วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชีวิตนอกเดอะแมทริกซ์ " Life Outside the Matrix "

ถ้าวันนี้คุณออกจาก Matrix ได้ คุณจะเห็น......
  1. Obama ไม่ได้เป็นคนที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก แต่เป็นเพียงหุ่นเชิด หรือฉากหน้าของการทำงานบางอย่าง มีกลุ่มบุคคลอีกกลุ่มนึงที่มีอำนาจ และเป็นคนเลือกคู่แข่งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เหลือ 2 คนแล้วให้ประชาชนเลือกอีกที แต่จริงๆ แล้ว เค้าเลือกแล้วว่าจะให้ใครเป็น แล้วให้สื่อต่างๆ เชียร์อีกที และมองย้อนกลับไป President อีกหลายคนก็ถูกเลือกมาให้เป็นครับ
  2. อเมริกาวันนี้ปกครองด้วย Jew หรือ Zionist Jew ไม่มีระบบการปกครองเดิมแล้วตั้งแต่ 1938
  3. Bill Gates ไม่ได้เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก แต่มีคนที่รวยกว่าประมาณ 50 เท่า หรือมากกว่านั้น คนกลุ่มนี้ มีทรัพย์สินประมาณ 500 Trillion หรือ $500,000,000,000,000 เครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก ผ่านบริษัทต่างๆ ในหลายทวีป
  4. โลกร้อนขึ้นจริง แต่เรื่องโลกร้อนเป็นเรื่องโกหก เพื่อทำโครงการอะไรบางอย่าง
  5. JFK, Lincoln ถูกฆ่าโดยคนกลุ่มเดียวกัน
  6. John Lenon, Micheal Jackson, Tupac, Jimmy Hendrix, Princess Diana, Malilyn Monroe และ อีกหลายคน ถูกลอบสังหารจากคนกลุ่มเดียวกัน
  7. ต้องลอบสังหาร เจ้าหญิง Diana เพราะท่านกำลังจะประกาศเรื่องการแต่งงาน และจะมีทายาทกับลูกชายของ Mohamed Alfayed เจ้าของห้าง Harrod ซึ่งเป็นมุสลิม ในขณะที่เจ้าชายวิลเลี่ยมกำลังจะเป็นกษัตรย์ ครองบัลลังค์อังกฤษ การมีน้องชายต่างมารดา เป็นลูกครึ่งมุสลิม เป็นที่ยอมรับไม่ได้
  8. George Soros เป็นฉากหน้าของกลุ่มทุน Hedge Fund นี้เพื่อเข้าโจมตีเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคทั่วโลก แล้วให้อีกกลุ่ม(IMF & World Bank)ตามไปตีซ้ำแล้ว อีกกลุ่ม(Goldman Sach, Lehman Brother และ GE Capital) ปล้นชิงทรัพย์สินอีกที
  9. เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกเพิ่งจะเริ่มขี้น ของจริงกำลังจะมา อาจจะปลายปี 2010-2012 ทั้งหมดทำโดยคนกลุ่มเดียวกัน เพื่อเป้าหมายที่สูงสุดบางอย่าง
  10. คนกลุ่มนี้ก่อสงคราม เพื่อปล่อยเงินกู้ และขายอาวุธ เป็นงานหลัก เพราะฉะนั้นธุรกิจหลักคือเรื่องการเงิน การธนาคาร และการทหาร
  11. สงครามหลักๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มาจากน้ำมือคนกลุ่มนี้ ตั้งแต่สงครามครูเสดเป็นต้นมา จุดประสงค์ในข้อ 10
  12. อเมริกา แบ่งได้เป็น 6 ส่วน รัฐบาล, ภาคการเงินการธนาคาร หรือ Financial Sector, การทหาร, ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือ Wall Street, ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก หรือ Main Street และ ประชาชน โดย 4 ส่วนแรกคนกลุ่มนี้ยึดครองได้หมดและนานมากเป็น 100 ปีแล้ว แล้วแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก ที่เราเรียกว่า Globalization หรือ โลกาภิวัฒน์
  13. เหตุการณ์ World Trade Center ถูกจัดฉากทั้งหมด เพื่อพาประเทศเข้าสงครามอิรัก เพื่อออกฏหมายและตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นรัฐบาลเงาของสหรัฐ เช่น DHS, FEMA, NorthCom และอีกมากมาย ทุกหน่วยงานข้ามหัวรัฐธรรมนูญทั้งหมด
  14. Bin Laden ถูกจัดฉากขึ้นมาเพื่อเขย่าขวัญคนอเมริกัน และชาวโลก เป็นไปไม่ได้ที่แสนยานุภาพ และเทคโนโลยี ของสหรัฐ จะจับคนๆ เดียวในถ้ำไม่ได้ เป็นเวลา 8 ปี แต่มีการขยายผลไปมากมาย
  15. สิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไปนี้ คือรัฐบาลเงาที่ถุกสร้างขี้นจะเข้ายึดครองประเทศ และยึดอำนาจการบริหารทั้งหมด อย่างแนบเนียน ภายใต้ภาพสงครามการก่อการร้าย
  16. สงครามอีรัค คนอีรัคตายไป 1,300,000 กว่า ทำลายประเทศนี้แล้วสร้างขึ้นใหม่ แต่คนที่ไปสร้างกลับเป็นผู้รับเหมาชาวอเมริกัน และ ยุโรป ได้สัมปทานน้ำมันท้ังหมด บริษัทรับเหมาใหญ่ที่สุดคือ Harriburton ซึ่งเจ้าของคือ Dick Cheney รอง ปธน. นั่นเอง สิ่งทีสร้างคือ Military Complex หรือฐานทัพสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
  17. ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในทุกมุมโลก เกิดขึ้นเพราะโครงการของคนกลุ่มนี้ เช่น ซึนามิ, แผ่นดินไหว, น้ำท่วม, โคลนถล่ม, เฮอริเคน และอีกมาก ด้วยโครงการวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า H.A.A.R.P มีการวิจัยมาเป็น 100 ปี เพื่อควบคุมสภาวะอากาศ บิดเบือนสภาพอากาศ และใช้ประโยชน์ในการสงคราม หรือ Weather Warfare โดยสถานีควบคุมอากาศนี้ มีอยู่ 5 สถานี 3 ในอเมริกา, 1 ในรัสเซีย และอีก 1 ในยุโรป
  18. การปฏิวัติล้มราชวงศ์ต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อหยิบยื่น ประชาธิปไตยเข้าไปในประเทศนั้น เหตุผลก็เพื่อเข้าสถาปนารัฐบาลของตัวเองโดยผ่านระบบเลือกตั้งให้เข้าไปมีอำนาจ และอิทธิพลในประเทศนั้นๆ หรือการตั้งตัวแทน สนับสนุนเงินผ่านตัวแทน เช่นเสื้อเหลือง เสื้อแดงเป็นต้น
  19. ยังมี Agenda อีกมากมายที่กำลังทำลายมนุษยชาติ เช่น Agenda 21, Food Codex, Bluebeam Project, Chemtrail, Water Fluoridation และการทำวัคซีนต่างๆ ในมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิด
  20. โรคเอดส์ โรคสมองเสื่อม โรคภูมิแพ้ โรคออทิสติค หรือโรคใหม่ๆ ที่เกิดในช่วง 100 ปีมานี้ก็เป็นโครงการทดลองของคนกลุ่มนี้เช่นกัน 
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่มีมาเป็นร้อยปีแล้ว ซึ่งรากจริงๆ แล้วมีมาหลายพันปี ของอเมริกา โดนไปอย่างจังๆเมื่อปี 1913 หลักฐานอยู่ในกระเป๋าเงินของคุณเอง ลองเอาแบ๊งคฺ์ 1 เหรียญ ขึ้นมาดู ที่ด้านหลังจะมีตราสัญลักษณ์ซ่อนอยู่มากมาย โดยเฉพาะรูปปิระมิดที่ยังสร้างไม่เสร็จ ดวงตา อัคระต่างๆ "Novus Ordo Seclohum" หรือ New World Order นั่นเอง


ลองดู Georgia Guidestones หรือ American Stonehenge คือทิศทางของโลกใหม่หรือสิ่งที่คนกลุ่มนี้กำลังทำ และผลักดันให้เกิด นี่ไม่ใช่ทฤษดีสมรู้ร่วมคิด หรือ Conspiracy อะไร เพราะคนที่ตาย ตายจริง เศรษฐกิจพังจริงๆ



"Operation Overwatch"

การปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้เรียกว่า "Operation Overwatch" แม่งานคือ FEMA และมีการสนธิกำลังของอีกหลายหน่วยงาน เช่น Department of Homeland Security (DHS), Northern Commander (NorthCom) และกำลังอีกส่วนของสหประชาชาติ (UN) ซึ่งทั้งหมดเป็นทหารต่างชาติ อาจจะไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้

