FDIC (Federal Deposit Insurance Corporation)
หรือ สถาบันประกันเงินฝากก็อาจจะต้องประกาศล้มละลายในที่สุด เรามาดูกันว่า Fed จะเข้าไปอุ้มหรือไม่ ถ้าอุ้มจะต้องใส่เงินเข้าไปอีกมหาศาล เพราะมีธนาคารที่รอล้มละลายอยู่อีก 300-1,000 แห่งทั่วประเทศ จากที่ล้มไปแล้ว 76 แห่งถึง ณ วันนี้ของปีนี้
วันที่ 24 Aug, 2009 FDIC จะมีการเปิดเผยงบดุลไตรมาส 2 ของกองทุน และเป็นที่ทราบกันในวงในว่า เงินสำรองของกองทุนเหลือเพียง 2 Billion หรืออาจจะหมดลงแล้ว จากการที่ต้องเข้าไปค้ำประกันเงินฝากของธนาคารที่ล้มละลายไป เพราะฉะนั้น ข่าวจะออกอย่างเป็นทางการวันที่ 25 Aug นี้ และ มีความเป็นไปได้ที่ วันที่ 26 Aug อาจจะเกิดการแห่ถอนเงินของผู้ฝากจากทั่วประเทศ และทำให้ระบบธนาคารต้องเสี่ยงกับการล้มลงในที่สุดหากแก้สถานการณ์ไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข่าวลือออกมาเป็นระยะ เรื่องการทยอยปิดธนาคาร เพื่อทำการปฏิรูปครั้งใหญ่ เริ่มมีหลักฐานเป็นเอกสารคือ Executive Order สั่งการออกมาจากรัฐต่างๆ เรื่องการเปิดปิดการให้บริการทั้งสาขาของธนาคาร และดู้เอทีเอ็ม
Fed ซ่อนหนี้เน่าไว้ในระบบ และให้ธนาคารลงบัญชีเท็จเพื่อชลอการล้มละลายของธนาคารจำนวนมหาศาล เพราะถ้าเข้าไปซื้อหนี้เน่าออกมา จะต้องซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน หรือ เรียกว่าราคา Mark to Market ธนาคารเหล่านี้ก็จะต้องลงบัญชีตามจริงทันที ก็จะแสดงภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง บางแห่งจะต้องล้มละลายหรือจะต้องเพิ่มทุนทันที ซึ่งในภาวะอย่างนี้การเพิ่มทุนคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ก็ล้มละลายอยู่ดี แต่การที่รัฐพยายามสร้างภาพของการฟื้นตัว ก็ปล่อยให้ล้มไม่ได้อีก ก็เลยตกลงกันว่า "ซ่อนไว้ก่อนก็แล้วกัน"
วันที่ 24 Aug, 2009 FDIC จะมีการเปิดเผยงบดุลไตรมาส 2 ของกองทุน และเป็นที่ทราบกันในวงในว่า เงินสำรองของกองทุนเหลือเพียง 2 Billion หรืออาจจะหมดลงแล้ว จากการที่ต้องเข้าไปค้ำประกันเงินฝากของธนาคารที่ล้มละลายไป เพราะฉะนั้น ข่าวจะออกอย่างเป็นทางการวันที่ 25 Aug นี้ และ มีความเป็นไปได้ที่ วันที่ 26 Aug อาจจะเกิดการแห่ถอนเงินของผู้ฝากจากทั่วประเทศ และทำให้ระบบธนาคารต้องเสี่ยงกับการล้มลงในที่สุดหากแก้สถานการณ์ไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข่าวลือออกมาเป็นระยะ เรื่องการทยอยปิดธนาคาร เพื่อทำการปฏิรูปครั้งใหญ่ เริ่มมีหลักฐานเป็นเอกสารคือ Executive Order สั่งการออกมาจากรัฐต่างๆ เรื่องการเปิดปิดการให้บริการทั้งสาขาของธนาคาร และดู้เอทีเอ็ม
ตัวเลขผลประกอบการเงินกองทุน
