วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดในตลาดหุ้นวอลสตรีท โดยเจสซี่ เวนทูร่า

สารคดีชุดนี้เป็นจุดหนึ่งที่จะเปิดเผย "เคล็ดลับ" วิธีการและเบื้องหลังของการล้มระบบการเงิน การธนาคารของอเมริกา ผ่านทางกลไกของตลาดหุ้นวอลสตรีท โดยกลุ่มทุนขนาดยักษ์ที่แทรกซึมและอยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองพรรคใหญ่ทั้งสองพรรคคือรีพับลิกันและเดโมแครต รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐ ณ ปัจจุบัน (Government Sachs ซึ่งได้มาจาก Government+Goldman Sachs)

ผมแนะนำให้ดาวน์โหลดเก็บไว้ก่อนครับ วันนี้ดูแล้วอาจจะยังเป็นแค่ข้อสังเกตุหรือทฤษฏีสมรู้ร่วมคิด เอาไว้หลังจากที่การ "ล่มสลาย" มาถึงแล้ว ซึ่งไม่น่าจะต้องรอกันนานครับ สารคดีชุดนี้จะเป็นคำตอบให้กับคำถามทั้งมวลครับว่าเค้าทำกันอย่างไรและใครเป็นคนทำให้เกิด ทุกอย่างถูกสร้างขึ้น By Desire & Design หรือโดยความต้องการและออกแบบโดยคนกลุ่มนึงครับ เช่นการสร้างฟองสบู่ขนาดยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยกลไกของตลาดเงินโดยการใช้ "อัตราดอกเบี้ย" เป็นเครื่องมือ

สิ่งที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียง Recession, Depression หรือเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ทั้งหมดคือ Destruction หรือการทำลายล้างประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจะลากเอาเศรษฐกิจโลกพ่วงตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งหมดเกิดขึ้นจากภายในประเทศมหาอำนาจนี้ด้วยกลไกที่ถูกสร้างขึ้น ประเทศซึ่งเป็นแม่แบบในหลายๆด้านซึ่งถูกนำไปใช้ในประเทศค่าย "ทุนนิยม" เกือบทั่วโลก สำหรับท่านใดที่เพิ่งเข้ามาอ่านแล้วยังไม่รู้ว่าใครทำ หรือทำเพื่ออะไร คงต้องลองเล่นเกมส์ต่อภาพจิ๊กซอว์จำนวนมากมายที่ผมให้ไว้แล้วครับ 

ผลกระทบเหรอครับ ก็คงจะทำให้ผู้คนมหาศาลทั่วโลกต้องล้มตายลงทั้งทางเศรษฐกิจและชีวิตจริงๆ แต่โลกใบนี้จะไม่ถูกทำลายหรือแตกสลายอย่างที่สารพัดคำทำนายทายทักไว้หรอกครับ แต่ก็ใช่ว่าจะผ่านไปได้อย่างง่ายๆสบายๆ เช่นกันครับ การทำลายล้างครั้งใหญ่นี้ถ้าเป็นไปตามที่ออกแบบไว้จะกินเวลานานหลายปีและทั่วทุกมุมโลก แต่ที่หนักที่สุดเห็นจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาเอง ถ้าเปรียบกับการลงทุนก็คงเปรียบเหมือนกับการปรับฐานครั้งใหญ่ของมนุษยชาติในรอบ 2010+ ปี เพื่อทำการชำระล้างความบาปและสิ่งหมักหมมที่มนุษย์ทำเอาไว้ในรอบ 2010+ ปีนี้ด้วยเช่นกัน

Preview หรือหนังตัวอย่างก็ฉายไปพอสมควรแล้วตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมาไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 911 ที่เปลี่ยนแปลงโลกให้อยู่ในความกลัวมาตลอดจนถึงวันนี้ สงคราม การก่อการร้าย(ที่ก่อกันเอง) การกันดารอาหาร ภัยธรรมชาติ(ที่ไม่ใช่ธรรมชาติ) เช่น คลื่นความร้อน พายุใหญ่ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ น้ำท่วม โคลนถล่ม ซึนามิ โรคระบาดทั้งในมนุษย์และสัตว์(ซึ่งเป็นการทำลายแหล่งอาหารของมนุษย์) อย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคทั่วโลกเช่นกัน  คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 20 ล้านคนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่นับรวมการเสียชิวิตจากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์อีกเช่นกัน