เรื่อง Flu วัคซีนทุกอย่างเป็นไปตามคาด ทั้งเวลา และวิธีการ วันนี้เริ่มออกข่าวใน TV เช่น Fox News และ CNN แล้วเพื่อปูพื้นไว้ และโฆษณาชวนเชื่อ จะเริ่มมีการฉีดวัคซีนในเดือน ตุลาคมนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น มีการเตรียมไว้ชุดแรก 20 ล้านชุด คำถามคือ
  1. การทดลองในคนมีกำหนด Aug 1st, ทั้งที่ยังไม่มีการทดลองเลย แต่วัคซีนพร้อมที่จะฉีดแล้ว
  2. มีการเตรียมทหารหลายหน่วยงาน เข้ามาควบคุมการฉีด ทำไม ในเมื่อเป็นเรื่องของสาธารณะสุข
  3. มีการเตรียมการประกาศกักกันเชื้อโรค และ กฎอัยการศึก Martial Law
  4. การเตรียมพร้อมในระดับสูงขนาดนี้ จะต้องมีอะไรชัดเจนแน่นอน
ดูเทปนี้เพื่อเป็นการยืนยัน


มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนกว่านี้อีกมากครับ ต้องใช้เวลาที่จะทำความเข้าใจ เชื่่อหรือไม่ ก็อย่าแค่เบือนหน้าหนี เจาะ ขุดคุ้ย หาข้อมูล พิสูจน์ความจริงออกมา ความจริงไม่ได้อยู่ในทีวีหรือหนังสือพิมพ์ นั่นเป็นสิ่งที่เค้าอยากให้เห็นและเชื่อเท่านั้น เข้า youtube แล้วพิมพ์ H1N1 หรือ Flu Vacination และ Operation Overwatch ดูหลายๆ อันประกอบ ทำความเข้าใจ ขอให้ปลอดภัย และพระเจ้าคุ้มครองครับ

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ตอบคุณ Pirsoner เรื่องหนังสือที่น่าอ่าน

คุณ Pirsoner :

ลองหาอ่านเรื่องโครงสร้างการทำงานของตลาดทุน เอาแบบติวเข้ม เพื่อรู้กลไกการทำงานของตลาด แล้วก็ข้ามไปกลโกงรูปแบบต่างๆ เช่น การปั่น การสร้างราคา การเอาหุ้นเข้าตลาด การตบแต่งบัญชี การใช้ข้อมูลภายในต่างๆ กองทุน หุ้นปั่นโดยเจ้าของ ต้องรู้ครับ ไม่ได้เพื่อโกงเค้าครับ แต่เราต้องไม่ถูกโกง และอ่านเกมออก เพื่อจะเรียนบทต่อไปคืออยู่เหนือเกมครับ

ผมไม่ได้อ่านหนังสือของไทย มานานแล้วครับ ที่จำได้ 10 กว่าปีก่อนเรื่่องหุ้นอ่านของ ดร.นิเวศน์ เหม ก็น่าสนใจดีครับ เรื่อง Value Invester เป็นแนวทางทีดีแนวทางนึง แต่ที่อยากแนะนำจริงๆ หาพวกวีดีโอดูดีกว่า เร็วกว่ามาก เพราะการอ่านต้องใช้เวลา ใช้อินเตอร์เนต เข้า Youtube หรือ Google Video ถ้าหาข้อมูลเพิ่มก็ Wiki อะไรประมาณนี้ เราเป็นคนไทยต้องฝืนเรื่องภาษาแล้วจะได้ภาษาด้วย ดูไปเปิด Dict ไป ไม่แปลก ลองหาดู Money Master และ Obama Deception ใน Goolgle Video ดู 2 อันนี้จบและเข้าใจ คุณจะรู้มากกว่าดอกเตอร์หลายๆ คนซะอีก คุณจะรู้ว่าเกมระดับโลกเค้าเล่นกันยังไง ตาสว่างแลยล่ะ มีองค์ความรู้อีกมหาศาลที่รอการค้นพบครับ ใช้ Internet ซัก 3 mb ก็เหลือแล้ว

ช่วงเวลานี้ต้องออกรบแล้วครับ ตลาดตอนนี้วิกฤติการเต็มไปหมด แต่มันเป็นโอกาสสำหรับคนที่มองเห็นครับ มีเวลาไม่มาก ช่วง 3-5 ปีนี้เป็นช่วงทำเงินครับสำหรับนักลงทุน แต่ต้องมองให้ออกเพราะเสี่ยงสูง อ่านให้ขาด ข้อมูลแน่น ทำงานเป็นทีมครับ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปต้องรออีก 10-15 ปีเป็นอย่างน้อยครับ

หนังสืออีก 3 เล่มที่ควรอ่านคือ 

1."ปฏิบัติการมารครองโลก" เป็นหนังสือแปลของสำนักพิมพ์ 14 พับบลิเคชั่นครับ ( เล่มนี้แนะนำว่าต้องอ่านครับ!!! )


2.ที่ SE-ED "เจาะลึกสมาคมลับกับการปฏิวัติโลก" ได้หนังสือมาแล้ว หาแบงค์ 1 เหรียญสหรัฐมา 1 ใบพลิกดูที่ด้านหลัง เทียบดูกับหนังสือ แล้วก็อ่านได้เลยครับ เพราะคุณมีทั้งหลักฐานและพยานอยู่ในมือแล้ว หาให้เจอว่าตราสัญลักษณ์ 2 ดวงนี้ หมายถึงอะไร คุณจะเข้าใจโลก และมองเห็นอนาคตข้างหน้า ข้อมูลของหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างดี และเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งครับ

2.หาพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ฉบับภาษาไทยเปิดไปที่บทสุดท้ายเรื่องวิวรณ์ บทที่ 18 บาบิโลน เปรียบได้กันประเทศที่ร่ำรวยและเจริญก้าวหน้าที่สุดในยุคนี้ครับ หากไม่เข้าใจ หาคนที่เป็นคริสเตียนระดับผู้ใหญ่หน่อยให้เค้าอธิบายให้ฟังก็ได้ครับ

Gold Update.......This Way

ทองคำแท่ง $956.30
ไหลขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บ้านเรา 15,350:15,250
Dollar Index (USD) 78.51



ไหลลงอย่างต่อเนื่อง มี pull back บ้างเล็กน้อย แต่เอาไม่อยู่ เพราะมีประเด็นที่รุนแรง และ มากเกินไปที่กดดอลล่าให้อ่อนลง

ประเด็น...
1.ดูเหมือนว่าจีนตัดสินใจ และหาทางออกจากเงินดอลล่าได้แล้ว โดยการไล่ลงทุน ปล่อยกู้ ซื้อสินทรัพย์ ในทุกภูมิภาคของโลก และ โดยเร็วที่สุด เหมือนที่อีกหลายๆ ประเทศมหาอำนาจกำลังทำ ปกติจีนจะซุ่มทำด้วยความนุ่นนวล แต่ครั้งนี้จีนทำอย่างเปิดเผยและเป็นข่าวครับ

2.ยอดผิดนัดชำระบัตรเครดิตพุ่งขึ้นเป็น 13.80% แล้ว
3.อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นถึงระดับเศรษฐกิจโลกตกต่ำครั้งใหญ่ The Great Depression ในปี 1932 แล้ว 

4.ตั้งแต่ต้นปี มีการปิดธนาคารอย่างเงียบๆไปแล้ว 64 แห่ง ***โดยที่ไม่เป็นข่าว*** และคาดว่าธนาคารอันดับ 2 ของรัฐเท็กซัส กำลังจะล้มในไม่ช้าครับ 
5.ในวันศุกร์นี้ จะมีการเปิดเผยคาดการณ์ตัวแลข GDP ของครึ่งปีหลัง ดูแล้วคงจะออกมาน่าเกลียดอีกครับ

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Gold Update....This way

เท่าที่ดูปัจจัยราคาตอนนี้ไม่มีปัจจัยอะไรที่เป็นลบต่อราคาทองครับ นอกจากการทุบอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม ธนาคารกลางยุโรป และอเมริกา โดยเฉพาะ Fed นี่เต็มที่เพื่อรักษาสถานภาพของเงินดอลล่า และระบบเงินกระดาษให้ได้นานที่สุด เราจะสังเกตุได้จาก ดอลล่าอินเด็กซ์ USDX เจอแนวต้านใหญ่ที่ 79 ซึ่งก็สะท้อนสภาพความเป็นจริงของความเชื่อมั่นต่อเงินดอลล่า จับตาไว้ ถ้าเมื่อไหร่ที่่ลงต่ำกว่า 70 ตัวใครตัวมันครับ

รู้แล้วอย่าบอกใครนะ.....ก็คือดอลล่าต้องล้มครับ แต่ภาพจะออกมา 2 ภาพ

1. USDX ค่อยๆ ร่วงลงไปเรื่อยๆ จนต้องลดค่าเงินที่สุด
2. USDX ทำให้ล้มแบบฉับพลัน เพื่อไม่ให้ตั้งตัวติดเพื่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุด

