วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปัจจัยพื้นฐานเนื้อๆของ......ทองคำ 1/2

(สภาพแวดล้อม, Demand+, Supply-) US$ 
...Vs... 
ทองคำ (Demand+, Supply-) 

ผมเคยตั้งคำถามฝากไว้ครับว่า มูลค่าของทองคำจริงๆ ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่ คำตอบก็คือ $8,000-$15,000 เหรียญต่อออนซ์ครับ (คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ) คืออย่างนี้ครับ ผมจะใช้สมการข้างบนอธิบายเรื่องปัจจัยพื้นฐานก่อน แล้วถ้ายาวเกินไปผมจะแบ่งไปในโพสต์ต่อไปครับ ง่ายๆ อย่างนี้ครับ

อย่างที่เราทราบๆ USD และทองคำจะแป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน คือการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินดอลล่าจะส่งผลโดยตรงต่อราคาทอง และในทางกลับกันทองคำก็เช่นเดียวกันครับ ทีนี้เรามาดูด้านซ้ายก่อนครับคือ USD

สภาพแวดล้อม หรือความเชื่อมั่นที่มีต่อเงินดอลล่าที่กำหนดทิศทางโดย ภาวะทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การทหาร สภาพการค้า การแข่งขัน และอีกหลายๆ ปัจจัยจะเป็นตัวสะท้อนความเป็นไปของเงินดอลล่าครับ มีเครื่องมือวัดเป็น Dollar Index คือการ weight หรือการคานน้ำหนักเงินดอลล่ากับเงินสกุลหลักอื่นๆ ของโลก เช่น ปอนด์ ฟรังค์ และ เยน แต่ที่ดอลล่าเป็นสากลและเป็นที่นิยมมาหลายทศวรรษเพราะมีขบวนการและกระบวนการ ที่ทำให้เป็นอย่านั้นครับ มีการปั่นและสร้างภาพครับ

Demand หรือความเต้องการเงินดอลล่า เพราะความเป็นที่นิยมของโลก และเพื่อทำให้การซื้อขายง่ายขึ้นการค้าระหว่างประเทศจึงเอาดอลล่าเป็นหน่วย และตัวกลางในการชำระราคาครับ เช่นการนำเข้าและส่งออกสินค้าจะต้องซื้อดอลล่าเป็นตัวกลางก่อนแล้วนำไปชำระ ค่าซื้อหรือขายสินค้าอีกที แต่ถ้าเราเอาเงินไทยไปซื้อเลย เค้าไม่เอาเป็นอย่างนี้กันเกือบทั้งโลกครับ เพราะมีประเทศเล็ก ประเทศน้อยที่ระบบเงินไม่มั่นคง ก็เอาดอลล่าดีกว่าครับ
 

ดอลล่าใช้เป็นเงินสำรอง หรือเงินคงคลังของแต่ละประเทศ เปรียบได้กับทองคำ (ซึ่งไม่จริง และทำได้แค่ในอดีตเท่านั้น) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มันปั๊มออกมาไม่อัันครับ มอมเมาคนทั้งโลกด้วยดอลล่าเหมือนคนเสพยาบ้าครับ จีนนี่หนักหน่อย ญี่ปุ่น รัสเซียตามมาโดยลำดับ จะเอาเท่าไหร่ให้บอก แต่เราก็ยังใช้เป็นเงินสำรองอยู่ แบงค์ชาติครับระวังตรงนี้ อีกไม่นานเราจะล้มเพราะตรงนี้ครับ ใครมีมากก็ล้มมาก

