วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หนังสารคดี NWO....... " THRIVE "

***ต้องดูครับ***.....หากคุณยังไม่เคยรู้ว่า
***Must See***....If you never know that

-คุณและคนอีกจำนวนมากกำลังเป็นทาสของมันอยู่??
-You and a lot of peoples are their SLAVEs??

-ระบบธนาคารกลาง(ลวงโลก)คืออะไร??
-What is Central Bank Hoax??

-Fractional Reserve Banking System หรือการปั๊มเงินออกมาจากอากาศ เค้าทำกันอย่างไร??
-Fractional Reserve Banking System or to make money out of thin air??

-ใครเป็นเจ้าของ ใครอยู่เบื้องหลัง และมีโครงสร้างอย่างไร??
-Who owned it, Who is behind and What are their structure??

-ระบบนี้ครอบคลุมชีวิตเราอย่างไรบ้าง นอกเเหนือจากการให้เราเป็นหนี้แล้วแบกดอกเบี้ยหลังแอ่น??
-How their system control our life, beside put us in debt with extreme interest??

-องค์กรลับต่างๆมีจริงหรือ เพื่ออะไร แล้วเป้าหมายคืออะไร??
-Secret Society, are they real?? For what and what are their goal?

-พวกเค้าพยายามจะครองโลกจริงหรือไม่ ด้วยวิธีไหน??
-Do they try to rule the World, How??

-ใครกันแน่ที่ปกครองหรือเป็นเจ้าของอเมริกา??
-Who exactly rule and own America??

-เลือกตั้งกันจนตายก็ได้เหมือนเดิม??
-No matter what you voted for, the result will be the same??

-วิกฤติการเงินโลกเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครทำ แล้วทำเพื่ออะไร?
-How to create World Financial Crisis, by whom and what for??

***เนื่องจาก "Thrive" เป็นสารคดีเปิดโปงเบื้องหลังต่างๆของกลุ่ม NWO จึงถูก Youtube ซึ่งก็เป็นสื่อหนึ่งที่ถูกกลุ่มทุนนี้เทคโอเวอร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ จึงมีการเซนเซอร์หรือลบทุกคลิปที่มีการอัพโหลดขึ้นไป ดังนั้นหากท่านต้องการชมสารคดีชุดนี้ อาจทำได้โดยการเข้าไปที่ Youtube แล้วเซิร์ชหาโดยใช้คีย์เวิร์ด "thrive movie" หลังจากที่คลิปต่างๆเกี่ยวกับ Thrive แสดงขึ้นมาแล้ว ที่มุมบนด้านซ้ายจะมีกรอบคำสั่ง "Filter" ให้คลิกแล้วเลือก longer than 20 min สารคดีฉบับเต็มความยาว 2 ชั่วโมง 8 นาทีก็จะขึ้นมาให้เลือกเข้าไปดูครับ หรือจะใช้อีกคีย์เวิร์ดหนึ่งก็คือ "thrive movie, long" ก็ได้เช่นกันครับ
***According to "Thrive" is an eye opening and expose a lot of insight about those global elites and NWO agenda. So it always been deleted from youtube, as recently youtube itself was taken over by Google. And of course Google is a big part of NWO. In order to watch this documentary, please go to youtube and use "thrive movie" as keyword for searching. When results appeared, on the top left pick "longer than 20" in the "Filter" tab. So you will see some 2Hrs8Min Thrive documentary. That's it. Or you may try another keyword like "thrive movie, long".


ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จดหมายถึงคุณสดใส 2

หลังจากที่ผมโพสต์เรื่อง "จดหมายถึงคุณสดใส" ก็มีคำถามเข้ามาจากผู้อ่านท่านนึงครับ และผมเชื่อว่าคำตอบคงจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆท่านอีกเช่นกัน จึงขอเขียนในเรื่องนี้อีกซักโพสต์ แล้วท่านก็นำไปศึกษา ค้นคว้าและต่อยอดกันออกไปนะครับ

"อยากถามคุณจิมมี่ว่า ที่อเมริกา หากน้ำประปาที่ไม่ได้ต้ม แต่กรองก่อน จะปลอดภัยหรือไม่ และที่เมืองไทย น้ำประปาเขาใส่ฟลูออไรด์หรือเปล่า "

ขอตอบอย่างตรงไปตรงมานะครับว่า...ไม่แน่ใจ เหตุผลก็เพราะหลายทศวรรษแล้วที่ภาครัฐโฆษณาชวนเชื่ออยู่ตลอดเวลาว่าน้ำประปาที่เปิดจากก๊อกดื่มได้เลย ได้มาตรฐานอย่างนั้นอย่างนี้ ได้มาตรฐานของ WHO ว่าไปโน่น แล้วรู้ไม่ครับว่า WHO จริงๆแล้วเป็นใคร วาระต่างๆขององค์การนี้มาจากไหน??? และด้วยเหตุผลนี้ครัวเรือนอเมริกันจึงไม่ใส่ใจกับเรื่อง "เครื่องกรองน้ำ" ดังนั้นแทบจะนับจำนวนได้เลยครับสำหรับบ้านที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำไว้เพื่อผลิตน้ำดื่มกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง

บ้านที่ผมเคยอาศัยอยู่หลายๆหลัง ในหลายๆหลายๆรัฐ  ก็พอเห็นบ้างครับ แต่.....เป็นเพียงหัวสวมเล็กๆที่ปลายก๊อกน้ำขนาดไม่ใหญ่กว่ากำปั้นเท่านั้นเอง จะให้เห็นเป็นเครื่องใหญ่ๆติดกำแพงหรือตั้งพื้นเหมือนบ้านเราแทบไม่มี ดังนั้นผมจึงต้องตอบว่าไม่แน่ใจครับ เพื่อให้ระวัง หลังจากที่ผมค้นคว้าข้อมูลเรื่องการปนเปื้อนฟลูออไรด์ในน้ำ ผมจะยอมเสียเวลาต้มน้ำโดยเฉพาะสำหรับดื่มดีกว่าครับ แล้วเก็บใส่ขวดไว้ดื่ม จะมากแค่ไหนในแต่ละครั้งก็แล้วแต่สะดวก สำหรับน้ำส่วนอื่นๆก็คงไม่ซีเรียสเท่าไหร่

เรื่องการปนเปื้อนฟลูออไรด์ในน้ำนี่มีกรณีศึกษามากมายเลยครับ เช่นที่ LA หรือลอสแองเจลลีส ในมลรัฐแคลิฟอเนีย เกิดกรณี "ผมเปลี่ยนสี" เกิดกับคนไทยนี่แหละครับจากสีดำสนิทกลายเป็นสีน้ำตาลลงเรื่อยๆ ทั้งที่อายุเพิ่งจะสามสิบต้นๆนี่แหละครับ หนึ่งในนั้นก็เป็นเพื่อนผมเองที่ไปอาศัยอยู่ที่นั่นนานกว่า 10 ปีแล้ว ที่น่าคิดก็คือ ไม่ใช่เคสเดียวที่เกิดขึ้นกับคนๆเดียวครับ เจออีกมากมาย แต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นประเด็น จนผมมาค้นเจอเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งตอนแรกที่เพื่อนผมมาบอก ผมยังคิดว่า มันคิดมากไปหรือเปล่า แต่เราก็คุยกันแล้วก็รับฟังไว้ ดังนั้นผมจึงย้อนคิดกลับไปว่า ในตอนนั้นตัวเรายังคิดอย่างนี้เลย "เพราะความไม่รู้" และไม่ได้เจอกับตัวเอง จึงต้องคิดต่อไปว่าแล้วจะมีคนอีกจำนวนมากเท่าไหร่ที่คิดเหมือนเราในตอนนั้น !!