แต่กรณีที่ 2 จีนและกลุ่มประเทศเจ้าหนี้พยายามพยุงเต็มที่ ไม่ใช่อเมริกานะ อเมริกาต้องการให้ล้มแบบที่ 2 แต่ฉากหน้าต้องรักษาเต็มที่ไม่ให้หน้าเกลียด เดี๋ยวเค้ารู้หมดว่าวางแผนอะไรไว้ จีนพยายามเต็มที่เพื่อเปลี่ยนหนี้สกุลดอลล่าที่มีทั้งหมดให้เป็น Tangible Assets หรือทรัพย์สินอื่นๆ นอกสกุลดอลล่า เป้าหมายแรกคือทอง แต่หาไม่ได้อย่าที่ต้องการ ก็ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า กระจายการลงทุนไปทั่วโลก ในทางลึก จีนไม่เอาดอลล่าแล้ว รวมทั้งกลุ่ม BRIC+ ทั้งหมด คือ Brazil+Russia+India+China+Iran กลุ่มละตินอเมริกา จะเห็นว่าเป็นตัวแสบๆ ที่อเมริกาหมายหัวไว้ทั้งนั้น กลุ่มนี้เค้าประชุมกันอย่างเป็นทางการหลายครั้ง เรียกร้องหลายอย่าง แต่ IMF ไม่ตอบสนองทั้งที่เค้าเป็นประเทศเจ้าหนี้

เหตุผลที่ BRIC+ ban อเมริกาก็เพราะ เค้าดูแล้วอเมริกาไม่จ่ายหนี้เก่าแน่ แล้วใช้วิธีให้เข้าไปซื้อหนี้ใหม่ แล้วเอาเงินใหม่มาจ่ายหนี้เก่าหมุนทบไปเรื่อยๆ หลายเดือนที่ผ่านมาจึงไม่มีประเทศไหนเข้าไปประมูลซื้อ US Bond ครับ แต่อเมริกาไม่มีทางเลือกเพราะเงินขาดมือ และไม่มีใครให้กู้ เลยให้ FED เข้าประมูลอย่างลับๆ (Close Door Auction) ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภาษาทางการเงินเรียกว่าการทำ Quantitative Easing หรือ Debt Monetization ก็คือพิมพ์เงินเพิ่มจากอากาศนั่นแหละ (ตัวนี้เป็นตัวกด USD อย่างแรง 1)

ไม่เท่านั้นหลังทำน่าเกลียดก็ยังมาบอกว่า ทำแป๊บเดียวน่า เพื่อกดอัตราดอกเบี้ยไว้ จะทำแค่ถึง Sept นี่ก็ออกมาบอกว่าอาจจะต้องขยายออกไป แถมมามุขใหม่ เอาดอลล่าให้พวกแบงค์ต่างชาติเข้ามาประมูลบอนด์อีก เค้ารู้ทันกันครับเพราะตอนนี้ไม่มีใครดีกว่าใคร โดนพิษกันทั่วหน้า ตอนนี้ดอกเบี้ยบอนด์ชั้นต่างๆ พุ่งขึ้นทั้งหมดแล้ว

ในทางลึก America เอาเงินไปไหน จีนและรัสเซีย ก็รู้ว่า 60% ของเงินที่ยืมไปก็ไปใช้เพิ่มแสนยานุภาพทางทหาร แล้วสุดท้ายถ้ามีเรื่อง แล้วต้องใช้กำลังตัดสิน เงินตรงนี้ที่จะกลับมาทำลายจีนและรัสเซียเอง "Enough is Enough" พอกันที ดังนั้นการซื้อขายในกลุ่ม BRIC+ หลายเดือนที่ผ่านมาจึง quote และชำระราคากันเป็นเงินสกุลท้องถิ่นของแต่ละประเทศ มองข้ามเงินดอลล่าไปเลย (ตัวนี้เป็นตัวกด USD อย่างแรง 2) อเมริกาส่ง Hillary มาเยือนจีนก็คือมาขอกู้เงิน จีนเลยจับให้ค้ำประกันหนี้เก่าก่อน แล้วของใหมค่อยว่ากัน ลองหาดูเอกสารฉบับนี้ว่ากันไปถึงการยึดดินแดนเป็นของจีนถ้าเบี้ยวหนี้ หลังจากนั้นไม่นานจีนก็หยุดซื้ออีกโอบาม่าเลยต้องส่ง Tim Geithner มาอีกรอบสุดท้ายโอบาม่าต้องมาเอง จีนเลยยื่นข้อเสนอให้คือจีนให้กู้ได้แต่จะให้กู้เป็นสกุลเงินหยวน และแล้วต้องคืนเป็นหยวน+ดอกเบี้ยเท่านั้น ถ้าอเมริกายอมดอลล่าก็เจ๊ง ถ้าไม่ยอมก็เจ๊งเหมือนกัน

กลัมมาที่การล้มของดอลล่า ไม่ว่าจะเป็นข้อ 1-2 อเมริกจะต้องลดค่าเงินอย่างแน่นอน แต่ในเคสที่ 1 อาจจะมี Side Effect คือ Hyper Inflattion เงินเฟ้อขั้นรุนแรงก่อน และต้อง Devalue ในที่สุด เท่าที่ได้ข้อมูลมาอาจจะลง 50% และเปลี่ยนสกุลเงินหลังจากที่ลดค่าเงินแล้วไปสู่ระบบ Gold Back หรือระบบที่มีทองหนุน หรือล่าสุดเรียกว่า Mix Metal Money System คือมีอะไรมากกว่าทองแต่ต้องเป็นที่ยอมรับเท่านั้น

ในเคสที่ 2 ตัวที่อาจจุดชนวนคือโรคระบาด หรือไข้หวัดใหญ่ที่จะเริ่มระบาดหลังโรงเรียนในอเมริกาเริ่มเปิดเทอม และจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราจะได้เห็นการต่อต้านรัฐบาลเรื่องวัคซีน เพราะเค้าออกกฏหมายบังคับฉีด ตอนนี้กำลังพิจารณาบทลงโทษอยู่สำหรับคนที่ไม่ยอมรับวัคซีน รัฐบาลอเมริกัน เตรียมการเรื่องนี้อย่างขมักขเม้นรวมทั้งการทหาร โลงศพ และหลุมฝัง และ หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ CDC (Central Diseases Control) เตรียมเรื่องนี้มาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว (เหมือนสั่งได้แลยแฮะ ไอ้โรคตัวนี้)

(มีใครช่วยไปบอกรัฐบาล และแบงค์ชาติหน่อยก็ดีนะ ว่าแผ่นดินไหวไปแล้วซึนามิกำลังจะมา ตื่นเถอะ เลิกทะเลาะแย่งอำนาจกันซักพัก เอาชาติให้รอดก่อน)

ทุกขั้นตอนความเคลื่อนไหว จะมีทองเกี่ยวข้องทั้งหมด ตอนนี้พอเห็นภาพแล้วนะครับว่า ราคาทองจะไปทางไหน $2000 ยังน้อยไป อย่าห่วงแค่ว่าจะทะลุ $1,000 หรือไม่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทองครับ ทองก็เป็นทองอยู่ดี ปัญหาคือดอลล่าครับ สรุปว่าคุณกับผมโชคดีหรือโชคร้ายนะที่อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์นึงของมนุษยชาติ????

***ประเด็นทั้งหมดนี้ ผมมีเอกสาร link และ references ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ แต่ต้องระบุเป็นประเด็นย่อยครับ CDC, Swine Flu, Flu Vacine, Economic Collapse, Hyper Inflation, เป็นต้น เพราะนี่เป็นภาพใหญ่ ถ้าใครที่สนใจขอมา ได้แล้วผมจะหาวิธีส่งให้ ถ้าท่านใดมีใจกรุณาแปล เรียบเรียง แล้วเผยแพร่ออกไป จะช่วยคนไทยให้รู้ตัวก่อนและไม่ให้หมดตัวได้อีกมากครับ***

FEMA Drill July 27-31 การเคลื่อนไหวทางทหารอย่างเป็นนัยสำคัญ

FEMA หรือหน่วยงาน Ferderal Emergency Management Agency มีหน้าที่คอยเตรียมพร้อม และเข้าแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ Disaster เช่น การถูกโจมตี ภัยธรรมชาติ หรือภัยภิบัติร้ายแรงเท่านั้น

July 27-31 FEMA มีการเคลื่อนไหวเตรียมพร้อม และซ้อมจัดกำลัง ใน 3 ประเทศคือ อเมริกา แคนาดา และ แม็กซิโก ที่สำคัญมีการใช้ทหารของ UN เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ที่เอาทหารต่างชาติเข้ามาเหยียบบนแผ่นดินนี้ ใครที่อยู่ใน 3 ประเทศนี้ คงจะเป็นความเคลื่อนไหวทางทหารนี้ืได้จากทั่วประเทศ

