วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ปฏิบัติการมารครองโลก คำนำ 1

วิลเลี่ยม กายคาร์
เมืองเคลียร์ วอร์เตอร์, รัฐฟอริด้า
13 ตุลาคม 1958

หากสิ่งที่ข้าพเจ้าจะเปิดเผยต่อไปนี้ ทำให้ท่านต้องตกอกตกใจแล้วละก็ ข้าพเจ้าต้องขออภัยท่านด้วย เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าจะเปิดเผยในหนังสือเล่มนี้ อาจทำให้หลายคนคาดไม่ถึง แต่มันก็เป็นความจริง ความจริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว และเป็นความจริงที่จะตอบปัญหาหลายอย่างให้แก่เราได้

ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่ง ที่มีความสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า ทำไมมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกนี้จึงไม่อาจจะอยู่กันได้อย่างสันติสุข ทั้งๆ ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานทรัพยากรต่างๆ เอาไว้ให้ใช้อย่างอุดมสมบูรณ์แล้ว ด้วยสาเหตุนี้เอง จึงทำให้ข้าพเจ้าพยายามค้นคว้าหาคำตอบข้อสงสัยดังกล่าว มาตั้งแต่ปี คศ.1911 จวบจนกระทั่ง คศ.1950 

"ข้าพเจ้าก็พบว่า สงครามและการปฏิวัติต่างๆ ที่ฉุดคร่าชีวิตมนุษย์ และสร้างความวิบัติหายนะให้แก่มนุษย์นั้นมิได้มีสาเหตุมาจากสิ่งอื่นใด นอกจากการคบคิดกันก่อการร้ายของพวกซาตาน หรือพวกมารร้ายนั้นเอง"

ท่านยอมรับไหมว่า ปัญหาร้อยแปดพันประการที่เกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดินนี้ มีสาเหตุมาจากมนุษย์นั่นแหละที่เป็นตัวการสำคัญ ข้าพเจ้าหมายถึงมนุษย์ที่ยังมีชีวิต มีจิตวิญญาณ ซึ่งคนที่ตายไปแล้วไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว "วิญญาณ" นั่นแหละเป็นสิ่งที่ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ ร่างกายของมนุษย์จึงเป็นเพียงถุงมือที่สวมอยู่ในมือแห่งวิญญาณเท่านั้น หากคิดกันตามแนวนี้แล้ว ความปั่นป่วนวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้นมานั้น มันก็มีสาเหตุมาจากวิญญาณ ที่อยู่ในตัวมนุษย์นั่นเอง และเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อตอนที่ ลูซีเฟอร์(มารร้าย) มันเริ่มท้าทายอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว

คัมภีร์ต่างๆ บอกเราไว้แล้วว่า แผนการร้ายของพวกลูซีเฟอร์ได้มาเกิดขึ้นในสวนเอเดนบนโลกนี้ได้อย่างไร และข้าพเจ้าก็ขอยอมรับว่า กุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้ข้าพเจ้าไขไปสู่คำตอบปัญหาที่ข้าพเจ้าสงสัยอยู่นั้น ก็มาจากใจความส่วนหนึ่งของคัมภีร์ไบเบิ้ล

ดูเหมือนว่า น้อยคนนักที่จะตระหนักว่าลูซีเฟอร์เป็นวิญญาณที่ชาญฉลาดที่สุด และเป็นวิญญาณที่ไม่มีใครทำลายได้ คัมภีร์ต่างๆ บอกเราว่ามันมีอำนาจถึงขั้นที่สามารถจะล่อลวงวิญญาณต่างๆ ให้หันเหออกจากพระผู้เป็นเจ้ามาเข้าร่วมกับมันได้ มันอ้างว่าแผนการของพระผู้เป็นเจ้าในการปกครองจักรวาล เป็นแผนการที่อ่อนแอและปฏิบัติไม่ได้ เพราะแผนการของพระองค์นั้น อยู่บนพื้นฐานที่ต้องการให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ได้เรียนรู้ มีความรักและอาสาสมัครที่จะรับใช้พระองค์โดยเต็มใจ แต่อุดมการณ์ของพวกมารร้ายถือว่าอำนาจคือสิทธิ มันอ้างว่าคนที่เฉลียวฉลาดกว่า มีสิทธิที่จะปกครองคนที่ด้อยกว่า เพราะว่ามวลชนนั้น ไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตน อุดมการณ์ของพวกมารร้ายที่ว่านี้คือ "ลัทธิเบ็ดเสร็จเผด็จการ" นั่นเอง

คัมภีร์เก่าเล่าเรื่องราวถึงความเป็นมาของซาตานว่า มันได้กลายมาเป็นเจ้าชายของโลก และเป็นสาเหตุที่ทำให้บิดามารดาคนแรกของเราหันห่างออกจากพระเจ้าได้อย่างไร นอกจากนี้ยังสาธยายถึงการด่อตั้งวิหารแห่งซาตาน ( Synagogue of Satan ) และการทำงานของมันเพื่อมิให้โลกมีการปกครองตามแผนการของพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย พระเยซูคริสต์มายังโลกนี้เมื่อแผนการร้ายของพวกซาตาน มาถึงขั้นที่พวกมันได้มีอำนาจแล้ว แต่พระองค์ได้มาเปิดโปงถึงวิหารแห่งซาตาน ( Rev 2:9, 3:9 ) และประณามว่าใครที่ไปเข้ากับพวกนี้ก็ถือว่าเป็นลูกแห่งซาตาน ซึ่งพระองค์ทรงเรียกพวกนี้ว่าเป็น บิดาแห่งความมดเท็จ ( John 8:44 ) และเจ้าชายแห่งการหลอกลวง ( 2 Cor 11:14 ) พระองค์ได้ระบุลงไปเลยว่า พวกที่รวมอยู่ในวิหารแห่งซาตานนี้ คือพวกที่โกหกและเรียกตัวเองว่ายิว แต่ไม่ใช่ ( Rev 2:9, 3:9 ) พระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า พวกนักแลกเงิน (นายธนาคาร) พวกอาลักษณ์และพวกยิวฟาริสีเป็นพวก "อิลลูมินาติ" ( Illuminati ) ในสมัยของพระองค์ 

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ลืมความจริงที่ว่าพระคริสต์มายังโลกนี้ ก็เพื่อปลดปล่อยเราให้พ้นจากพันธนาการของพวกซาตาน ที่กำลังผูกมัดเราแน่นยิ่งขึ้นทุกๆ วัน พระคริสต์ทรงแก้ปัญหาให้เราโดยได้บอกแก่เราว่า เราต้องช่วยกันเปิดเผยความจริง เกี่ยวกับแผนการร้ายของพวกนี้ ( John 8:31:59 ) แก่ประชาชนทุกคนในทุกๆ ชาติ พระองค์ทรงสัญญาแก่เราว่า ถ้าหากเราทำเช่นนี้แล้วความจริงก็จะทำให้เราเป็นอิสระ ( Matt 28:19 ) ปัจจุบันแผนการร้ายของพวกมารร้าย ได้ดำเนินมาถึงครึ่งค่อนแล้ว ( Matt 24:15:34 ) ทั้งนี้เพราะว่าเราไม่นำเอาคำดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น