ลองใช้เวลาค้นคว้าเรื่องนี้ซักหน่อยสิครับ ล้วงให้ลึก ค้นลงไปในรายละเอียด ทุกอย่างถูกใส่ไว้ในอินเตอร์เนตแล้วจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ในเฉพาะประเด็นการเติมฟลูออไรด์ลงไปในน้ำประเด็นเดียวนี่แหละครับ โดยเฉพาะข้อมูลวิจัย สถิติ ตัวเลข กราฟต่างๆเต็มไปหมด ปริมาณการปนเปื้อนมากน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละรัฐ

ใครเป็นคนทำคนแรกรู้ไม๊ครับ?? คำตอบคือ " อดอล์ฟ ฮิตเล่อร์" หรือพรรคนาซีเยอรมันนั่นแหละครับ จุดประสงค์ก็เพื่อสังหารหมู่ชาวยิวในค่ายกักกันที่มีจำนวนหลายล้านคนในยุโรปในสงครามตอนนั้น ให้ตายเยอะ ตายเร็ว ไม่ต้องเปลืองแรงงาน เสียเวลา หรือลูกกระสุน ก็เลยกลายเป็นการค้นคว้า ต่อยอด ทดลองไปในตัวโดยการลดปริมาณการปนเปื้อนลง แล้วให้เกิดการสะสมในบลักษณะของสารพิษตกค้างในร่างกายในระดับต่างๆ ทำให้เกิดโรคแปลกๆใหม่ๆในมนุษย์ หนึ่งในนั้นแน่นอนก็คือ อัลไซเมอร์ ซึ่งเกิดจากการสะสมของหินปูนในส่วนต่างๆในสมอง และอีกมากมายหลายโรคครับ......โรคสมัยใหม่เหล่านี้เค้า(Power that Be)บอกเราว่ายังที่หาสาเหตุที่มาไม่ได้ แต่...กลับมีการผลิต คิดค้น "ยารักษา" ออกมาขายให้ครับ !! 

ยังไม่ต้องเชื่อข้อมูลเหล่านี้นะครับ จุดคือคุณต้องค้นคว้าเอง ศึกษาเอง แล้วค่อยเชื่อในสิ่งที่คุณเจอด้วยตัวเอง เอาสิ่งเหล่านั้นมาใคร่ครวญแล้วประติดประต่อเข้าด้วยกัน คุณจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในที่สุด และสิ่งเหล่านี้แหละครับมันจะพาคุณไปพบอะไรที่ไม่ชอบมาพากลในอีกหลายๆเรื่องรอบๆตัวเรา ถ้าถามว่าเค้าทำเพื่ออะไร หากคุณอ่านสิ่งที่ผมเขียนมานานๆคงจะเห็นผ่านตาบ้าง แต่ถ้ายังไม่เห็น ผมให้คีย์เวิร์ดไว้ว่าเป็นการ "Depopulation" หรือการลดประชากร หากสนใจลองค้นหาต่อไปดูครับ และอีกทางคือเพื่อการค้า เพราะกลุ่มทุนการเมืองที่ปกครองอเมริกาและยุโรปอยู่ทุกวันนี้ก็คือกลุ่มบิ๊กไฟว์ หรือ 5 อันดับของบริษัทยา เวชภัณฑ์และการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั่นเอง แล้วก็เป็นกลุ่มบริษัทยาที่ครองตลาดยาในประเทศไทยและทั่วโลกอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้นลองตั้งสมมุติฐานดูสิครับว่า โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บแปลกๆใหม่ๆเหล่านี้ มาจากไหน???    