คงไม่นานแล้ว คงจะได้เห็นอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น เพราะหมากทุกตัวเค้าวางลงตัวหมดแล้ว อีกไม่นานคงจะถึงเวลาการรุกฆาตแล้วครับ สิ่งที่เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น จะพยามเรียงจากเบาไปหาหนัก
  1. เป็นการวางกำลังเพื่อเตรียมพร้อมรับ ไข้หวัดที่จะระบาดอย่างรุนแรง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จะมีคนตายจำนวนมหาศาลจากไข้หวัด และตายเพิ่มจากการฉีดวัคซีน......หลายล้านคน เป็นไปได้ว่าจะเกิดในช่วง Fall ปีนี้ คือเดือน 9-12
  2. เป็นการวางกำลังเพื่อเตรียมพร้อมรับ การล้มละลายของรัฐบาลแต่ละรัฐ โดยเริ่มทางใต้ของ CA ก่อน ลามมาที NV และอีกหลายรัฐที่มีปัญหาทางการเงิน IOU ทีออกไปจะครบกำหนด Oct 1 ดูแล้วคงไม่สามารถขึ้นเงินได้แน่
  3. เป็นการวางกำลังเพื่อเตรียมพร้อมรับ การล้มของเงินดอลล่า ในเดือน 9-11 จะเกิด Bank Run คือคนแห่ถอนเงิน ธนาคารน่าจะล้มทั้งระบบ แและมีการปิดธนาคาทั้งระบบ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น บางแห่งจะไม่กลับมาเปิดอีก เพื่อทำการลดค่าเงินอย่างรุนแรง ทุกอย่างจะถูกยกเลิกหมด หรืออาจเปลี่ยนระบบเงินใหม่มาแทนดอลล่า โดยเงินสกุลใหม่นี้จะมีทองเป็นตัวหนุน หรือเรียกว่า Gold Back Money เงินดอลล่าเก่าอาจจะแลกเงินสกุลใหม่ได้ในอัตราส่วน 1 ดอลล่าเก่า ต่อ 1-2 เซนต์ของเงินสกุลใหม่ เพราะว่าคุณกำลังเอากระดาษ ไปแลกกับทอง
  4. เป็นการวางกำลังเพื่อเตรียมพร้อมรับ การโจมตีของผู้ก่อการร้ายอย่างรุนแรงที่สุด อย่างเช่น Operation Blackjack (เข้า youtube แล้ว search หา Operation Blackjack) เป็นที่น่าสังเกตุว่ามีการวางกำลังใน 3 ประเทศ ซึ่งเข้ากับสถานการณ์ของ Blackjack พอดี จะนำไปสู่การรวมชาติทั้ง 3 เข้าด้วยกัน
1 และ 2 คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว
3 เวลาอาจจะบวกลบนิดหน่อย
1, 2 และ 3 อาจจะเกิดพร้อมกัน
4 ไม่อยากคิด 

แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ไหนจะเกิดขึ้นก่อน จะมี Martial Law หรืออัยการศึก ซึ่งจะมีการปิดล้อม และกักกันทั้งหมด ปิดสนามบิน การเดินทาง การสื่อสารทุกชนิดถูกตัดขาด ไฟฟ้า น้ำประปา การกดขี่ และขาดแคลนอาหาร

เรือ Titanic ลำนี้ชนภูเขาน้ำแข็งไปแล้วเมื่อปลายปี 2007 เรื่อหักกลางไปแล้วเมื่อปลายปี 2008 ตอนนี้ส่วนที่เหลือกำลังจมลงช้าๆ สู่ก้นมหาสมุทร เมื่อมันจมลงแล้วมันจะมีแรงดูดมหาศาลเพื่อดูดทุกอย่างในรัศมีของมันลงไปด้วย แต่พวกเราอีกหลายคนยังคงนั่งกินอาหารในห้องอาหารของเรือที่มีเพลงขับกล่อม มีคนจำนวนมากวิ่งไปมาเพื่อมาบอก แต่ก็ไม่ฉุกคิด เพราะเค้าไม่เคยแม้แต่จะมองออกไปนอกเรือ แล้วเค้ายังมั่นใจว่า เรือลำนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีวันจมได้หรอก คุณมันบ้า และในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 1,517 คน เป็นประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติครับ 


สนับสนุนนาซีเยอรมันในทางลับฆ่ายิวไป 6 ล้านกว่าคน 
ในช่วงสงครามโลก
อเมริกาก่อสงครามมาตลอดหลายสิบปีในทุกทวีปทั่วโลก
นิวเคลียบอมบ์  2 ลูกในญี่ปุ่น ฆ่าไปอีก 400,000 กว่า
จัดฉากชนตึก 911 ฆ่าคนอเมริกันไปอีก 4,000 เพื่อก่อสงครามอิรัค
ฆ่าในอิรักไป 1.3 ล้านคนในสงครามเดียว
ทหารอเมริกันตายไป อีก 4-50,000 คน

ปัจจัยพื้นฐานเนื้อๆของ......ทองคำ 2/2

(สภาพแวดล้อม, Demand+, Supply-) US$
...Vs...
ทองคำ (Demand+, Supply-)

ตอนนี้เรามาดูที่ด้านขวาของทฤษฏีนี้ครับ

Demand หรือความต้องการทองคำจะเป็นตัวทำให้ราคาพุ่งสุงขึ้น กลับไปตั้งแต่การเริ่มต้นอริยธรรมมนุษย์ ทองคำแสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจครับ เช่นมงกุฏของกษัตริย์ เครื่องประดับ เครื่องบรรณาการ เครื่องใช้ที่มีค่าต่างๆ ก็เป็นทอง เรื่องคุณสมบัติต่างๆ ของทองหาอ่านได้ตามเวบต่างๆ ครับ ทองและเงินก็คือเงินจริงๆ ในสมัยโบราณและก็เป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่การที่ทองมีน้ำหนักมาก และยากต่อการเคลื่อนย้าย จึงเกิดอาชีพนึงขึ้น คือ Money Changer ทำหน้าที่รับฝากทองแล้วออกกระดาษให้ 1 ใบเป็นตั๋วสัญญา เพื่อจะกลับมาเบิกจ่ายกันในภายหลังได้

พอระบบนี้เป็นที่แพร่หลายก็ใช้กระดาษนี้ชำระราคา หรือซื้อขายกันไปเลย คือทองคำมีเท่าไหร่ก็ต้องมีกระดาษเท่านั้นถูกไม๊ครับ และนี่คือพื้นฐานของระบบธนาคารครับ แต่พอ Money Changer ขยายตัวมากขึ้นและยังไม่มีการควบคุมเริ่มโลภและมั่วครับทีนี้ เริ่มมีการออกกระดาษเกินจำนวนทอง (พวกไหนนะคุ้นๆ) ไม่มีใครรู้ครับ จะตรวจสอบกันยังไงถ้าเค้าอ้างเรื่องความปลอดภัย (นึกถึงยามที่ยืนเฝ้าที่ Fort Knox น่าจะเฝ้าสนามหญ้าอยู่) ผู้ปกครองในยุคนั้นๆจึงเข้ามาควบคุมระบบนี้ครับ คนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะทำได้ ในยุคต่อมาจึงก่อให้เกิดธนาคารกลางขึ้นเพื่อเข้ามาทำตรงนี้ และควบคุมปริมาณกระดาษที่ออกสู่ตลาด ถ้าปั๊มๆๆ อย่างเดียวก็ทำให้กระดาษตรงนี้เสื่อมค่าหรือเจือจางลง เพราะทองก็มีอยู่แค่นั้นครับ ใช่แล้วครับกระดาษเฟื้อ(เงินเฟ้อ)ครับ เพราะฉะนี้น

1.ทองจะต้องเท่ากับปริมาณกระดาษที่ประเทศนั้นๆ จะพิมพ์ออกมาได้เท่านั้นครับ คือทองเป็นทุนสำรองครับถ้าเค้าเอามาแลกก็ต้องเป็นไปตามนั้น

แล้วถ้าเกิดธนาคารกลางมีปัญหาล่ะเช่นในภาวะจราจล หรือสงคราม ก็กลายเป็นกระดาษไงครับ สูญครับเพราะจะไปเอาทองที่ไหนล่ะครับ เข้าใจหรือยังว่าทำไมรุ่นปู่ย่าตายายเค้าถึงเก็บเงินเก็บทองฝังดินไว้ เพราะเค้าเคยอยู่ภาวะสงครามที่เราไม่เคยเห็นไงครับ เค้าถูกครับเราผิดเองที่ไม่รู้ไปหัวเราะเค้าอีก เพราะฉะนั้นในภาวะที่ไม่แน่นอน ทุกคนต้องรีบเอากระดาษนี้ไปที่แบงค์ชาติเปลี่ยนเป็นทองครับ........... หยุดดดด อย่าไปครับโดนยิงแน่นอน ไปร้านทองโน่น (ขอย้ำนะ ห้ามไปแบงค์ชาตินะโดนกระบองยามแล้วเงินหายอีก ห้ามโพสต์มาด่าด้วย ไปร้านทอง) Demand จะพุ่งทันที ทองก็จะพุ่งขึ้นครับเพราะใครถือกระดาษคนสุดท้าย "ซวย" กระดาษน่ะอยู่ แต่ตึกธนาคารชาติหายไปแล้ว

