วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Swine Flu ทำมาเพื่ออะไร?

"Trojan Horse Operation"
ปฏิบัติการม้าไม้โทรจัน

Swine Flu ไข้หวัดหมู หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ Swine Flu เคยเกิดการระบาด 2 ครั้งในศตวรรษที่ 20ครั้งแรกในปี 1918-1919 ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 5 แสนคน ในอเมริกา และ 20 ล้านคนจากทั่วโลกเสียชีวิต

ครั้งที่ 2 ในปี 1976 ในครั้งนี้มีโฆษณาช่วนเชื่่อ การรณรงค์ และระดมฉีดวัคซีน (X53A) ทั่วประเทศ และมีผู้เซ็นยินยอมเพื่อเข้ารับการฉีดทั้งหมด 46 ล้านคน ผลที่ตามมาคือเกิดผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีนตัวนี้อย่างกว้างขวาง ตัวอย่างคือ มีกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบประสาทบกพร่อง 4,000 คน และ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เสียชีวิต หรือเป็น อัมพาต ตลอดชีวิต และมีบางคน เสียชีวิต ภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้่เป็นผลของวัคซีนที่เข้าไปกดภูมิคุ้มกันหรือ Immune System และไปทำลายระบบประสาท Neurological System

กล่าวคือวัคซีน เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในระยะยาว ซึ่งเมื่อเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายแล้วร่างกายไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคเหล่านั้นได้เหมือนภาวะปกติ จึงทำให้เกิดเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วหรือ Underlying disease ยิ่งจะทำให้โรคเดิมนั้นมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น จึงมีอัตราการตายสูงขึ้นมาก ในปีนั้นผลของวัคซีนยังทำให้เกิดโรคชนิดใหม่ขึ้นคือ GBS หรือ Guillain-Barre Syndrome ทำให้ผู้ป่วยมีการชาตามประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า แขน ขา ปาก หายใจไม่ออก ทำให้เป็นอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด (ซึ่งภายหลังพบว่า สารปรอท (mercury) ที่ใช้ผสมในวัคซีนทั่วๆ ไปมีผลทำให้ระบบประสาทของร่างกายถูกทำลาย)

จากเหตุการดังกล่าว ทำให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลของผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนรวมเป็นเงินถึง $3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กรณีตัวอย่างของครอบครัวนึงคือ นางจูลี่ โรเบิร์ต เป็นแม่บ้าน เป็นนักกีฬา มีสุขภาพที่สมบูรณ์มาก โดยการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเธอจึงได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ในเดือนพฤษจิกายน 1976 สองสัปดาห์ต่อมา เธอมีอาการชาที่ขาทั้ง 2 ข้าง และอีกหกสัปดาห์ต่อมาเธอมีการหายใจไม่ออก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเจาะท่อช่วยหายใจที่คอ และเธอยังมีอาการชาที่แขนขวา และปาก จะไม่สามารถทีจะพูด ยิ้ม หรือหยิบจับสิ่งของได้ตามปกติ เธอต้องเข้ารับการรักษา และฟื้นฟูตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล 12 ล้านเหรียญสหรัฐ

ดังนั้นการระบาดครั้งนี้จึงไม่ใช่ของใหม่ มันคือ Swine Flu หรือไข้หวัดหมูที่เคยระบาดในอดีต แต่ถูกบิดเบือนเพื่อไม่ให้เรากลับไปดูการระบาด และวิธีการในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมีการระบาดใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือน กันยายน-พฤศจิกายน ของทุกปี ในช่วงเปลี่ยนฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ซึ่งจะมีการระบาดของไข้หวัดเป็นประจำอยู่แล้ว อย่าตื่นตระหนกกับการโฆษณาชวนเชื่อของพวกบริษัทยาที่ทำเพื่อหาผลประโยชน์จากความไม่รู้ของเราเลย เค้าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คนหลงเชื่อและยอมทำตามทุกอย่างที่พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของมนุษย์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นอกจากการทำให้สิ่งที่พวกเขาต้องการสำเร็จ