ส่วนของประเทศไทยมีการปนเปื้อนฟลูออไรด์หรือไม่ผมยังไม่มีข้อมูลครับ เพราะผมติดนิสัยการติดเครื่องกรองน้ำชนิด "ประสิทธิภาพสูง" หรือต้มน้ำโดยเฉพาะสำหรับดื่มไปเสียแล้ว ผมจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่รู้มาคือ "มี" ครับ ก็คงไปเอาหลักคิดเดียวกับเค้ามานั่นแหละครับ โดนเค้าหลอกกันมาเป็นทอดๆ "ฝรั่งมันว่าดี เราก็ว่าดี" ก็เพราะส่วนหนึ่งไปร่ำเรียนจนจบดีกรีต่างๆจนทำให้มีหลักคิดเดียวกันมาจากเค้าอีกที คนถึงป่วยกันเต็มบ้านเต็มเมือง "ยารักษาโรค" กลายเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 เทียบเคียงกับอาหาร ที่อยู่อาศัย และเครื่องนุ่งห่ม หลายคนจำใจกินยาแทนอาหารก็มี เพราะกินทีเป็นกำมือเพราะอุดมไปด้วย "โรค" แล้วก็อิ่มไปเลยครับ กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียอีก  เฮ้ออออออ...


ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Attention Attention !!

และแล้วผมก็ใส่ป้ายชื่อของโพสต์ทั้งหมด เกือบ 900 เรื่องเสร็จเป็นที่เรียบร้อย หวังว่าจะทำให้ง่ายต่อการตามอ่านหรือค้นหาในหัวข้อต่างๆที่ท่านสนใจได้ทั้งหมดแล้วนะครับ โดยจะอยู่ในแถบเครื่องเครื่องมือด้านขวาใต้กล่องสนทนานั่นเองครับ แต่อยากจะบอกว่า ทั้งหมดมันก็คือเรื่องเดียวกันและสัมพันธ์กันหมดครับ

และหากท่านพบหลายๆลิ๊งค์ของยูทูปในโพสต์เก่าๆ
เสีย ก็ขอให้ทำใจและไม่ต้องแปลกใจนะครับ นั่นก็เพราะหลังจากที่ Google เข้าเทคโอเวอร์ยูทูป เค้าก็ไล่สอย(ลบ)คลิปวีดีโอที่เปิดโปงเรื่องราวต่างๆของพวก NWO ที่อาจจะลึกเกินกว่าที่จะให้คนทั่วไปอย่างเราๆรู้เท่าทัน(ผมโดนประจำ...555 มันขู่ด้วยว่าจะลบช่องของผมทิ้ง แล้วให้ทำข้อสอบตอบคำถามออนไลน์อีกต่างหากก่อนจะเปิดกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) แต่ท่านสามารถที่ค้นหาคลิปเหล่านั้น(หากยังมีคนโพสต์ต่อ) โดยเข้าไปที่ยูทูปแล้วใส่คีย์เวิร์ดต่างๆที่เกี่ยวข้องก็อาจจะหาพบได้บ้างครับ.....Enjoy++

นี่หรือคือประชาธิปไตย ??? โดยพระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (อดีต รมว.สาธารณะสุข))

"ประชาธิปไตย" .......สิ่งที่ผู้คนจำนวนมากเรียกร้อง กระทั่งคนจำนวนมากมายยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้ได้มาเพื่อสิ่งนี้ คลิปวีดีโอ "ฉบับเต็ม" เหล่านี้เป็นการเปิดเผยโดยพระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (อดีตรัฐมนตรีว่าการสาธารณะสุข) เป็นคลิปที่มีการเผยแพร่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือปี 2011 ที่ผมไม่แน่ใจว่ามีการออกอากาศทางทีวีหรือไม่ จุดประสงค์ของผมก็เพื่อ "เปิดตา" ใครอีกหลายๆคน ที่หลงติดอยู่ในวังวนการเมือง การโจมตี การก่นด่า การเสียดสี และวันนี้คนไทยจำนวนมากก็หลุดเข้าไปในวังวนนี้จนยากที่จะมองเห็นและกลับตัวเสียแล้ว!!