2.ทองเป็นวัตถุเพื่อการรักษาความมั่งคั่ง เก็บออม และป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะในภาวะเงินเฟ้อ [Hedge against Inflation]

3.เป็นเครื่องประดับ อันนี้เหมือนโชค 2 ชั้นได้ใส่ด้วย แล้วยังได้ในข้อ 2 ด้วย ทำให้เกิด Demand ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมากอีก

4.และการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อีกมหาศาล เพราะทองก็เป็นสสารชนิดหนึ่งจึงเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมบางชนิดครับ

สภาวะ Demand ในปัจจุบัน

1.เกือบทุกชาติ(อาจจะมีบางชาติที่ยัง high ยังเมาค้างหรือเสพติดดอลล่าอยู่) รีบตามล่าหาทองเพื่อถ่ายเงินดอลล่าออก เพราะมันปั๊มไม่หยุด และหยุดไม่ได้แล้วววววว โดยเฉพาะ จีน รัสเซีย และอินเดีย วิ่งกันขาขวิด ออกไปอัฟฟริกาก็เอา ซื้อทองไม่ได้ ซื้อเหมืองเลยละกันเผื่อมีทองขึ้นมา ทองไม่มีทองแดงก็เอา จีนเลยกลายเป็น King Copper ไปแล้ว ต่อไปน่าจะทองม้วน บ้านเราจะได้รวยซะที ยายข้างบ้านทำอร่อยมาก แต่ฉากหน้าต่ออเมริกากอดคอ จับมือ ถ่ายรูป ชื่นมื่นครับ บอกว่าโอ๊ยดอลล่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ประชุม G20 เสร็จบินต่อไปเจรจาซื้อเหมืองต่อ ที่คุณเห็นข่าวแค่ท่อนแรกครับ สถานการตอนนี้ดูสิ่งที่เค้าทำครับ ไม่ใช่สิ่งที่เค้าพูดหรือเป็นข่าว

แล้วจีนเค้าก็ออกมาประกาศว่าประเทศเค้าสะสมทองมาตั้งแต่ปี 2004 แล้วครับ แล้วจะเพิ่มอีกเท่านั้นเท่านี้ ทองพุ่งปริ๊ด เกมส์นี้คมครับ อัดไอ้กันอย่างเต็มๆ ไอ้กันกับอังกฤษต้องตามทุบอีก ไปหามุขมาใหม่อีก จะสังเกตุได้ว่าเก็บมาตั้งนานทำไมไม่บอกล่ะ บอกไม่ได้ครับเดี๋ยวทองแพงไงครับ ซื้อก่อนดีกว่า แต่ที่มาพูดเพื่อเบรคเกมไอ้กันว่า ไม่เอาดอลล่าแล้วโว๊ย อเมริกาทำอะไรซักอย่างสิ หรือเป็นการเสนอซื้อไปทั่วโลกไม่เกี่ยงราคา 


ลองหาราคาทองในตลาดมืดสิครับ $1,300 กว่าแล้ว ปี 2008 ไอ้กันแอบซื้อแอบตุนจากตลาดมืดเพื่อจุดประสงค์ืี่ที่สำคัญคือวางแผนเปลี่ยนระบบเงินเป็น Gold Back Currency หลังจากที่ดอลล่าล้มแล้ว ซื้อเข้าที่ 1,300 กว่า เป็นผม $2,000 ยังให้เลยเอากระดาษไปแลกกับทอง อยากได้เท่าไหร่บอกมาเดี๋ยวปั๊มให้ แต่ให้เว่อร์ไปเดี่ยวไก่ตื่น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมทองปี 2008 ถึงทำ New High ตลอด

2.เอเซียเราเป็นนักออมเงิน และซื้อทองตัวยง โดยเฉพาะการเพิ่มของประชากร ในและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งจีนและอินเดียในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งการฟื้นตัวของเอเซียหลังกินต้มยำกุ้งกันเสร็จ แค่เรากันเองในเวบนี้ตุนไปทำไหร่แล้ว Demand มหาศาลครับ

3.พวก Central Bank ทั่วโลกลดปริมาณการเททองออก ปีละ 10% หลังจากที่ร่วมด้วยช่วยไอ้กันกับอังกฤษทุบมานาน อ่านแล้วรักษาระบบเงินกระดาษ หรือ Paper Currency ต่อไปไม่ไหวแน่ ทองก็ขายไปแล้วเพื่อทุบราคาตลาดไปมากแล้ว ถ้าเจ๊งขึ้นมา หมดตูดเหมือนกัน ต้องชะลอ เกิด Demand ตรงส่วนนี้อีก

4.พวกกองทุนต่างๆ หันเข้ามาหาทองแล้วครับ เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าไปไม่ไหว หุ้นก็ไม่ดี เงินเฟ้อรุนแรงมาแน่ (Hyper Inflation) ไม่มีทางเลือกครับต้องซื้อทอง แม้แต่กองทุนบางแห่งของอเมริกา อายุ 70 กว่าปี ที่ไม่เคยซื้อทองแลย ก็ยังต้องมาซื้อครับ

5.การที่อเมริกาใช้วิธี Bail out หรืออุ้มกลุ่มแบงค์เกอร์ใน Wall Street ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ที่ผ่านไป 700 Billion และอาจจะรวมทั้งหมดอยู่ที่ 3 Trillion โดยวิธีปั๊มกระดาษเพิ่ม แล้วรู้ไม๊ครับว่ากระดาษตรงนี้มากแค่ไหน ตรงนี้ก็จะทำให้ดอลล่า dilute หรืออ่อนลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเค้ามีทองหรือไม่และมีอยู่เท่าไหร่กันแน่ ปริมาณเงินกระดาษตรงนี้มากกว่าเงินที่ใช้จ่ายในสงครามโลกครั้งที่ 1+2+สงครามเวียดนาม+สงครามเกาหลี+อีรัค 1+2+ทุกสงครามที่มีมาของมนุษยชาติรวมกัน เพื่อมาอุ้ม Wall Street เพราะเค้า "Too Big Too Fail" และเป็นพวกเดียวกันไงครับ จะนำไปสู่ Hyper Inflation หรือเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ตรงนี้ทำให้เกิด Demand ทองมหาศาลเพื่อมา Hedge กับเงินเฟ้อครับ

ถามว่าตอนนี้ทอง $10,000 ได้หรือยังครับ แล้วเรามาดูเรื่อง Supply กันต่อในโพสต์หน้าครับ

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปัจจัยพื้นฐานเนื้อๆของ......ทองคำ 1/2

(สภาพแวดล้อม, Demand+, Supply-) US$ 
...Vs... 
ทองคำ (Demand+, Supply-) 

ผมเคยตั้งคำถามฝากไว้ครับว่า มูลค่าของทองคำจริงๆ ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่ คำตอบก็คือ $8,000-$15,000 เหรียญต่อออนซ์ครับ (คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ) คืออย่างนี้ครับ ผมจะใช้สมการข้างบนอธิบายเรื่องปัจจัยพื้นฐานก่อน แล้วถ้ายาวเกินไปผมจะแบ่งไปในโพสต์ต่อไปครับ ง่ายๆ อย่างนี้ครับ

อย่างที่เราทราบๆ USD และทองคำจะแป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับซึ่งกันและกัน คือการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินดอลล่าจะส่งผลโดยตรงต่อราคาทอง และในทางกลับกันทองคำก็เช่นเดียวกันครับ ทีนี้เรามาดูด้านซ้ายก่อนครับคือ USD

สภาพแวดล้อม หรือความเชื่อมั่นที่มีต่อเงินดอลล่าที่กำหนดทิศทางโดย ภาวะทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การทหาร สภาพการค้า การแข่งขัน และอีกหลายๆ ปัจจัยจะเป็นตัวสะท้อนความเป็นไปของเงินดอลล่าครับ มีเครื่องมือวัดเป็น Dollar Index คือการ weight หรือการคานน้ำหนักเงินดอลล่ากับเงินสกุลหลักอื่นๆ ของโลก เช่น ปอนด์ ฟรังค์ และ เยน แต่ที่ดอลล่าเป็นสากลและเป็นที่นิยมมาหลายทศวรรษเพราะมีขบวนการและกระบวนการ ที่ทำให้เป็นอย่านั้นครับ มีการปั่นและสร้างภาพครับ

Demand หรือความเต้องการเงินดอลล่า เพราะความเป็นที่นิยมของโลก และเพื่อทำให้การซื้อขายง่ายขึ้นการค้าระหว่างประเทศจึงเอาดอลล่าเป็นหน่วย และตัวกลางในการชำระราคาครับ เช่นการนำเข้าและส่งออกสินค้าจะต้องซื้อดอลล่าเป็นตัวกลางก่อนแล้วนำไปชำระ ค่าซื้อหรือขายสินค้าอีกที แต่ถ้าเราเอาเงินไทยไปซื้อเลย เค้าไม่เอาเป็นอย่างนี้กันเกือบทั้งโลกครับ เพราะมีประเทศเล็ก ประเทศน้อยที่ระบบเงินไม่มั่นคง ก็เอาดอลล่าดีกว่าครับ
 