Fed ซ่อนหนี้เน่าไว้ในระบบ และให้ธนาคารลงบัญชีเท็จเพื่อชลอการล้มละลายของธนาคารจำนวนมหาศาล เพราะถ้าเข้าไปซื้อหนี้เน่าออกมา จะต้องซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน หรือ เรียกว่าราคา Mark to Market ธนาคารเหล่านี้ก็จะต้องลงบัญชีตามจริงทันที ก็จะแสดงภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง บางแห่งจะต้องล้มละลายหรือจะต้องเพิ่มทุนทันที ซึ่งในภาวะอย่างนี้การเพิ่มทุนคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ก็ล้มละลายอยู่ดี แต่การที่รัฐพยายามสร้างภาพของการฟื้นตัว ก็ปล่อยให้ล้มไม่ได้อีก ก็เลยตกลงกันว่า "ซ่อนไว้ก่อนก็แล้วกัน"
ยังมีหลายประเด็นสำคัญๆ ครับ ประเด็นแรกสำหรับใครที่ยังไม่เคย หรือเพิ่งจะเข้ามาอ่านโพสต์นี้ ผมอยากบอกให้รู้ว่า หลังจากที่อ่านโพสต์นี้แล้ว คุณจะต้องกลับไปอ่านตั้งแต่หน้าแรกครับ เพราะทุกเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเหมือนจิ๊กซอแต่ละตัวที่ต้องเอามาเรียงร้อยและต่อกันครับ ทำไมหรือเพื่ออะไรเหรอครับ...... "เพื่อตัวคุณเองครับ"........ ถ้าคุณกำลังอยู่ระหว่างการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ หรือทองคำแท่ง คุณกำลังอยู่ในใจกลางของสงครามครับ "The Gold War" หรือ"สงครามทองคำ"ครับ ในทางลึกมันคือ "สงครามระหว่างความดีและความชั่ว" ครับ
ในโพสต์นี้จะไม่มีคำว่า Hi เท่าไหร่ Low เท่าไหร่ สามเหลี่ยมทิ่มตรงนั้น ทิ่มตรงนี้ แล้วเอ้า.......เอาไปแทง........ แล้วมีในวงเล็บว่า (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ผู้วิเคราะห์ไม่มีส่วนร่วมรับผิดชอบใดๆ ในการนำข้อมูลไปใช้) ก็คือ "เดาครับแล้วจะไม่รับผิดชอบด้วย" แต่ถามว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมันอาจจะทำลายคนอื่นครับ เงินที่เค้าเก็บออมมาอาจจะตลอดทั้งชีวิต แต่คนส่วนใหญ่ก็ "ไปแทง" ตามนั้น สิ่งที่เค้าวิเคราะห์ ถ้าอยากจะทำต้องระวังสิ่งที่เค้าซ่อนไว้ และทำด้วยความรับผิดชอบครับ ระวังการไปเอาสิ่งที่ถูกเค้าหลอกมาบอกคนอื่นอีกที โดยเฉพาะการไปเอา Quote ข่าวจากสำนักข่าวตะวันตก เช่น Reuters, CNN, The Sun, Bloomberg อะไรพวกนี้ต้องระวังครับ ฟังได้แต่อย่าเชื่อทั้งหมด ครึ่งนึงคือความจริงที่เรียกว่าข่าว แต่อีกครึ่งนึงเป็น Propaganda หรือการชี้นำครับ
ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือปี 1900 ต้นๆ สื่อหลัก 12 บริษัทในอเมริกา ที่ครอบคลุม ทั้ง วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ถูกกว้านซื้อโดย นายธนาคารชื่อ JP Morgan ครับ(ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มการเงินจากอังกฤษและยุโรป) และได้รับการต่อต้านจากรัฐบาลเหมือนที่เราเคยทำไงครับ แต่สุดท้ายรัฐบาลชนะครับ และพยายามริดรอนกำลังของเค้าด้วยกฏหมายครับ เค้าเปลี่ยนแผนครับ เค้าซื้อสื่อไม่ได้ งั้นซื้อรัฐบาลเลยดีกว่า และเค้าทำสำเร็จครับ ในปี 1913 แล้วในช่วงคริสต์มาสของปีนั้นเค้าก็ยัดเยียด 2 สิ่งให้กับประเทศชาติและประชาชนครับ คือ FED (Federal Reserve) และ CIA (Central Intelligent Agency) หลังจากนั้นก็เข้ายึดครอง 90% ของสื่่อในอเมริกา ด้วยระบบเครดิต การเงิน การธนาคาร และ Central Bank หรือธนาคารกลาง ปัจจุบัน สื่อ 12 บริษัทนี้ก็ได้แตกกิ่งก้านสาขาออกไป กลายเป็นสื่อขนาดกลางและขนาดใหญ่ อย่างน้อย 12,000 บริษัท ครอบคลุมทั่วพื้นภิภพครับ