เมื่อประมาณเดือนต้นปีนี้ (ประมาณ มค. –มีค.)มีข่าวว่า บริษัท Baxter ที่โรงงานผลิตวัคซีนในประเทศออสเตรีย (Austria) ได้ผลิตวัคซีนไข้หวัด (Flu Vaccine) ที่มีส่วนผสมของไวรัสที่มีชีวิต ที่พร้อมที่จะทำให้เกิดอาการถึง 2ชนิดคือ ไวรัสไข้หวัดในคน (human H3N2) และ ไวรัสไข้หวัดนก (avian H5N1) โดยไม่มีป้ายฉลากเตือนหรือบอกถึงการผสมไวรัสที่มีชีวิต 2 ชนิดนี้ลงไปที่ฉลากข้างกล่อง หรือข้างขวดบรรจุวัคซีนนี้เลย แล้วได้ส่งวัคซีนไปยัง 18 ประเทศทั่วโลก (รายละเอียดจาก link ข้างล่าง) และประมาณเดือน เมย. ก็เริ่มมีข่าวการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ใน18 ประเทศโดยเริ่มแรกที่ประเทศเมกซิโก และในขณะนี้ก็ได้ระบาดไปเกือบทั่วโลกแล้ว

เราคนไทยควรทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน รวมทั้งศึกษาถึงผลข้างเคียงของวัคซีนที่จะผลิตขึ้นนี้ อย่าตกเป็นเหยื่อ ศึกษาประวัติศาสตร์ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว

รัฐบาลไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนมาแล้วจำนวน 2 ล้านชุด และกำลังตั้งโรงงานผลิตวัคซีนชนิดนี้โดยได้รับเงิน $70 ล้านเหรียญ จากการสนับสนุนขององค์การอนามัยโรค เพื่อผลิตวัคซีนชนิดนี้ให้ได้ 60 ล้านชุุดต่อปี ท่านลองคิดดูว่ามีอะไรอยู่บื้องหลังสิ่งเหล่านี้หรือไม่????

ขอเน้นย้ำให้เราทั้งหลายศึกษาเรื่องราวในอดีต แล้วอย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก อย่าให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของการทำลายมนุษย์ของภูมิภาค เราจะต้องรู้ก่อน หรือรู้เท่าทัน

เป็นสิทธิส่วนบุคคุลในการตัดสินใจที่จะเข้ารับวัคซีนหรือไม่ และมีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนเข้ารับวัคซีน เช่น มีการทดสอบวัคซีนในคนหรือไม่ แล้วผลคืออะไร แล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง มีการจัดทำเป็นเอกสารหรือไม่ ถ้าเกิดโรคแทรกซ้อนแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบ แล้วเราจะเรียกร้องค่าเสียหายได้แค่ไหน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ท่านอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงมาก โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท

วัคซีนที่ใช้ในปี 1976 หรือ X53A ซึ่งถูกฉีดเข้าไป ส่งผลคือการไปทำลายภูมิคุ้มกันที่เรามีอยู่แล้วตามธรรมชาติ หรือ Antigen เปรียบเสมือนการเปิดทาง ให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าโจมตีได้ง่ายขี้น หากมีอาการป่วย จะมีอาการป่วยเรื้อรัง หรือนานกว่าปรกติ และในวัคซีนยังมี Mercury หรือสารปรอท ที่ใช้ในการรักษาสภาพวัคซีนก่อนจะนำไปฉีด ซึ่งไม่มีการบ่งชี้ว่าปลอดภัยอย่างแน่นอนหรือไม่



วีดีโอลิงค์ที่เกี่ยวข้อง...
1.กรณีตัวอย่างของ Judy Robert




2.แผนที่การระบาด
http://www.msnbc.msn.com/id/30435064

3.Depopulation Agenda : David Ike



4.Pandemic Level 6 : Code red alert "Terorist Attack"

5. Flu Vaccine Contamination spread to 18 countries
http://www.centurean2.wordpress.com/2009/04/28/live-avian-flu-virus-placed-in-baxter-vaccine-material-sent-to-18-countries/

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 ตุลาคม 2552 เวลา 05:20

    ถ้าเช่นนั้นก็เท่ากับว่าวัคซีนนี้เป็นตัวที่จะฆ่าคน ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ใช้ป้องกัน swine flue แล้วทำไมเค้าถึงต้องอยากให้ผู้คนล้มตาย เพื่ออะไรเหรอคะ?

    ตอบลบ
  2. ดูลิ๊งค์นี้ครับ แล้วหาดูเรื่องการจัดระเบียบโลกใหม่
    http://www.goldhips.com/board/viewtopic.php?t=1753&postdays=0&postorder=asc&start=135

    อันนี้เป็นวีดีโอสรุป
    http://www.youtube.com/watch?v=G9psap4l-Yc&feature=related

    ตอบลบ