ดอลล่าใช้เป็นเงินสำรอง หรือเงินคงคลังของแต่ละประเทศ เปรียบได้กับทองคำ (ซึ่งไม่จริง และทำได้แค่ในอดีตเท่านั้น) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มันปั๊มออกมาไม่อัันครับ มอมเมาคนทั้งโลกด้วยดอลล่าเหมือนคนเสพยาบ้าครับ จีนนี่หนักหน่อย ญี่ปุ่น รัสเซียตามมาโดยลำดับ จะเอาเท่าไหร่ให้บอก แต่เราก็ยังใช้เป็นเงินสำรองอยู่ แบงค์ชาติครับระวังตรงนี้ อีกไม่นานเราจะล้มเพราะตรงนี้ครับ ใครมีมากก็ล้มมาก

Supply ของเงินดอลล่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐเมริกามีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเท่าไหร่ ทำลายไปเท่าไหร่ ดูดออกไปเท่าไหร่ ตรวจสอบได้แค่ไหน คำตอบคือตรวจสอบไม่ได้ครับ เพราะเป็นเรื่องของ FED ซึ่งหลอกต้มคนทั้งโลกมาตั้งแต่ปี 1913 Fed ไม่มีการ audit ครับ มีเพียงแต่การตรวจสอบกันภายในกลุ่มนายแบงค์เอง ถามว่าทำถึงยอมและเป็นอย่างนั้น เพราะเค้าซื้อไปหมดแล้วทุกอย่างครับหลายสิบปีมาแล้ว เกือบทั้งสภาครองเกรส และตัวประธานาธิบดีเอง คนอเมริกันเองและทั้งโลกโดนต้มจนเปื่อยแล้วเปื่อยอีก เรื่องนี้คุยกันยาวครับ หลักฐานเต็มไปหมด 

แต่ใครจะเชื่อครับว่าประเทศมหาอำนาจ ที่เรียกตัวเองร่ำรวยที่สุดมีแต่ตัวเปล่าครับ เสื้อผ้าจะไม่มีใส่อยู่แล้ว ชุดที่ใส่อยู่ทุกวันนี้ เสื้อเป็นของจีน กางเกงเป็นของรัสเซีย ชั้นในเป็นของญี่ปุ่น รองเท้าเอาของเราไป และอีกหลายประเทศ เพื่ออะไรครับ ไปเอากระดาษเค้ามา แล้วเรียกว่าเงิน "ดอลล่า" หลายคนถามว่าแล้วทองของเค้าที่มีล่ะที่ Fort Knox ไง ผมถามว่าใครเคยเห็นบ้าง ไม่มีการตรวจสอบมาหลายสิบปีแล้วหรือตั้งแต่ทศวรรษที่ 50 เป็นต้นมา มีแต่ทหารยืนหลับยามเฝ้าอยู่อย่างนั้นแหละ และโปรดทราบไว้เลยว่าเคยมีครับ มากด้วยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ถูกจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้กับ FED ทั้งหมด หลังจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำปี 1929-1930 ครับ ที่ราคาทอง 35$ ต่อออนซ์ครับ แล้วหลังจากนั้น 2-3 ปี ทองก็พุ่งขึ้นเป็น $280/ออนซ์ เป็นการใช้ข้อมูลภายในทั้งหมดที่ FED เข้าไปยึด Fort Knox

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมอเมริกาจีงต้องหาเหตุ เพื่อออกนอกระบบ Gold Standard ไงครับ เพราะหมดตูดนี่เอง แล้ว FED ก็เทคโอเวอร์อเมริกาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เค้าถึงต้องสถาปนาระบบเงินกระดาษและรักษามันไว้ให้ดีที่สุดด้วยกลวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เช่นใครไม่รับดอลล่า "ตาย" เช่นอิรัค และต่อไปก็คืออิหร่าน แต่ตอนนี้มาเจอตอครับคือกลุ่ม BRIC+ และอีกวิธีคือการทุบราคาทองคำนั่นเองครับ

หลังจาก FED เทคโอเวอร์อเมริกาแล้ว และปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกยังไม่หยุด เค้าก็พาโลกเข้าสู่สงครามครับ เพื่อล้มกระดานแล้วเริ่มกันใหม่ ใครชนะเป็นมหาอำนาจและได้เงิน ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน พอเห็นภาพเค้าลางของ สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือยังครับ ไม่นานครับ ถ้าคุณยังนั่งอ่านและพิมพ์ตอบโต้กับผมได้ตอนนี้ คุณจะได้เห็นครับ ผมรู้เวลาครับ ผมจึงเลือกกลับมาเมืองไทยเพื่ออยู่ใกล้พ่อแม่ เพื่อเตรียมความพร้อมไปด้วย อย่ารู้อะไรมากไปกว่านี้เลยครับ เพราะมันจะมาเพื่อจะผ่านไปครับ "It will come to pass"

อยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาก็จะปลอดภัย หรือไม่ก็ฟึบเดียวไปเลย ไม่ต้องรู้ไม่ต้องกังวลอะไรดีกว่า......อ่านต่อไป อย่าคิดมากครับ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Gold Update.......This Way

ทองคำแท่ง $953.50
ไหลขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะดุดบ้างตามกระแสข่าว
บ้านเรา 15,300:15,200


Dollar Index (USD) 78.61
ไหลลงอย่างต่อเนื่อง อันตรายมาก ถ้า 70 เมื่อไหร่ เงินดอลล่า....จบ ไหลจาก 89 เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ซึ่งดูแล้วหมดสภาพมาก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ประเด็น...
  1. จีนพยามหนีออกจากกับดักเงินดอลล่า โดยการไล่ซื้อทองไม่อั้น แต่หาไม่ค่อยได้ เลยไปจับทองแดงก่อน ตอนนี้จีนกลายเป็น King Copper ไปแล้วววววว คือทำอะไรก็ได้ที่จะเทดอลล่าออกให้มากที่สุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากดดอลล่าเสื่อมค่า หรือล้ม
  2. จีนพยามผลักดันเงินหยวน ให้เป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ แต่ IMF ไม่ใส่ใจ ไม่ยอมยื่นเรื่องให้เข้าไปพิจารณาใน G8 จีนเซ็งมาก เลยคำรามไปทั่ว ดอลล่ารูดอีก
  3. ตัวเลขเศรษฐกิจอเมกา เน่าทุกตัว แต่ก็พยามปั่น DJI ให้ขึ้น เอาไว้ตบตาคนที่ไม่รู้เรื่อง ดูหุ้นอย่างเดียว แล้วบอกว่าฟื้นแล้วววววว
  4. คนว่างงาน U6 น่าจะเกือบ 20 % แล้ว
  5. ทหารเคลื่อนไหวเยอะมาก เพื่อรองรับอะไรบางอย่าง
  6. กระแสข่าวเรื่องการปิดและยกเครื่องสถาบันการเงินทั้งหมด หนาหูขึ้น มีความเคลื่อนไหวหนักขึ้น เช่นการให้สถานทูตเมกาในต่างประเทศ สำรองเงินสกุลท้องถิ่นให้ใช้ได้เป็นปี รัฐบาลเริ่มกักตุนอาหารบางชนิดในปริมาณที่มากผิดปกติ
  7. นักวิเคราะห์หลายคนมั่นใจ เดือน 9-10 ปีนี้ มีอะไรหนักมากกำลังมา อเมริกาจะไม่มีวันเหมือนเดิม

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ใครฆ่า Michael Jackson?

I dedicated this blog to MJ........Sleep in peace, You are free nowwwwww.