'Truth" หรือ "ความจริง" คือสิ่งที่คุณต้องหาครับ Wiki ชื่อองค์กรเหล่านั้นที่คุณสงสัย ใครเป็นเจ้าของ ใครถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นไขว้ไปหรือมาจากที่ไหนบ้าง ถ้าเป็นบริษัทให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็น นอมีนี่ ขุดต่อครับ ลากมันออกมาแล้วถามหาความจริง
ประเด็นที่ 2 ฮ่องกง(จีน) Call in หรือเรียกคืนทองคำที่ฝากอยู่ที่อังกฤษ กลับเข้าประเทศแล้วบอกว่าเค้าสร้าง Vault หรือสถานที่เก็บที่เพิ่งสร้างเสร็จและมีความปลอดภัยสูงสุด ใกล้ๆ สนามบินของเค้าครับ เรามาช่วยกันวิเคราะห์ครับว่าเกิดอะไรขึ้น
สำหรับผม "นิทาน" เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จีนอ้างว่าเค้าก็มีที่เก็บใหม่แล้วนะ แล้วความปลอดภัยก็สูงกว่าด้วย อืมมมมมม มีเหตุผล แต่จีนเกิดความไม่มั่นใจหรือเปล่า กลัวอังกฤษอมทองหรือเปล่า จีนไม่เอาแค่รายงานที่เป็นกระดาษแล้ว เอาของจริงคืน มันก็สอดรับกับข่าวอื่นๆ ของจีนครับ แล้วทองจีนไปอยู่กับอังกฤษได้ไงล่ะ เค้ากู้ไปครับแล้วต้องคืนพร้อมดอกครับ เอาไว้เผื่อเวลามีองค์กรระหว่างประเทศมาตรวจสอบหรือ Audit ครับ อ้าวแล้วทองอังกฤษไปไหนหมดล่ะ ก็เอามาทุ่มตลาดกดราคาทองมาตั้งหลายสิบปีไง ผมว่าอาจจะมีการต่อยกันก่อน ถ้ามาบอกจีนว่า "หมกเลี่ยว" จีนจะให้เพื่อนชื่อพี่หมี แจวเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ไปทวงให้แน่นอน หนาวครับ
ทั้งเมกาทั้งอังกฤษทำเหมือนกันครับเอาทองตัวเองที่มีทุ่มตลาดมาตลอดหลายสิบปี "กดราคาทองไว้" แล้วทำไมคนอื่นยอมล่ะ "ผลตอบแทน" ไงครับ ราคาทองถูกกดมาหลายสิบปี แทบไม่มีผลตอบแทนอะไร แต่มันเป็นเงินก้นถุงของชาติครับ หลวงตาบัวถึงห้ามให้พวกนักการเมืองวิสัยทัศน์สั้นนำทองออกมาขาย ถ้าเอาไปโดนเขวี้ยงด้วยกระโถนหมากแน่แก ธนาคารชาติของแต่ละประเทศ ก็เอาทองไปให้นักเลงพวกนี้กู้ครับ ใครกล้าไม่วางใจ เจอมิกครับหรือไม่ก็เอฟ หรืออาจจะโดนแมคโดนัลครับและฟาสต์ฟู๊ดต่างๆ (อันนี้เป็นการบ้าน ไปคิดเอาเอง ถ้าลืมเฉลยทวงละกันนะ)
ที่จริงแล้วมีอีกหลายชาติที่มีความเคลื่อนไหวแบบนี้ครับ คือ Call In ทองตัวเองกลับประเทศตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว หนึ่งในนั้นคือเยอรมันครับ
ประเด็นที่ 3 จีน ซื้อ IMF Bond (SDR=Special Drawing Right) 50 Bln. อย่างเปิดเผยและเป็นทางการ ประกาศไปเลยว่าไม่ซื้อพันธบัตรของไอ้กันแล้ววววววว ที่ซื้อกับ IMF เพราะ
1.พันธบัตร IMF มีทองหนุนครับ
2.ดั๊มดอลล่าหนีตาย จ่ายด้วยดอลล่าครับ