Supply ของเงินดอลล่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐเมริกามีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเท่าไหร่ ทำลายไปเท่าไหร่ ดูดออกไปเท่าไหร่ ตรวจสอบได้แค่ไหน คำตอบคือตรวจสอบไม่ได้ครับ เพราะเป็นเรื่องของ FED ซึ่งหลอกต้มคนทั้งโลกมาตั้งแต่ปี 1913 Fed ไม่มีการ audit ครับ มีเพียงแต่การตรวจสอบกันภายในกลุ่มนายแบงค์เอง ถามว่าทำถึงยอมและเป็นอย่างนั้น เพราะเค้าซื้อไปหมดแล้วทุกอย่างครับหลายสิบปีมาแล้ว เกือบทั้งสภาครองเกรส และตัวประธานาธิบดีเอง คนอเมริกันเองและทั้งโลกโดนต้มจนเปื่อยแล้วเปื่อยอีก เรื่องนี้คุยกันยาวครับ หลักฐานเต็มไปหมด 

แต่ใครจะเชื่อครับว่าประเทศมหาอำนาจ ที่เรียกตัวเองร่ำรวยที่สุดมีแต่ตัวเปล่าครับ เสื้อผ้าจะไม่มีใส่อยู่แล้ว ชุดที่ใส่อยู่ทุกวันนี้ เสื้อเป็นของจีน กางเกงเป็นของรัสเซีย ชั้นในเป็นของญี่ปุ่น รองเท้าเอาของเราไป และอีกหลายประเทศ เพื่ออะไรครับ ไปเอากระดาษเค้ามา แล้วเรียกว่าเงิน "ดอลล่า" หลายคนถามว่าแล้วทองของเค้าที่มีล่ะที่ Fort Knox ไง ผมถามว่าใครเคยเห็นบ้าง ไม่มีการตรวจสอบมาหลายสิบปีแล้วหรือตั้งแต่ทศวรรษที่ 50 เป็นต้นมา มีแต่ทหารยืนหลับยามเฝ้าอยู่อย่างนั้นแหละ และโปรดทราบไว้เลยว่าเคยมีครับ มากด้วยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ถูกจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้กับ FED ทั้งหมด หลังจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำปี 1929-1930 ครับ ที่ราคาทอง 35$ ต่อออนซ์ครับ แล้วหลังจากนั้น 2-3 ปี ทองก็พุ่งขึ้นเป็น $280/ออนซ์ เป็นการใช้ข้อมูลภายในทั้งหมดที่ FED เข้าไปยึด Fort Knox

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมอเมริกาจีงต้องหาเหตุ เพื่อออกนอกระบบ Gold Standard ไงครับ เพราะหมดตูดนี่เอง แล้ว FED ก็เทคโอเวอร์อเมริกาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เค้าถึงต้องสถาปนาระบบเงินกระดาษและรักษามันไว้ให้ดีที่สุดด้วยกลวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เช่นใครไม่รับดอลล่า "ตาย" เช่นอิรัค และต่อไปก็คืออิหร่าน แต่ตอนนี้มาเจอตอครับคือกลุ่ม BRIC+ และอีกวิธีคือการทุบราคาทองคำนั่นเองครับ

หลังจาก FED เทคโอเวอร์อเมริกาแล้ว และปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกยังไม่หยุด เค้าก็พาโลกเข้าสู่สงครามครับ เพื่อล้มกระดานแล้วเริ่มกันใหม่ ใครชนะเป็นมหาอำนาจและได้เงิน ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน พอเห็นภาพเค้าลางของ สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือยังครับ ไม่นานครับ ถ้าคุณยังนั่งอ่านและพิมพ์ตอบโต้กับผมได้ตอนนี้ คุณจะได้เห็นครับ ผมรู้เวลาครับ ผมจึงเลือกกลับมาเมืองไทยเพื่ออยู่ใกล้พ่อแม่ เพื่อเตรียมความพร้อมไปด้วย อย่ารู้อะไรมากไปกว่านี้เลยครับ เพราะมันจะมาเพื่อจะผ่านไปครับ "It will come to pass"

อยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาก็จะปลอดภัย หรือไม่ก็ฟึบเดียวไปเลย ไม่ต้องรู้ไม่ต้องกังวลอะไรดีกว่า......อ่านต่อไป อย่าคิดมากครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น