VDO clip สุดท้ายที่เราเห็น MJ ซ้อมเต้นเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตที่ลอนดอน เป็นภาพข่าวจาก CNN คือเพลง "They don't really care about us" บอกอะไรเราบางอย่าง ผมมี Music Video ของเพลงนี้ 2 Version ครับ

1. Brazil Version ดูปรกติ แต่หลังจากที่ออกชุดนี้มา MJ โดนเละ ร่วงอย่างเดียว


2. Prison Version อันนี้ MJ ใส่เต็มที่ เปิดหมด ลองอ่านเนื้อเพลงอย่างละเอียดที่สุด แล้วจะเข้าใจทุกอย่าง หลังจากอ่านเนื้อเพลงแล้ว ลองหาคำตอบให้กับคำถามด้านล่าง


Skin head, dead head
Everybody gone bad
Situation, aggravation
Everybody allegation
In the suite, on the news
Everybody dog food
Bang bang, shot dead
Everybody's gone mad

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

Beat me, hate me
You can never break me
Will me, thrill me
You can never kill me
Jew me, sue me
Everybody do me
Kick me, kick me
Don't you black or white me

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

Tell me what has become of my life
I have a wife and two children who love me
I am the victim of police brutality, now
I'm tired of bein' the victim of hate
You're rapin' me of my pride
Oh, for God's sake
I look to heaven to fulfill it's prophecy...
Set me free

Skin head, dead head
Everybody gone bad
Trepidation, speculation
Everybody allegation
In the suite, on the news
Everybody dog food
Black man, black male
Throw your brother in jail

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

Tell me what has become of my rights
Am I invisible because you ignore me?
Your proclamation promised me free liberty, now
I'm tired of bein' the victim of shame
They're throwing me in a class with a bad name
I can't believe this is the land from which I came
You know I do really hate to say it
The government don't wanna see
But if Roosevelt was livin'
He wouldn't let this be, no, no

Skin head, dead head
Everybody gone bad
Situation, speculation
Everybody litigation
Beat me, bash me
You can never trash me
Hit me, kick me
You can never get me

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

Some things in life they just don't wanna see
But if Martin Luther was livin'
He wouldn't let this be

Skin head, dead head
Everybody gone bad
Situation, segregation
Everybody allegation
In the suite, on the news
Everybody dog food
Kick me, strike me
Don't you wrong or right me

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

All I wanna say is that
They don't really care about us
All I wanna say is that
They don't really care about us

หลังจากอ่านเนื้อเพลงแล้ว ลองหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้
  1. They หมายถึงใคร?
  2. Prisoners ทั้งหมดหมายถึงใคร?
  3. ภาพไม้กางเขนที่กำลังถูกไฟเผา 2.02 อยู่หลังผู้มีอำนาจ? และ
  4. คนเผาที่ใส่ชุดขาวคลุมหน้าในตอนกลางๆ 2:04 เป็นใคร? แล้วเผาทำไม?
  5. Black Man, Black Male 1:58 มันคือ Black Mail......MJ ถูกใคร Black Mail?
  6. โทรทัศน์ทั้งหมดอยู่ในกรงขังหมายถึงอะไร ขังใคร? หรือขังคนที่กำลังดูโทรทัศน์?
  7. MJ กำลังต่อต้านใครหรือต่อต้านอะไร?
คำถามทั้งหมดนี้ จะไม่มีคำตอบให้ เพราะคนที่รู้คำตอบ
" โดนเก็บไปที่ละคนสองคนครับ "

หลังจากได้คำตอบทั้งหมดแล้ว ลองกลับไปดูการเสียชีวิตของ John Lennon, Jimmy Hendrix and TuPac โดยเฉพาะ John Lennon กับเพลง "Imagine" ทั้ง MJ และ John Lennon และอีกหลายคน กำลังทำสิ่งเดียวกัน ในระนาบเดียวกัน แล้วต้องจบชีวิตลงเหมือนๆกัน และคนที่ลงมือก็อาจจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันนั่นเองครับ

Swine Flu ทำมาเพื่ออะไร?

"Trojan Horse Operation"
ปฏิบัติการม้าไม้โทรจัน

Swine Flu ไข้หวัดหมู หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ Swine Flu เคยเกิดการระบาด 2 ครั้งในศตวรรษที่ 20ครั้งแรกในปี 1918-1919 ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 5 แสนคน ในอเมริกา และ 20 ล้านคนจากทั่วโลกเสียชีวิต

ครั้งที่ 2 ในปี 1976 ในครั้งนี้มีโฆษณาช่วนเชื่่อ การรณรงค์ และระดมฉีดวัคซีน (X53A) ทั่วประเทศ และมีผู้เซ็นยินยอมเพื่อเข้ารับการฉีดทั้งหมด 46 ล้านคน ผลที่ตามมาคือเกิดผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีนตัวนี้อย่างกว้างขวาง ตัวอย่างคือ มีกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบประสาทบกพร่อง 4,000 คน และ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เสียชีวิต หรือเป็น อัมพาต ตลอดชีวิต และมีบางคน เสียชีวิต ภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้่เป็นผลของวัคซีนที่เข้าไปกดภูมิคุ้มกันหรือ Immune System และไปทำลายระบบประสาท Neurological System

กล่าวคือวัคซีน เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในระยะยาว ซึ่งเมื่อเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายแล้วร่างกายไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคเหล่านั้นได้เหมือนภาวะปกติ จึงทำให้เกิดเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วหรือ Underlying disease ยิ่งจะทำให้โรคเดิมนั้นมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น จึงมีอัตราการตายสูงขึ้นมาก ในปีนั้นผลของวัคซีนยังทำให้เกิดโรคชนิดใหม่ขึ้นคือ GBS หรือ Guillain-Barre Syndrome ทำให้ผู้ป่วยมีการชาตามประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า แขน ขา ปาก หายใจไม่ออก ทำให้เป็นอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด (ซึ่งภายหลังพบว่า สารปรอท (mercury) ที่ใช้ผสมในวัคซีนทั่วๆ ไปมีผลทำให้ระบบประสาทของร่างกายถูกทำลาย)

จากเหตุการดังกล่าว ทำให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลของผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนรวมเป็นเงินถึง $3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กรณีตัวอย่างของครอบครัวนึงคือ นางจูลี่ โรเบิร์ต เป็นแม่บ้าน เป็นนักกีฬา มีสุขภาพที่สมบูรณ์มาก โดยการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเธอจึงได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ในเดือนพฤษจิกายน 1976 สองสัปดาห์ต่อมา เธอมีอาการชาที่ขาทั้ง 2 ข้าง และอีกหกสัปดาห์ต่อมาเธอมีการหายใจไม่ออก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเจาะท่อช่วยหายใจที่คอ และเธอยังมีอาการชาที่แขนขวา และปาก จะไม่สามารถทีจะพูด ยิ้ม หรือหยิบจับสิ่งของได้ตามปกติ เธอต้องเข้ารับการรักษา และฟื้นฟูตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล 12 ล้านเหรียญสหรัฐ

ดังนั้นการระบาดครั้งนี้จึงไม่ใช่ของใหม่ มันคือ Swine Flu หรือไข้หวัดหมูที่เคยระบาดในอดีต แต่ถูกบิดเบือนเพื่อไม่ให้เรากลับไปดูการระบาด และวิธีการในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมีการระบาดใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือน กันยายน-พฤศจิกายน ของทุกปี ในช่วงเปลี่ยนฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ซึ่งจะมีการระบาดของไข้หวัดเป็นประจำอยู่แล้ว อย่าตื่นตระหนกกับการโฆษณาชวนเชื่อของพวกบริษัทยาที่ทำเพื่อหาผลประโยชน์จากความไม่รู้ของเราเลย เค้าสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คนหลงเชื่อและยอมทำตามทุกอย่างที่พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของมนุษย์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นอกจากการทำให้สิ่งที่พวกเขาต้องการสำเร็จ

เมื่อประมาณเดือนต้นปีนี้ (ประมาณ มค. –มีค.)มีข่าวว่า บริษัท Baxter ที่โรงงานผลิตวัคซีนในประเทศออสเตรีย (Austria) ได้ผลิตวัคซีนไข้หวัด (Flu Vaccine) ที่มีส่วนผสมของไวรัสที่มีชีวิต ที่พร้อมที่จะทำให้เกิดอาการถึง 2ชนิดคือ ไวรัสไข้หวัดในคน (human H3N2) และ ไวรัสไข้หวัดนก (avian H5N1) โดยไม่มีป้ายฉลากเตือนหรือบอกถึงการผสมไวรัสที่มีชีวิต 2 ชนิดนี้ลงไปที่ฉลากข้างกล่อง หรือข้างขวดบรรจุวัคซีนนี้เลย แล้วได้ส่งวัคซีนไปยัง 18 ประเทศทั่วโลก (รายละเอียดจาก link ข้างล่าง) และประมาณเดือน เมย. ก็เริ่มมีข่าวการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ใน18 ประเทศโดยเริ่มแรกที่ประเทศเมกซิโก และในขณะนี้ก็ได้ระบาดไปเกือบทั่วโลกแล้ว

เราคนไทยควรทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน รวมทั้งศึกษาถึงผลข้างเคียงของวัคซีนที่จะผลิตขึ้นนี้ อย่าตกเป็นเหยื่อ ศึกษาประวัติศาสตร์ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว

รัฐบาลไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนมาแล้วจำนวน 2 ล้านชุด และกำลังตั้งโรงงานผลิตวัคซีนชนิดนี้โดยได้รับเงิน $70 ล้านเหรียญ จากการสนับสนุนขององค์การอนามัยโรค เพื่อผลิตวัคซีนชนิดนี้ให้ได้ 60 ล้านชุุดต่อปี ท่านลองคิดดูว่ามีอะไรอยู่บื้องหลังสิ่งเหล่านี้หรือไม่????

