรัพย์สิน ในปี 1314 ผู้นำของอัศวินเทมพลาร์ทั้ง 3 คน ถูกจับเผาทั้งเป็น

***ตำนาน ศุกร์ที่ 13
หลาย คนเชื่อว่า ความเชื่อที่ว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้าย มีสาเหตุมาจากที่พวกอัศวินเทมพลาร์ถูกจับในข้อหาเป็นพวกนอกรีตในวันศุกร์ที่ 13 นี่เอง***


แต่เทมพล่าก็ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลไม่น้อยไปกว่าคนที่สั่งฆ่าล้างเค้าครับ เพราะเค้ากระจายไปทั้งยุโรปแล้ว เค้าโดนตามไล่ฆ่า สุดท้ายเทมพล่าหลบลงไต้ดินครับ กลายเป็นองค์กรลับ หลังจากนั้นเค้าก็ประกาศตัวเลยว่าต้องเพิ่มภาระกิจเข้ามาอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ทำลายคริสตจักร” เพื่อรอเวลาเอาคืน รอเวลาที่อำนาจของคริสตจักรอ่อนลง แล้วก็เข้าแทรกซึม บ่อนทำลาย และยึดครอง จนเป็นผลสำเร็จครับ (แทรกซึม บ่อนทำลาย และยึดครอง จำรูปแบบนี้ไว้นะครับ) ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าใครเป็นหัวเป็นหางไปแล้วล่ะครับ


ดร.อดัม ไวฮอป (Dr.Adam Weishaupt)

เราย้อนเวลากลับไปซักนิดครับถึงการก่อกำเนิดของ illuminati  ในปี คศ. 1773 แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมันนี้ ดร.อาดัม ไวฮอป (Adam Weishaupt) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านสิ่งเหนือธรรมชาติ และเวทมนต์ ไสยศาสตร์ได้คิดทฤษฏีของ illuminati ขึ้นเป็นครั้งแรก แล้วปรึกษากับพรรคพวกที่มีทั้งอำนาจและความมั่งคั่งอีก 12 คน ทั้ง 12 คนตกลงที่จะสนับสนุนไวฮอป ในเรื่องนี้ โดยตกลงกันว่าเค้าคอยสนับสนุนทางด้านการเงิน และไวฮอปเป็นผู้วางโครงสร้างต่างๆ เค้าจึงทำพันธสัญญากันขึ้นเรียกว่า “The Thirteen Covenant” ก็คือพวกเค้าทั้ง 13 คนได้ทำพันธสัญญาร่วมกัน โดยอีก 1 ปีต่อมาเค้าสามารถหาผู้ร่วมอุมการณ์ได้อีกถึง 2000 คนซึ่งคนเหล่านี้มีทั้งฐานะ อำนาจ และสติปัญญา ไม่ธรรมดาแล้วครับตอนนี้ แล้วทฤษฐีที่เค้าคิดขึ้นมาคือ “World Domination” หรือ “การยึดครองโลก” นั่นเอง...

Illuminati Seal หรือเครื่องหมายอิลูมินาติ

ที่นี้เรามาดูตราสัญลักษณ์ของเค้าว่า เค้าบอกอะไรเราบ้าง ตัวอักษรทั้งหมดเป็ภาษาละตินครับ เริ่มจาก

“Annuit Coeptis” แอนนูอิท โคเอปทิส แปลได้ว่า “ประกาศการกำเนิดของ”

“Novus Ordo Seclorum” คือ โนวัส ออโด เซโคลรัม “New World Order แปลว่า การจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ New Age”

“MDCCLXXDI” ที่ฐานปิระมิด คือ คศ.1776

“ปิระมิด 13 ชั้น” เลข 13 หมายถึง Rebellion หรือการปฏิวัติ และปิระมิดซึ่งเป็นของอียิปต์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือเวอร์ชั่นใหม่ของ “บาบิโลนมหานคร” ที่ล่มสลายไปเมื่อปี 3500 BC ดูรูปนี้ครับ ถ้าเป็นคริสเตียนให้ดูไปถึง ”หอบาเบล”  คือคอนเซปเดียวกันหมด “บาเบล & บาบิโลน”

มันคือ BABEL+ON=Babelon นั่นเอง






 ด้านขวาคือมหานครบาบิโลน ช่วงปี 3500 BC

“All Seeing Eye” หรือดวงตาที่กำลังมองดูเราอยู่ มันเป็นตาของเทพเจ้าของอิยิปต์ “Ra” หรือ “Horus”  จำหนังฮอลลีวู๊ดเรื่อง สตาร์เกทได้ไม๊ครับ นั่นล่ะ Ra และต้องทราบครับว่าวงการ Hollywood ก็เป็นสมาชิกในเเครือข่าย illuminati แทบทั้งสิ้น หลักฐานเต็มไปหมด จะดูหนังเรื่องไหน มันก็จะยัดเยียดให้เราดู ปิระมิด กับ ดวงตาลูซิเฟอร์ นี่ให้ได้ มีเกือบทุกเรื่อง