ไม่ว่าคุณจะรัก จะชอบ จะเชียร์พรรคไหน สีอะไร หากยังไม่เคยดูคลิปเหล่านี้ สละเวลาซักนิดครับ อาจจะทำให้คุณมองเห็น "ใส้ใน" และภาพรวมของคำว่า "การเมือง" โดยเฉพาะระบอบประชาธิปไดยและการเลือกตั้งในมุมที่ต่างออกไป และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การตั้งคำถามว่าระบอบประชาธิปไตย มาจากไหน มีที่มาอย่างไร ใครเป็นผู้คิดค้นขึ้น หรือเป็นเพียงเกมส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ "แบ่งแยกแล้วปกครอง" ในระดับโลกของคนบางกลุ่ม สุดท้ายหรือมันก็คือระบอบการปกครองที่เรียกว่า "ประชาธิปไตยอันมีคนของฉันเป็นประมุข" เท่านั้นเอง

กำเนิดประชาธิปไตย...คลิก!!
กำเนิดลัทธิคอมมิวนิสต์...คลิก!!











ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=

จดหมายถึงคุณสดใส ( Mirror )

คุณสดใสครับ เนื่องจากผมติดที่จะต้องเดินทางอยู่เสมอๆ ครับ ติดต่อผ่านทางอีเมลล์น่าจะสะดวกกว่าเพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาที่ต่าง กันครับ ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในอเมริกาครับ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ ฝากคำถามไว้ได้ครับเรื่องไหนที่ผมรู้มากพอผมจะตอบให้อย่างเต็มที่ครับ

ผมขอสรุปคร่าวๆ เอาที่นึกได้ก่อนนะครับ เอาเป็นว่าเราแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตที่นั่นกันครับ ครอบครัวผมส่วนนึงไปอยู่ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซ็ท ตั้งแต่ปี 2520 หรือ 30 กว่าปีมาแล้ว ไปกันแล้ว 3 รุ่น ได้สัญชาติจนรุ่นหลานเกิดที่นั่นแล้วครับ รุ่นแรกๆที่ไปก็แต่งกับครอบครัวคนอเมริกันบ้าง เป็นลูกครึ่งไปก็มีแต่ส่วนตัวผมเองไม่เคยคิดอยากจะไป แต่ในที่สุดก็มีโอกาสที่ไปอยู่ที่นั่นมา 8 ปีครับ คือ 2001-2009

อย่ารับวัคซีนไข้หวัด 2009 แม้แต่ไข้หวัดตามฤดูกาลถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงครับ ระวังเค้าจะจับเด็กๆฉีดที่โรงเรียน ต้องไปแจ้งเค้าไว้ว่าไม่ขอรับครับ ถ้าฉีดไปภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะถูกทำลาย ทำให้ป่วยง่ายครับเรื่องนี้ผมกับบางคนในครอบครัวพิสูจน์มาแล้วมีทั้งฉีดและไม่ฉีด คนที่ฉีด(น้าสาว)ป่วยทีเป็นอาทิตย์ล้มหมอนหนอนเสื่อทั้งที่อยู่เมืองไทยไม่ เคยเป็นขนาดนี้ ให้คนที่ไม่ฉีด
(ผมนี่แหละครับ)พาไปหาหมอพาไปซื้อยาครับ