ขอเน้นย้ำให้เราทั้งหลายศึกษาเรื่องราวในอดีต แล้วอย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก อย่าให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของการทำลายมนุษย์ของภูมิภาค เราจะต้องรู้ก่อน หรือรู้เท่าทัน

เป็นสิทธิส่วนบุคคุลในการตัดสินใจที่จะเข้ารับวัคซีนหรือไม่ และมีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนเข้ารับวัคซีน เช่น มีการทดสอบวัคซีนในคนหรือไม่ แล้วผลคืออะไร แล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง มีการจัดทำเป็นเอกสารหรือไม่ ถ้าเกิดโรคแทรกซ้อนแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบ แล้วเราจะเรียกร้องค่าเสียหายได้แค่ไหน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ท่านอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงมาก โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท

วัคซีนที่ใช้ในปี 1976 หรือ X53A ซึ่งถูกฉีดเข้าไป ส่งผลคือการไปทำลายภูมิคุ้มกันที่เรามีอยู่แล้วตามธรรมชาติ หรือ Antigen เปรียบเสมือนการเปิดทาง ให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าโจมตีได้ง่ายขี้น หากมีอาการป่วย จะมีอาการป่วยเรื้อรัง หรือนานกว่าปรกติ และในวัคซีนยังมี Mercury หรือสารปรอท ที่ใช้ในการรักษาสภาพวัคซีนก่อนจะนำไปฉีด ซึ่งไม่มีการบ่งชี้ว่าปลอดภัยอย่างแน่นอนหรือไม่



วีดีโอลิงค์ที่เกี่ยวข้อง...
1.กรณีตัวอย่างของ Judy Robert




2.แผนที่การระบาด
http://www.msnbc.msn.com/id/30435064

3.Depopulation Agenda : David Ike



4.Pandemic Level 6 : Code red alert "Terorist Attack"

5. Flu Vaccine Contamination spread to 18 countries
http://www.centurean2.wordpress.com/2009/04/28/live-avian-flu-virus-placed-in-baxter-vaccine-material-sent-to-18-countries/

สงครามทองคำ......." The Gold War ".......???

ข้อมูลและประเด็นต่อไปนี้อาจจะเป็น ข้อมูลเชิงลึก(ลับ) และ อาจจะยากต่อการเข้าใจ ขอให้ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มแติมเพื่อความสมบูรณ์ เพื่อแก้ใข หรือหักล้างได้เต็มที่ เชิญระดมสมองและข้อมูลเข้ามาเพื่อช่วยกันพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ.......

โพสต์นี้จะเน้นไปทางปัจจัยพื้นฐานของทอง มากกว่าการวิเคราะห์กราฟเทคนิค แต่ก็ยินดีและจะสมบูรณ์มากขึ้นถ้ามีกราฟวิเคราะห์ดีๆเข้ามาด้วย กราฟจะเป็นตัวบอกจังหวะ สัญญาณและเวลาของการเข้าออก แต่ไม่ใช่การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ ส่วนตัวผมให้น้ำหนัก 70:30 คือปัจจัยพื้น 70% และ การดูกราฟประกอบ 30% แต่เท่าที่เห็นในบอร์ดนี้อาศัยกราฟกันเป็นส่วนใหญ่ ซื่งผมคิดว่า"เสี่ยง" ครับ

การลงทุนในฟิวเจอร์ก็เหมือนกับการพนันดีๆ นี่เองครับ และยิ่งมีกรอบของเวลาเข้ามากำหนด ถ้าเข้าออกผิดจังหวะมีโอกาสติดและขาดทุนสูงมาก แต่คนส่วนมากลงทุนจากการดูกราฟ ซึ่งกราฟคือการเก็บและวิเคราะห์สถิติการซื้อขายที่ผ่านมา หรือ "การอ่านอารมณ์ของตลาด" นั่นเอง แต่สำหรับทองคำซึ่งต่างกับหุ้นโดยสิ้นเชิง เพราะสินค้าตัวเดียวแต่ซื้อขายกันในระดับโลก ในแต่ละกลุ่มของตลาดก็มีจุดประสงค์ของดัวเองเช่นการออมเงิน เครื่องประดับ การป้องกันความเสี่ยง การรักษาอัตราเงินคงคลัง โดยเฉพาะการที่ทองเป็นทุนสำรองของประเทศ จึงทำให้มีตัวละครมากมายมหาศาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งสีขาว สีเทา และสีดำ (ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของหลักการ เหตุผลและที่มาของ โกลด์ฟิวเจอร์ ว่ามีขึ้นมาเพื่ออะไรนอกเหนือจากกการซื้อขายเก็งกำไร)

อย่างที่เราทราบกันคือราคาทองคำในตลาดหลักๆ กำหนดโดยสกุลเงินดอลล่า ก็คือสภาพแวดล้อมของเงินดอลล่าจะเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับต่อ commodity ต่าง ๆ เช่น น้ำมัน ทองคำ เงิน(Silver) ทองแดงและอื่นๆ

Demand & Supply  หรืออุปสงค์และอุปทานก็เป็นอีกปัยจัยหนึ่งของราคา แต่สำหรับสำหรับทองคำ Demand&Supply มีผลแต่ไม่มากเท่ากับการสร้าง ทุบ ความพยายามบิดเบือน และควบคุมกลไกราคาทองคำตลาดโลก สิ่งนี้คือความจริงและยังคงทำงานอย่างต่อเนี่องมาจนทุกวันนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหาเหตุผลของราคา ณ เวลานั้นๆ ไม่ได้ เราก็จะโยนไปให้เป็นเรื่องของ D&S หรือกลไกตลาดเสมอ "ซึ่งผิด" แล้วอะไรเป็นตัวกำหนด D&S ซึ่งก็คือสื่อต่างๆ แต่ความจริงที่เราต้องรู้คือ "90% ของสื่อทั้งในอเมริกาและอังกฤษ เช่น Fox, CNN, Reuters, The Sun, MSNBC, Google, Bloomberg, ABC, และเกือบทั้งหมดอยู่ในมือของ 5 กลุ่มบริษัทเท่านั้น" ฉะนั้นข่าวและข้อมูลต่างๆ ที่ออกมา คือสิ่งที่เค้าอยากให้เรารู้ 50% เป็นเนื้อข่าวส่วนที่เหลือคือการชี้นำ หรือ Propaganda เพื่อนำไปสู่ Agenda หรือวาระซ้อนเร้นต่างๆ ครับ

สิ่งที่ผมเห็นบ้านเราไม่มีสำนักข่าวระดับประเทศ ข้อมูลที่เรามีโดยส่วนใหญ่ถูกนำมาจากต่างประเทศ จึงเป็นการชี้นำมากกว่าข้อมูลหรือข่าวสารที่จะเอาใช้ได้จริง ทั้งในภาครัฐและเอกชน โพสนี้จึงขอให้พวกเราใช้วิจารณญาณมากๆ ในการสังเคราะห์ข้อมูลในการลงทุนครับ

โพสต์ต่อไปนี้จะเป็นจิ๊กซอแต่ละตัวของเหตุการณ์ ซึ่งใครต่อภาพได้ดีกว่าก็จะเห็นภาพที่กว้างและชัดกว่า และมีข้อมูลมากกว่าในการลงทุนครับ

บางที " The Truth " หรือความเป็นจริงอีกหลายๆอย่างของโลกใบนี้มันลึกและมันหนักครับกว่าที่เราจะจินตนาการไปถึง หากคุณยังอยากใช้ชีวิตในความฝันหรือแบบ "Fantasy" ต่อไป คุณอาจจะรู้สึกอัดอัดครับหรือแทบจะอ่านต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณพร้อมเราก็ไปกันต่อในข้อมูลที่ลึกลงไปอีกครับ.......ขอต้อนรับเข้าสู่ "The Gold War" หรือ "สงครามทองคำ" และสุดท้ายขอให้ทุกท่านสนุกกับการลงทุนในทองคำครับ

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นาฬิกาหนี้และข้อมูลทางตัวเลขของสหรัฐ

ลิ๊งค์นี้เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญทุกตัวของอเมริกา ซึ่งบอกสถานะทางเศรษฐกิจของเค้าได้เกือบทั้งหมดในหน้าเดียว จะเห็นว่า อเมริกาคงเดินต่อไปด้วยความยากลำบากครับ 



Fed ยังคงซ่อนหนี้เน่า (Toxic Assets) ไว้ในระบบธนาคาร และให้ธนาคารบิดเบือนการลงบัญชีเพื่อชลอการล้มละลายของธนาคารจำนวนมหาศาล เพราะถ้าเข้าไปซื้อหนี้เน่าออกมา จะต้องซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน หรือเรียกว่าราคา Mark to Market ธนาคารเหล่านี้ก็จะต้องลงบัญชีตามจริงทันที ก็จะแสดงภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง บางแห่งจะต้องล้มละลายหรือจะต้องเพิ่มทุนทันที ซึ่งในภาวะอย่างนี้การเพิ่มทุนคงเป็นไปได้ยาก ก็ต้องล้มละลายอยู่ดี แต่การที่รัฐพยายามสร้างภาพของการฟื้นตัว ก็ปล่อยให้ล้มไม่ได้อีก ก็เลยตกลงกันว่า "ซ่อนไว้ก่อนก็แล้วกัน"