วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Subliminal Messages 8 of 14 .......One Eye Culture & The Death of MJ

นานมาแล้วในช่วงทศวรรษที่ 80-90 ถ้าถามเด็กวัยรุ่นในอเมริกาและในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกว่าศิลปินเพลงคนไหนหรือใครที่เป็นที่ชื่นชอบหรืออยากนำมาเป็นแบบอย่างมากที่สุด คำตอบก็คือ "มาดอนน่า" ครับ และมาในทศวรรษที่ 90 ก็เป็นของราชาเพลงป๊อปไมเคิล แจ๊คสัน หรือ King of Pop นั่นเอง พอขึ้นสหัสวรรษใหม่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบริตนี่ สเปียร์ และมาวันนี้ที่กำลังร้อนแรงที่สุดและเป็นที่ไฝ่ฝันของวัยรุ่นอเมริกันและอีกมากมายทั่วโลกคงจะหนีไม่พ้น "เลดี้ กาก้า" ครับ 

รายชื่อนักร้องชื่อดังก้องโลกทั้งหลายที่ผมกล่าวมานั้น เป็นตัวแทนของ "อิลลูมินาติ" ทั้งหมด โดยที่เค้าได้ซ่อน SM ไว้ในทุกชิ้นงานของพวกเค้าเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นปกเทป ปกซีดี โปสเตอร์ คอนเสิร์ต มิวสิควีดีโอ เนื้อหาของเพลงทั้งแบบการเล่นปกติ และการเล่น Reverse หรือเล่นกลับหลัง และ SM เกือบทั้งหมดก็สื่อถึง "การบูชาลัทธิซาตาน" ไว้อย่างชัดเจนแทบไม่ต้องตีความใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลักษณ์และผลงานเพลงของพวกเค้าทุกคนถูกส่งให้ขึ้นไปอยู่ใน Top Chart ในระดับโลกแทบทั้งสิ้นครับ 

และมาถึงยุคนี้ซึ่งเป็นยุคของ เลดี้กาก้า, เจซี หรือ ริฮานน่า ก็แทบจะไม่เป็น SM อีกต่อไปเพราะทำกับแบบตรงไปตรงมาและเปิดเผย โดยเฉพาะเลดี้กาก้านี่อาการหนักมากครับ.......


และนี่ก็เป็นการสัมภาษณ์เลดี้กาก้า โดยสถานี BBC ของอังกฤษ ซึ่งเค้าก็แสดงตัวตนออกมาหมดครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักร่วมเพศ เซ็กส์ การแสดงสัญลักษณ์หรือ SM ต่างๆออกมาอย่างชัดเจน ในช่องทีวีชั้นนำโดยไม่มีการเซนเซอร์ใดๆ (ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราคงโดนถล่มและครับ) ซึ่งคนทั่วไปดูก็อาจจะไม่เข้าใจ หรืออาจจะแค่งงๆ ครับ แต่หลายๆ ท่านที่นี่คงเห็นเหมือนกับที่ผมเห็นครับ โดยเฉพาะในนาที่ที่ 1:10


และในนาทีที่ 1:10 ของการสัมภาษณ์เธอก็ยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์บางอย่างครับ


และนี้ก็เป็นอีกหลายๆ ตัวอย่างของอุตสาหกรรมเพลงของอเมริกา ที่ถูก "อิลลูมินาติ" ครอบงำและเป็นเจ้าของไว้โดยสิ้นเชิง หรือจะเรียกว่า "Illuminati Music Industry" ก็ว่าได้ครับ

 
 

แต่หลังจากที่ไมเคิล แจ๊กซั่นกลับใจ และเริ่มออกห่างจาก "อิลลูมินาติ" งานเพลงในชุดต่อๆ มาหลังจาก BAD และ Thriller ก็เริ่มเปลี่ยนทิศทาง โดย SM ที่อยู่ในเพลงทั้งหมด ไปในทิศทางที่ดีต่อโลกและสังคมมนุษย์ เช่น Heal the World เป็นต้น จนมาในยุคปลายของไมเคิล ความนิยมที่เคยมีจากแฟนเพลงทั่วโลกตกลงอย่างน่าใจหาย เพลงกลับขายไม่ค่อยได้ เหตุผลก็เพราะสื่อทั้งหมดในเครือของอิลลูมินาติไม่ผลักดันไมเคิลเหมือนในอดีตที่ผ่านมา อย่าว่าแต่ Top Chart เลยครับ แค่ชื่อเพลงและอัลบัมก็แทบไม่การเปิดตามสถานีต่างๆ แต่กลับกระหน่ำตีไมเคิลในกรณีของ Child Abuse หรือการลวนลามเด็กชาย และนำเสนอข่าวเรื่องราวที่ไม่ดีและในแง่ลบทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ "ร่วง" ตามระเบียบครับ
หลังจากนั้นไมเคิลก็ตอบโต้กลับด้วยการเปิดเผยตัวตนหรือความเป็นอิลลูมินาติโดยการซ่อน SM ไว้ในเนื้อเพลงในผลงานในชุดต่อๆมา ที่กระแสฟีเวอร์ไม่เท่ากับในอดีตที่ทำเป็น "ภูตผีปีศาจ" อีกแล้วครับ โดยเฉพาะเพลง "They Don't Care About Us" ซึ่งยิงใส่กลุ่มอิลลูมินาติเต็มๆ อีกทั้งยังเดินสายให้สัมภาษณ์เปิดโปงในกิจกรรมต่างๆ ในระยะหลังๆ จนเสียชีวิตในที่สุด และเป็นที่รู้กันวงในครับว่าเป็นการ "ฆาตกรรม" โดยการ "วางยาพิษ" ในอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งออกมาจากบทสัมภาษณ์ของเค้าเองและจากครอบครัวก่อนการเสียชีวิต ว่ามีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มในเรื่องดังกล่าว


และในช่วงเวลาหนึ่งก่อนการเสียชีวิตของไมเคิล ในช่วงต้นปี 2009 ในการอธิษฐานก่อนการซ้อมเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ไมเคิลอาจจะรับรู้อะไรมาบางอย่าง และได้ทิ้งปริศนาไว้ในลักษณะ "คำเตือน" ครับ คือ "We have four years to make it right or else it's irreversable.  Then we're done" ซึ่งแปลความได้ว่า "เรามีเวลาอีก 4 ปี เพื่อจะทำให้มันถูกต้อง หรือไม่มันก็ไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับมาได้อีก พวกเราจบ " ซึ่งอีก 4 ปีที่จะถึงนับจากปี 2009 ก็คือปี "2012".......อีกแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น