น้ำประปาในอเมริกาปนเปื้อนด้วยสารฟลูออไรด์ครับ ห้ามเปิดก๊อกกินสดๆ เด็ดขาด (อย่าไปเชื่อโฆษณาว่ากินได้) เพราะนี่เป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ นิ่วและโรคที่เกี่ยวกับหินปูนไปจับตามระบบต่างๆ ของร่างกายครับ ***ให้ต้มให้เดือดก่อนครับแล้วใส่ขวดเก็บไว้กิน ที่ขายเป็นแพ๊คก็อย่าวางใจครับ เพราะเราก็พิสูจน์ไม่ได้อย่าไปเสียเงินตรงนั้นครับ วิธีพิสูจน์คือเอาน้ำที่ต้มแล้วใส่ขวดครับ แล้วอีกขวดลองเอาที่เปิดจากก๊อกไม่ต้องต้มวางไว้ข้างๆกัน แล้วอีก 3-5 วันมาดูครับ จะเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับขวดที่ไม่ต้ม ถ้าไม่ต้มเราก็กินมันเข้าไปหมดนั่นเลยครับ แล้วก็ป่วย หาหมอซื้อยาเข้าทางเค้าครับ เรื่องนี้สำคัญเพราะน้ำเป็นส่วนที่สำคัญของร่างกายครับ เรื่องฟลูออไรด์ในน้ำนี่เค้าประท้วงในระดับประเทศมาเป็น 10 ปี โดยคณะแพทย์และพยาบาลเองเลยครับ มีทั้งงานวิจัยและหลักฐาน ตั้งเป็นองค์กร สมาคม ชมรมสารพัด แต่มันก็จะใส่ครับบอกว่าห่วงเรื่องสุขภาพฟัน  แต่ข้างหลอดยาสีฟันบอกว่าห้ามกลืนกินยาสีฟันเด็ดขาดแม้แต่เท่าเม็ดถั่วเขียว เพราะมีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ ถ้ากลืนเข้าไปต้องไปโรงพยาบาลทันที อ้าววววว แล้วเอาไปใส่ในน้ำทำไม แล้วบอกว่าดื่มได้อีกต่างหาก เมื่อก่อนที่ยังไม่รู้เรื่องนี้เปิดก๊อกซัดกันเอื๊อกๆๆๆ โดยเฉพาะแคลิฟอเนียมีการปนเปื้อนในอัตราที่สูงมากๆ ตารางตัวเลขเปอร์เซ็นการปนเปื้อนหรือเติมฟลูออไรด์ในน้ำนี้หาดูได้ง่ายมากใน เนตนี่แหละครับ

อย่าเก็บทรัพย์สินไว้ในอเมริกา โดยเฉพาะ Saving หรือเงินเก็บต่างๆ ถ้ามีญาตพี่น้อง(ที่เราไว้ใจ)อยู่เมืองไทยหรือว่าประเทศอื่น ให้นำออกไปเก็บไว้ที่นั่น แล้วซื้อเป็นทองคำดีที่สุดครับ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกตอนนี้จะทำให้เงินกระดาษเสื่อมค่าลงในอัตราที่ เร็วมาก โดยเฉพาะเงินดอลล่าสหรัฐอันตรายครับ(มันปั๊มเหมือนถ่ายเอกสารเลย)แล้วจะชิ่ง หรือส่งผลกระทบไปที่เงินสกุลอื่นๆ มากบ้างน้อยบ้างตามความแข็งแกร่งของเงินสกุลนั้นๆ ถ้าอยู่ในอเมริกาให้เก็บไว้เฉพาะเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครับหรือธุรกิจ เพียง 3-6 เดือน หรือตามความจำเป็นเท่านั้นครับ แล้วทำตัวให้เบาที่สุดคือถ้าเมื่อไหร่ที่้เกิดการ Crack หรือรัฐบาลกลางประกาศว่าไม่ไหวแล้ว (อย่าคิดว่าจะไม่เกิดครับ แต่จะเมื่อไหร่เท่านั้นเอง มีความเป็นไปได้ที่ 1.5-3 ปีนี้ ***ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดครับ อย่าคิดว่าไกลตัวครับ*** เพราะภาษีที่จัดเก็บ ลดลง 5%-18% ในรัฐต่างๆ และดูได้จากงบประมาณรายจ่ายที่ติดลบใน 40 กว่ารัฐ รุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไปครับ มีอย่างน้อย 10 รัฐที่ล้มละลายในทางบัญชีหรือตัวเลขไปแล้ว แล้วเค้าเอาเงินจากไหนมาโป๊ะ จากรัฐบาลกลางครับ ทั้ง FDIC หรือกองทุนค้ำประกันเงินฝากก็หมดครับไปขอรัฐบาลกลางอีก แต่จะทำไปได้นานขนาดไหน เพราะตัว Federal หรือ รัฐบาลกลางเองก็จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว และทางตัวเลขก็ล้มไปแล้วอีกเหมือนกันครับ -12 Trillion เพียงแต่เค้าปั๊มเงินได้ไงครับ ก็ปั๊มมันเข้าไป เปิดเผยบ้างไม่เปิดเผยบ้าง)