ดูเหมือนจีนจะฉลาดและมีทางเลือก และแก้ปัญหาได้ใช่ไม๊ครับ แต่ในทางลึก(สุดใจ) เป็นเกมส์ของฝั่งไอ้ดำขาวครับ ลองไปค้นดูครับการออก SDR ตัวนี้เคยทำอยู่ช่วงนึงนานมาแล้ว อย่าลืมครับ ใครตั้ง IMF ก็เมกาอีก ต่อไป SDR ตัวนี้แหละจะมาเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ หลังจากดอลล่าล้มพร้อมปอนด์ แล้วลากกันล้มทั้งระบบเงินกระดาษ เรียกได้หลายชื่อมากเช่น World Currency, Super Currency, One World Currency เข้าทางไอ้ตัวดำตัวขาวเลย UN เป็นรัฐบาลโลก หรือ World Government, IMF เป็นธนาคารกลาง, ศาลโลกก็มีแล้ว เค้าวางไว้แบบนี้ครับ แต่ประชากรโลกดูเหมือนจะเยอะเกินไปนะ ควบคุมลำบาก แย่งกันกินใช้ ทำลายธรรมชาติ เอาไงดีน๊าาาาาา เราก็รวยซะขนาดนี้ทำไมต้องมาทนเหม็นสาปกับมนุษย์พวกนี้ (มันหมายถึงผมกับคุณครับ)
ไอ้ตัวดำขาวเค้าเลือกอนาคตให้พวกเราแล้ว แล้วมันกำลังจะมาครับ ลดด้วย Swine Flu และวัคซีน ไงครับ แล้วปิดด้วย WW III หรือ สงครามใหญ่ที่กำลังจะมา น่าจะเกือบหมดนะ มันตั้งเป้าไว้ให้ได้ซัก 90% ครับ ที่เหลือเอาไว้ทำแรงงานและจ่ายภาษี เป้าหมายแรกคือมนุษย์ที่มีความเชื่อต่างจากไอ้ดำขาวนี่ครับ และคนทีไม่มีเท่าเค้าครับ (อีกสุดยอดขององค์ความรู้นึงของมนุษย์คือหาให้เจอว่าไอ้ดำขาวนี่เชื่อในอะไร แล้วคุณจะเครียด นอนไม่หลับ สงสัย และมีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ เหมือนที่ผมเคยเป็น แล้วก็คิดว่าเออเราต้องกลับบ้านแล้วล่ะ) มันบ่มกำลังจะสุกแล้ว ใครเป็นคนขายและส่งอาวุธทำลายล้างสูง ไปในทวีปต่างๆ ทั่วโลกครับ "บางประเทศแทบไม่มีจะกิน แต่มีนุค (นิวเคลียร์ ไม่ใช่ดารานะ ) จัดฉากเรื่องเกาหลีเหนือ และอิสราเอล ถ้าตอบว่าเมกา อังกิด และมันทำงานให้ใครครับ เห็นภาพหรือยังครับ เค้าเล่นกันยังไง
ตื่นครับ "จะทะเลาะกันไปถึงไหน จะเรียกร้องไปถึงไหน ถ้าคุณเข้าใจโลก คุณจะรู้ว่าเราเป็นประชาธิปไตยที่สุดแล้วครับ ทุกคนมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าใส่ ไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่ถูกกดขี่ทางภาษีมากเกินไป มองและภูมิใจในสิ่งที่มี จะเรียกร้องมากกว่านี้ไปทำไม มีประโยชน์อะไร ถ้าไม่มีประเทศ " หลายประเทศต้องตีกันเองภายในจนสิ้นชาติก่อนแล้วถึงจะคิดกันได้ "ถึงเวลานั้นไม่ต้องมารักชาติ มันไม่มีแล้ว".....สิ่งที่คุณเห็นมันเป็นสงครามตัวแทน ใครแทนใคร แล้วใครแทนใคร แล้วใครแทนใครอีกชั้นนึง
ใครที่รอ Anti Christ "แอนไท ไครสต์" อยู่ ไม่ต้องไปหา มันอยู่นี่แล้วครับ มันพรางตัวมาตลอด แล้วมันพรางยังไงเข้า Youtube หา Antichrist Delusions ครับ ยังไม่ต้องเชื่อที่ผมบอกเล่ามาทั้งหมดนี้ Do your own research หาข้อมูลครับด้วยตัวคุณเอง หาความจริง อย่าบอกว่าไม่มีเวลา มันใกล้ตัวเกินกว่าที่คุณจะรู้สึกได้ครับ สำหรับผมจะใช้เวลากับคุณอีกซักพัก แล้วผมจะทำให้คุณ "Undeniable" หรือ "ปฏิเสธไม่ได้ครับ"
วิเคราะห์ได้น่าสนใจจริงๆ
ตอบลบพี่พูดไปก้อไม่มีใครเชื่อ
ตอบลบไม่มีใครเข้าใจหรอก
ดาเนียล 12:10
คนเป็นอันมากจะได้รับการชำระแล้วจะขาวสะอาด
และจะถูกถลุง แต่คนชั่วจะยังกระทำการชั่ว
และไม่มีคนชั่วสักคนหนึ่งจะเข้าใจ
แต่บรรดาคนที่ฉลาดจะเข้าใจ