Ra หรือ Horus เป็นใครดูรูปนี้ครับ ก็คือมนุษย์อีกคนนี่แหละครับที่บูชาซาตาน ลูซิเฟอร์ เป็นตัวแทนของลูซิเฟอร์บนโลกใบนี้แล้วก็ตั้งตัวเป็นพระเจ้าบนโลกไปเลย เพราะยุคนั้นอียิปต์เรืองอำนาจที่สุด



ดวงตาของ “Ra” เทพเจ้าของอิยิปต์ หรืออีกชื่อคือ “Horus”

ซึ่งต้นตอของมันก็คือ “Lucifer” หรือ ซาตานนี่แหละครับ แล้วอิยิปต์ไปเอามาเป็นเทพเจ้าของเค้าเปลี่ยนชื่อแต่งตัวให้ใหม่ (ดูรูปประกอบ)
Lucifer หรือ ซาตาน ก็คือทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่ลงมาจนเข้ายึดครองมนุษย์และโลกใบนี้  ครอบงำ สร้างความผิดบาป ความวุ่นวายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของการล่อลวงและความชั่วร้ายทั้งมวล ให้สังเกตุการแสดงสัญลักษณ์แขนและมือ แขนซ้ายชี้ลงหมายถึงโลกมนุษย์ แต่แขนขวายกขึ้นหมายถึงสวรรค์ โดยเป็นความพยายามสื่อถึง “As above so below” คือสวรรค์เป็นอย่างไรโลกมนุษย์ก็เป็นอย่างนั้น ซึ่ง “ผิดอย่างที่สุด” คือความพยายามของเค้าที่จะบอกกับมวลมนุษย์ว่าไม่ต้องไปหรอกสวรรค์ โลกมนุษย์ก็แหมือนกันแหละ เค้าให้ได้ทุกอย่าง แค่ขอให้บูชาหรือนมัสการตัวเค้า "แทนที่พระเจ้า" แล้ววิธีของก็เค้าคือ การมอมเมา โลภ ตัณหา ผิดศีลธรรม สงคราม การฆ่า ผิดเพศ คือทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับบรรญัติที่หรือกฏเกณฑ์ที่พระเจ้ากำหนดไว้ หรือก็คือความบาปทั้งหมดนั่นเองครับ  ทำทุกวิธีที่จะทำให้มนุษย์ถอยห่างจากพระเจ้า และเพื่อมาหาเค้านั่นเอง

แล้วทำไมองค์กรเหล่านี้ถึงต้องบูชาซาตาน??? นั่นสิครับทำไม  นั่นก็เพราะว่าการสร้างความบาปผิด หรือการทำเลว มันง่ายกว่าการทำดีที่เป็นกฏเกณฑ์ของพระเจ้าไงครับ แล้วซาตานหรือลูซิเฟอร์ก็ใช้สิ่งที่เปรียบเสมือน "จุดอ่อน" ของมนุษย์ในเรื่องนี้เพื่อครอบงำ จำเรื่อง Human Sacrifice รวมการบูชายันต์ด้วยชีวิตมนุษย์หรือเด็กทารกได้ไม๊ครับ ที่เค้าทำทั้งหมดก็เพื่อถวายให้เจ้าสิ่งนี้แหละ มันจะให้แล้วสุดท้ายก็ฆ่าไงครับ ลองหาดูครับว่าจริงไม๊ และวิถีของซาตานลูซิเฟอร์ก็แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก แตกไปเป็นอารยะธรรมต่างๆ กลายไปเป็นเทพ เทพเจ้า  ศาสนา พวกมนต์ดำ ไสยศาสตร์ รวมทั้งบทสวด การร่ายเวทมนต์ทั้งหมดก็ของเค้านี่แหละครับ

สรุปความหมายของดวงตราอิลลูมินาติก็คือ
“1 พฤษภาคม 1776 ประกาศการกำเนิดของ New World Order หรือการจัดระเบียบโลกใหม่ ด้วยการปฏิวัติที่มีซาตานหรือ Lucifer เป็นผู้นำ ”

New World Order การจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ “การปฏิวัติโลก” มาดูกันว่า Illuminati ต้องการอะไรจากการปฏิวัติครั้งนี้ และเรามีอะไรเป็นหลักฐานได้บ้าง


Georgia Stoneguide หรือ American Stonehence

มิถุนายน 1979 มีชายนิรนามคนหนึ่งใช้ชื่อปลอมว่า R. C. Christian ได้ว่าจ้างบริษัท Elberton Granite Finishing เพื่อสร้างอนุสรน์บางอย่างขึ้นในอุทยานแห่งชาติที่รัฐจอเจีย โดยให้ช่างแกะสลักศิลาขนาดใหญ่สูง 20 ฟุตและวางเรียงตามภาพ และได้สลักข้อความ 10 ข้อเหมือนเป็นหมายหรือพันธสัญญาไว้บนศิลาแต่ละด้านด้วยภาษา 8 ภาษา คือ อังกฤษ สเปน ซวาฮีลี ฮินดู ฮิบรู อราบิค จีน และรัสเซียครับ

และมีข้อความดังนี้คือ  
1. Maintain humanity under 500,000,000 in perpetual balance with nature. รักษาปริมาณประชากรโลกไว้ที่ 500 ล้านคน เพื่อให้สมดุลย์กับธรรมชาติ