มีหลายคนสงสัยว่า ถ้าเค้าทำจริงแล้วเค้าจะมาบอกเราทำไม เตือนเราล่วงหน้าทำไม เอามาเปิดเผยทำไม คำตอบคือ เพื่อให้เรา "ได้คิด" ไงครับ เพื่อให้มนุษย์ได้ตรึกตรองในสิ่งที่เรากำลังทำ แต่ไม่วายมนุษย์เราก็ยังอยู่ในวังวนและไม่ละเว้นจากความผิดบาป เพราะเรากำลังเดินตามรอยประเทศที่เป็นต้นแบบแห่งความบาป การทำลายล้างกันเองหรือแม้แต่ทำลายธรรมชาติ ซึ่งก็กลายเป็นศรที่ย้อนกลับมาทำลายมนุษย์อีกเช่นเดิม

การเตือนล่วงหน้านี้อีกจุดประสงค์นึงก็คือเพื่อปลุกและเตือนมนุษย์ "บางส่วน" ที่จะต้อง "รอด" ทั้งทางด้านร่างกายและจิตวิญญาน เพื่อหน้าที่ในการ "สร้าง" และ "สานต่อ" โลกใบนี้ภายหลังจากการ "ทำลายล้างครั้งใหญ่" ได้ผ่านไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการปลุกจะตื่นขึ้นครับ เพราะใน 100 คนที่ถูกปลุก อาจจะมีไม่ถึงครึ่งหรือเพียง 10 คนที่ตื่น เพราะส่วนที่เหลือนั้นยังอยู่ในอาการ "หลับไหล" หรือก็คือการ "หลงโลก" หรือถูกความเป็น "โลก" กลืนไปแล้วนั่นเอง

คงเข้าใจนะครับว่าผมกำลังพูดถึงอะไร??? 

หมายเหตุ: ในช่วงแรกๆของสารคดีชุดนี้ จะเปิดเผยถึงเรื่องการปั่นตลาดทองคำและเงินด้วยครับ ...มาได้เวลาจริงๆ

3 ความคิดเห็น:

  1. ต้องลองหาหนังเรื่อง HOME ดูครับจะเข้าใจโลกใบนี้ขึ้นในระดับหนึ่ง บางครั้งการจะรักษาสิ่งสำคัญไว้ จำเป็นที่จะต้องสูญเสียบางสิ่งไป กระบวนการการสุ่มเลือกจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผ่านการยกระดับทางความคิดเปรียบเหมือนการจูนหาคลื่นเพื่อค้นหาคนที่เข้าใจตรงกันในระดับเดียวกัน

    ในเมื่อมนุษย์เกิดมามีอิสระทางความคิดแล้วแต่ไม่เคยใช้อิสระที่มีนี้ ซ้ำร้ายยังบ่อนทำลายบ้านหลังนี้เสียด้วยซ้ำ บางครั้งจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งกฏห่วงโซ่อาหารของธรรมขาติ มนุษย์บางคนจึงทำตัวเป็นผู้ล่าและเหยื่อจึงเป็นมนุษย์ด้วยกันเอง เพราะธรรมชาติของโลก ไม่เคยสร้างผู้ล่าให้กับมนุษย์(แต่ในจักรวาลอันไพศาลนี้อาจมีก็ได้)

    ตอบลบ
  2. เอาหล่ะครับอยู่ที่เราแล้วหล่ะครับ เราเองก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะเป็น เหยื่อต่อไป หรือจะตื่นและกลับมายืนอยู่ตรงกลางบนความถูกต้อง และพยายามยืนมือเข้าช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่เราจะช่วยได้

    วินซ์

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณท่านแม่ทัพ และคุณ วินซ์นะครับ
    สิ่งที่เราคิดว่ารู้แล้ว แต่จริง ๆ ยังไม่รู้อะไรอีกเยอะเลย
    นี่...มันยิ่งกว่าการทำลายล้างโลกด้วยน้ำซะอีก

    เอาลิงค์ Home มาฝาก
    http://www.youtube.com/watch?v=jqxENMKaeCU

    ไม่แน่ใจว่าเรื่องเดียวกันไหม แต่เท่าที่ผมเคยดูมาแล้ว
    ทำให้เข้าใจอะไรขึ้นเยอะ

    ตอบลบ