วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สงครามทองคำ......." The Gold War ".......???

ข้อมูลและประเด็นต่อไปนี้อาจจะเป็น ข้อมูลเชิงลึก(ลับ) และ อาจจะยากต่อการเข้าใจ ขอให้ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มแติมเพื่อความสมบูรณ์ เพื่อแก้ใข หรือหักล้างได้เต็มที่ เชิญระดมสมองและข้อมูลเข้ามาเพื่อช่วยกันพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ.......

โพสต์นี้จะเน้นไปทางปัจจัยพื้นฐานของทอง มากกว่าการวิเคราะห์กราฟเทคนิค แต่ก็ยินดีและจะสมบูรณ์มากขึ้นถ้ามีกราฟวิเคราะห์ดีๆเข้ามาด้วย กราฟจะเป็นตัวบอกจังหวะ สัญญาณและเวลาของการเข้าออก แต่ไม่ใช่การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ ส่วนตัวผมให้น้ำหนัก 70:30 คือปัจจัยพื้น 70% และ การดูกราฟประกอบ 30% แต่เท่าที่เห็นในบอร์ดนี้อาศัยกราฟกันเป็นส่วนใหญ่ ซื่งผมคิดว่า"เสี่ยง" ครับ

การลงทุนในฟิวเจอร์ก็เหมือนกับการพนันดีๆ นี่เองครับ และยิ่งมีกรอบของเวลาเข้ามากำหนด ถ้าเข้าออกผิดจังหวะมีโอกาสติดและขาดทุนสูงมาก แต่คนส่วนมากลงทุนจากการดูกราฟ ซึ่งกราฟคือการเก็บและวิเคราะห์สถิติการซื้อขายที่ผ่านมา หรือ "การอ่านอารมณ์ของตลาด" นั่นเอง แต่สำหรับทองคำซึ่งต่างกับหุ้นโดยสิ้นเชิง เพราะสินค้าตัวเดียวแต่ซื้อขายกันในระดับโลก ในแต่ละกลุ่มของตลาดก็มีจุดประสงค์ของดัวเองเช่นการออมเงิน เครื่องประดับ การป้องกันความเสี่ยง การรักษาอัตราเงินคงคลัง โดยเฉพาะการที่ทองเป็นทุนสำรองของประเทศ จึงทำให้มีตัวละครมากมายมหาศาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งสีขาว สีเทา และสีดำ (ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของหลักการ เหตุผลและที่มาของ โกลด์ฟิวเจอร์ ว่ามีขึ้นมาเพื่ออะไรนอกเหนือจากกการซื้อขายเก็งกำไร)

อย่างที่เราทราบกันคือราคาทองคำในตลาดหลักๆ กำหนดโดยสกุลเงินดอลล่า ก็คือสภาพแวดล้อมของเงินดอลล่าจะเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับต่อ commodity ต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ทองคำ เงิน(Silver) ทองแดงและอื่นๆ

Demand & Supply  หรืออุปสงค์และอุปทานก็เป็นอีกปัยจัยหนึ่งของราคา แต่สำหรับสำหรับทองคำ Demand&Supply มีผลแต่ไม่มากเท่ากับการสร้าง ทุบ ความพยายามบิดเบือน และควบคุมกลไกราคาทองคำตลาดโลก สิ่งนี้คือความจริงและยังคงทำงานอย่างต่อเนี่องมาจนทุกวันนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหาเหตุผลของราคา ณ เวลานั้นๆ ไม่ได้ เราก็จะโยนไปให้เป็นเรื่องของ D&S หรือกลไกตลาดเสมอ "ซึ่งผิด" แล้วอะไรเป็นตัวกำหนด D&S ซึ่งก็คือสื่อต่างๆ แต่ความจริงที่เราต้องรู้คือ "90% ของสื่อทั้งในอเมริกาและอังกฤษ เช่น Fox, CNN, Reuters, The Sun, MSNBC, Google, Bloomberg, ABC, และเกือบทั้งหมดอยู่ในมือของ 5 กลุ่มบริษัทเท่านั้น" ฉะนั้นข่าวและข้อมูลต่างๆ ที่ออกมา คือสิ่งที่เค้าอยากให้เรารู้ 50% เป็นเนื้อข่าวส่วนที่เหลือคือการชี้นำ หรือ Propaganda เพื่อนำไปสู่ Agenda หรือวาระซ้อนเร้นต่างๆ ครับ

สิ่งที่ผมเห็นบ้านเราไม่มีสำนักข่าวระดับประเทศ ข้อมูลที่เรามีโดยส่วนใหญ่ถูกนำมาจากต่างประเทศ จึงเป็นการชี้นำมากกว่าข้อมูลหรือข่าวสารที่จะเอาใช้ได้จริง ทั้งในภาครัฐและเอกชน โพสนี้จึงขอให้พวกเราใช้วิจารณญาณมากๆ ในการสังเคราะห์ข้อมูลในการลงทุนครับ

โพสต์ต่อไปนี้จะเป็นจิ๊กซอแต่ละตัวของเหตุการณ์ ซึ่งใครต่อภาพได้ดีกว่าก็จะเห็นภาพที่กว้างและชัดกว่า และมีข้อมูลมากกว่าในการลงทุนครับ

บางที " The Truth " หรือความเป็นจริงอีกหลายๆอย่างของโลกใบนี้มันลึกและมันหนักครับกว่าที่เราจะจินตนาการไปถึง หากคุณยังอยากใช้ชีวิตในความฝันหรือแบบ "Fantasy" ต่อไป คุณอาจจะรู้สึกอัดอัดครับหรือแทบจะอ่านต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณพร้อมเราก็ไปกันต่อในข้อมูลที่ลึกลงไปอีกครับ.......ขอต้อนรับเข้าสู่ "The Gold War" หรือ "สงครามทองคำ" และสุดท้ายขอให้ทุกท่านสนุกกับการลงทุนในทองคำครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น