2. Guide reproduction wisely - improving fitness and diversity. คุมกำเนิด พัฒนาความสมบูรณ์ และ ให้มีความหลากหลาย(เชื้อชาติ)

3. Unite humanity with a living new language. รวมเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติเข้าด้วยกันภายใต้ภาษาใหม่และภาษาเดียว

4. Rule passion - faith - tradition - and all things with tempered reason.ปกครองด้วยความเชื่อและศาสนาใหม่

5. Protect people and nations with fair laws and just courts.ปกป้องมนุษย์และประชาชาติด้วยกฏหมายที่เท่าเทียมและระบบศาล

6. Let all nations rule internally resolving external disputes in a world court. ให้ทุกประเทศปกครองตนเองและแก้ข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยศาลโลก

7. Avoid petty laws and useless officials. หลีกเลี่ยงกฏหมายที่จุกจิก และระบบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ

8. Balance personal rights with social duties. สร้างสมดุลย์ระหว่างสิทธิส่วนบุคคลกับหน้าที่ทางสังคม

9. Prize truth - beauty - love - seeking harmony with the infinite. เชิดชู ความจริง ความงาม ความรัก และความลงตัวอย่างไม่สิ้นสุด

10. Be not a cancer on the earth - Leave room for nature - Leave room for nature. ไม่เป็นเหมือนเชื้อมะเร็งของโลก เผื่อที่ว่างให้กับธรรมชาติ เผื่อที่ว่างให้กับธรรมชาติ

หรือสรุปสาระสำคัญ ก็คือ
  1. ลดจำนวนประชากรลง 95% และคุมกำเนิด
  2. New World Government รัฐบาลเดียวปกครองโลก (U.N. หรือองค์การสหประชาชาติ)
  3. New World Currency ทั่วโลกใช้เงินสกุลเดียว ( ผ่าน IMF หลังจากล้มเศรษฐกิจทั่วโลกและล้มเงินที่เป็นเงินสำรองสกุลหลักของโลก)
  4. New World Language ทั่วโลกใชัภาษาเดียวกัน
  5. New World Religion & Spiritual ศาสนา และ ศาสดาองค์ใหม่ (Lucifer หรือลัทธิซาตาน)
  6. New World Judge & Court System ระบบศาลโลก
จนถึงวันนี้ วาระเหล่านี้จึงไม่ต้องเป็นความลับอีกต่อไป แล้วพวกเค้าก็เปิดเผยตัวตน ผ่านรูปแบบขององค์กรในระดับโลกต่างๆ ว่ามีใครบ้าง ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่าทุกฝ่ายเปิดหน้าเล่นกันแล้ว หลังจากอำพรางตัวอยู่เบื้องหลังสิ่งต่างมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แต่ที่ออกมายังคงเป็นระดับรองๆ นะครับ ตัวจริงมีออกมาแว๊บๆ บ้าง เพราะอาจจะต้องทำตัวให้บริสุทธ์เข้าไว้ อยากอัดตรงๆ จริงๆ เลยแต่เกรงใจนะ เดี๋ยวเดือดร้อนกันทั้งบอร์ด เอาหลักฐานไปดูครับ

11 กันยายน 1991 จอร์จบุช ซีเนียร์ ออกมาป่าวประกาศว่าจะเอาแล้วนะ จะกินรวบแล้ว หน้าตาซาตานิคมากครับ (สังเกตุ วันเดือนปี บังเอิญหรือเปล่า)






หลังจาก 911 แล้วแนวร่วมก็ออกมาเผยตัวเป็นระยะๆ ในช่วง 8 ปี

Bill Clinton :
http://www.youtube.com/watch?v=kvEqg_UlGaA&feature=relatedฃ
George W Bush:  

http://www.youtube.com/watch?v=IF-obJ8lYWc
Barack Obama:  

http://www.youtube.com/watch?v=0CV8Xt2VWvc
Henry Kissinger:  

http://www.youtube.com/watch?v=4bKwH3kJew4&feature=related
Gordon Brown:  

http://www.youtube.com/watch?v=Uv5cqh26CC0&feature=related
Alan Greenspan ประธาน FED เป็นมือวางระเบิดเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ครับ :  

http://www.youtube.com/watch?v=9g1UtFDytfk
อันนี้รวบยอดมีใครบ้างดูเอาเองไม่บอกครับ มีตัวหัวซ่อนอยู่ :   



 
และในเหตุการณ์ 911 เครื่องบินลำแรกไฟลต์หมายเลย 11 ชนตึกเวลา 8.03 น. (8+3=11) มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่าครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ18 สิงหาคม 2557 เวลา 22:44

    ซาตานในพระคัมภีร์ แท้จริงคือพระยาครุฑคาบงู ยืนแบบเดียวกัน แต่วาดลวดลายไม่เหมือนกัน ลองหาดูค่ะ ถ้าคนเหล่านี้ล้างโลกได้ ตามคำทำนายพระไตรปิฎก ก็ถูกต้องแล้ว ให้ทำใจ ปี 2015

    ตอบลบ