แล้วเมื่อไหร่ที่เราต้องออกจากประเทศแบบฉุกเฉินจะได้ไม่เสียดายครับ ถ้ามีอะไรที่จะต้องเสียดายก็หมายความว่าสิ่งนั้นควรจะไปรอเราในที่ที่เรา เตรียมไว้ครับ ผมแนะนำว่า "เตรียมทางหนีทีไล่ไว้นอกอเมริกาครับ" .......ถ้ามันดีขึ้นจริงในอีก 3-5 ปีข้างหน้าเราก็ดีไป ทยอยโอนทรัพย์สินกลับไป แต่ถ้า "โครม" เราก็รอดครับ แต่ระวังการปิดเกมส์แบบไม่คาดฝันด้วยการก่อสงครามใหญ่เพื่อล้มกระดานครับ ......เรื่องสงครามใหญ่นี่เป็นส่วนนึงของแผนการครับ จะเมื่อไหร่ผมก็คงตอบไม่ได้ครับ เพราะเค้าไม่ได้อยู่นิ่งๆ ให้เราอ่านครับและปรับแผนอยู่ตลอด ผมหวังว่าคงอีกนานหรือไม่เกิดครับ แต่เท่าที่ดูปัจจัยทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ทั้งอิหร่าน เกาหลีเหนือ เศรษกิจโลก *****ไม่อยากให้กังวลนะครับ แต่ก็ไม่อยากให้ทิ้งประเด็นนี้

สรุปก็คือ.......
"เตรียมทางหนีทีไล่ไว้นอกอเมริกาครับ" แล้วติดตามข่าวสารของจริงที่รายงานความเป็นจริง หรือลองดูรัสเซียทีวี Russia TV (RT) หรืออัลจาซีราห์ (Aljazeraa) เรากำลังอยู่ในช่วงรอยต่อของประวัติศาสตร์ครับ ถ้าไม่เตรียมหรือระวังเลย สิ่งที่คุณทำมาหาเก็บกันมาเป็น 10-20 ปี จะสูญเปล่าครับ แล้วกลับมาลำบากที่เมืองไทยต่ออีกเพราะไม่ได้วางอะไรรองรับไว้เลย  

1.ถ้าจะดูเศรษฐกิจอเมริกาอย่าดูตลาดหุ้น มีแต่ตัวเลขครับกำไรไม่มี มีกำไรไม่กี่บริษัทที่ได้เงินช่วยเหลือหรือ Bail out นั่นแหละครับ เพื่อจะผันกำไรออกไปเป็นโบนัสผู้บริหาร ถามว่าคุณเคยเห็นข่าวบริษัทไหนประกาศผลกำไรนอกจากบริษัทที่รับเงินช่วยเหลือ ไม๊ครับ แล้วมีข่าวอะไรต่อ...การจ่ายโบนัสครับ เอากันอย่างนี้เลย เอาเป็นว่าให้ดูอัตราการว่างงาน การล้มละลาย (Bankrupcy Filing) และ การฟ้องยึดบ้านและอสังหาริมทรัพย์ (Forclosure) เป็นหลัก โดยเฉพาะตัวเลขการว่างงานจริงอยู่ที่ 17-22 % ในแต่ละรัฐ ไม่ใช่ 10% กว่าๆ ครับ ถ้าเค้าพูดความจริงวันนี้อเมริกาคงเละไปแล้วครับ

2.การดูข่าวสารในอเมริกา อย่าดูทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์เป็นหลัก ให้เชคข่าวทางอินเตอร์เนตครับ

3.ถ้ากำลังไฟล์เรื่องการขอสัญชาติ ก็ทำไปตามขั้นตอนครับ แต่อย่าไปอัดเงินหรือลงทุนอะไรในเรื่องนี้มากเกินไป เพราะเงินตรงนี้อาจจะสูญเปล่าครับ แม้แต่ใบเขียวหรือซิติเซ่นที่อาจจะได้มาก็ตาม ค่อยๆทำตามขั้นตอนตามกฏหมายเค้าไปครับ

