วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อเมริกาฟื้นแล้ว (Green Shoot) จริงหรือ??? (2/2)

ต่อจากตอนที่แล้วว่าอเมริกาฟื้นหรือยัง ขอให้ดูกราฟนี้ประกอบ กราฟนี้เป็นภาวะตลาดหุ้นเมื่อครั้งเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกครั้งใหญ่เมื่่อปี 1929-1930 ถ้าเรากลับไปดูประวัติศาสตร์ว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะเห็นว่าเป็นภาพเดียวกันหมด เพราะกลุ่มคนที่ทำและล้มเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน วิธีการเดียวกัน มีจุดประสงค์เดียวกัน จำไว้นะครับว่า เมื่อเศรษฐกิจพัง ไม่ใช่ทุกคนจะต้องจนลงกันหมด แต่.... จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า หรือมองออกจะต้องไปดักตรงไหน เพราะหลักเศรษฐศาสตร์ก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีกฏเกณฑ์ตายตัวเสมอ และจะทำเงินได้มหาศาล มากกว่าเศรษฐกิจดีเสียอีก

กลับมาที่กราฟ จุดสูงสุดก่อนที่จะล่วงลงสู่จุด A ก็คือ DJI (dowjone index)ก่อนที่ตลาดจะถล่ม เมื่อเดือน Nov 08 แต่หลังจากนั้น หุ้นก็ดิ่งลงอย่างรุนแรง ลงมาที่จุด A ก็คือเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ประมาณ 6,500 หลังจากนั้น DJI ก็เริ่มฟื้นตัวจากการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ของรัฐบาล หรือ Green Shoot และพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ไม่มีปัจจัยรองรับ เพราะตัวเลขต่างๆ ติดลบหมด ที่บวกขึ้นคือหนี้เท่านั้น กลับไปที่ปี 1930 จากจุด A หุ้นก็ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เป็นเวลาติดต่อกันถึง 7 เดือน ไปจนแตะที่จุด B ทำให้เกิดภาพว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หรือถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่......

ในปี 1930 จากจุด B หุ้นดิ่งลงอีกครั้งและลงอย่างถล่มทลายต่อเนื่องกันเป็นเวลาถึง 3 ปี จาก 290 จุดหลือเพียง 40 จุด ลดลงไปถึง 86% ในที่สุดก็ต้องปิดธนาคารและลื้อระบบกันใหม่ทั้งหมด หากเป็นไปตามนี้ จากเดือนมีนาคม DJI จะพุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง อาจจะขึ้นไปถึง 11,000-12,000 จุด แล้วก็จะถล่มลงอีก หลายกระแสวิเคราะห์ว่าอาจจะประมาณ Oct-Nov 2009 แต่ในภาวะหนี้และสภาพแวดล้อม ณ ขณะนี้ ถ้า DJI ถล่มลงอีกครั้ง ครั้งนี้ จะไม่ใช่ 6,500 แล้ว อาจจะลงลึกไปถึง 3,500 หรือ 1,500 จุด อย่างเลี่ยงไม่ได้

การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นในปี 1930 เป็นเพียงการ "ล่อเข้าไปเชือด" ของกลุ่มทุนใน Wallstreet หรือเค้ารู้อยู่แล้วว่าสภาพความเป็นจริงคืออะไร จึงมีการปั่น และบิดเบือนตลาดของกลุ่มทุนของรัฐบาล เพื่อสร้างภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ล่อให้คนที่ไม่ทันเกม เข้าไปซื้อหุ้นที่ราคาต่ำเพื่อหวังกำไรจากการฟื้นตัว แต่กลายเป็นการเข้าไปถูกเชือดซ้ำ บริษัทเหล่านี้เทขายออกมาอย่างบ้าคลั่งและต่อเนื่อง และได้กำไรมหาศาลจากราคาหุ้นที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อเทขายจนหมด หุ้นก็หมดแรงขึ้นต่อ แล้วก็หักหัวลงไป 86% ต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ปี ระวังประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยอีกแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น