อ่านแล้วทุกอย่างดูรุนแรงนะครับ โดยเฉพาะใครที่ไม่ค่อยติดตามหรือหรือรับรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อน ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เปิดเผยครับ คุณสามารถค้นหาและต่อยอดเองได้ตามสื่อตามข่าวสารต่างๆ แต่การที่เราอยู่ในอเมริกา สิ่งนี้มันเป็นปัญหาครับ "คือการค้นหาความจริง" เพราะสื่อต่างๆมันปิดหูปิดตาเราครับ แบบมิดเลย!!! มีแต่เงินดอลล์ บัตรเครดิต เพลง หนัง ดารา เซ็กส์ กีฬา ไอพ๊อด เกมส์เสมือนจริง เทคโนโลยี ทีวีจอแบน รถ SUV การพนัน ยาเสพติดและการบริโภคที่เกินตัว มันหลอมขึ้นมาเป็นสังคมอเมริกันโดยรวมวันนี้ที่ใกล้จะ "สิ้นสลาย" เต็มทีครับ เราคนไทยหรือคนจากประเทศที่ด้อยกว่าเค้าไปอยู่ที่นั่นแล้วเห็นสิ่งเหล่านี้ แล้วตาโต "ใจแตกครับ" ยิ่งเป็นพวกพี่แหม็ก (แม็กซิกัน) ซึ่งมองชีวิตที่เต็มไปด้วยวัตถุและของเล่นเหล่านี้กลายเป็นสวรรค์ไปเลย นึกว่าอยู่บนสวรรค์แล้วครับจนไม่มีใครอยากกลับประเทศ เพราะมีในสิ่งที่ไม่เคยมี ได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ อยู่ประเทศตัวเองซื้อรถยังลำบากแต่ไปอเมริกาซื้อรถได้ 2-3 คัน เลยลึกเลยครับ ดำดิ่งลงไป นึกว่าเอาละเราได้ชีวิตที่ดีกว่าแล้วที่นี่!!! นี่แหละคือชีวิตเรา!!!

ส่วนหนึ่งเพราะโอกาสมันเปิดครับ (สภาพคล่อง "เกลื่อน" และดอกเบี้ยต่ำ คือหลุมที่ FED ขุดดักไว้) เป็นแรงผลักดัน ทำกัน 2-3 จ๊อบ ให้ทำอะไรก็ทำ หนัก ลำบากและเสี่ยงขนาดไหนก็สู้ ยอมทำขนาดนั้น "ก็ต้องได้สิครับ" และมีในที่สุดก็เข้าวงจรแบบอเมริกันที่ติดกับและหลุดเข้าไปอยู่ในหลุมพราง ที่เค้าวางไว้ครับ  อีกส่วนนึงคิดว่าโอ กว่าจะดิ้นรน ขอวีซ่ามาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องสู้สุดชีวิตครับ ไม่ทำก็ตายจะไปขอใครกินก็ไม่ได้สื่อสารกันลำบากไม่เหมือนอยู่บ้านเราครับ 

วันนี้วันอาทิตย์ มีเวลาครับเลยเขียนได้ยาวหน่อย แต่ไม่อยากให้กังวลจนเกินไปครับ เลยบอกที่มาที่ไปมากหน่อยว่าปัญหามันอยู่ตรงไหนและเกิดอะไรขึ้น และขออนุญาตเอาบางส่วนที่น่าจะเป็นประโยชน์ไปเผยแพร่ในเวบบล๊อกของผมครับ เพราะมีหลายท่านที่อยู่ในสหรัฐเมลล์เข้ามาเพื่อพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ ชีวิตในอเมริกาตอนนี้การเตรียมพร้อม การป้องกันตัวเองและครอบครัวสำคัญครับ

ขอพระเจ้าคุ้มครองครับ.......

Jimmy  Siri
Jan 24, 2010