วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Subliminal Messages 10 of.......คำพยากรณ์ 1

ตอนแรกคิดว่าจะค่อยๆ เรียบเรียงและเขียนเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ สบายๆครับ จนกระทั่งเมื่อเช้ามาเปิดเครื่องก็มีเรื่องแผ่นดินไหวหลายที่หลายจุดทาง Midwest หรือภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐ โดยทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่งมาให้แบบไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาเร่งเพื่อให้รีบเขียนเรื่องนี้ ที่รู้สึกอย่างนั้นเพราะว่าเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเขียนหรือบอกเล่าต่อไปนี้ก็คือ "ความเป็นได้" ของการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงอีกครั้งหนึ่งของโลกที่ภาคตะวันตกของสหรัฐ ที่ความรุนแรง 8.xx ริกเตอร์หรือสูงกว่า พูดง่ายๆว่าร้ายแรงกว่าที่เฮติมากครับ 

โดยข้อมูลทั้งหมดผมได้รวบรวมไว้แล้วครับ จนเมื่อวานนี้คลิกเข้าไปที่บล๊อก บล๊อกหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ  ซึ่งเป็นงานแปลและเขียนโดยคุณ 1p2m...link  (ถ้าท่านมาอ่านอยู่ ณ ที่นี้ก็ขออนุญาตินำมาเผยแพร่เลยนะครับ) ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือเคยอ่านมาก่อน ซึ่งข้อมูลในบล๊อกนั้นจะมาทำให้เนื้อหาที่ผมกำลังจะเขียนสมบูรณ์มากขึ้นครับ คือในตอนแรกผมคาดว่าถ้าเหตุการณ์นี้จะเกิด จะเกิดขึ้นตอนไหน และทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ อย่าเพิ่งตกใจอะไรไปนะครับ ก็คือบางเดือนในปี 2011 คือ "รู้ปีแต่ไม่รู้เดือน"


จนมาอ่านคำพยากรณ์ต่อไปนี้แหละครับที่เขียนอธิบายภาพออกมาเป็นฉากๆ จากคำพยากรณ์ของนาย Chuck Youngbrandt ที่ได้พยากรณ์ไว้เมื่อ 37 ปีก่อน คือในปี 1973 ในตอนสรุปเค้าบอกว่าเค้ารู้เดือนครับคือ "เดือนกรกฏาคม" ของปีหนึ่งในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเป็นปีไหน ผมก็เลยลองคาดการณ์เล่นๆ ว่า หรือจะเป็น เดือนกรกฏาคมปี 2011  เราลองมาดูกันต่อครับว่าทำไมและอย่างไร

ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมามีการพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ จากผู้พยากรณ์หลายๆคนออกมาอย่างต่อเนื่องครับ เกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ สงครามและการล่มสลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเค้าเหล่านั้นสามารถมองเห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนหลายๆครั้ง แต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่และเมื่อไหร่ โดยเกือบจะทุกคนกล่าวว่า "พระเจ้า" เป็นผู้มาเปิดเผยและเตือนเค้าเหล่านั้นให้บอกสิ่งเหล่านี้กับคนอเมริกันและชาวโลกครับ สิ่งที่น่าแปลกคือมีหลายๆ คำพยากรณ์ที่ตรงกันทั้งที่ต่างยุคต่างสมัยหรือเป็นระยะเวลาที่ห่างกัน 10-30 ปี และเค้าเหล่านั้นกลับได้รับคำเตือนในสิ่งที่คล้ายๆ กัน มีหลายกรณีที่มีการพูดถึงในสิ่งที่เค้าไม่เข้าใจเพราะยังไม่มีเทคโนโลยีหรือสิ่งเหล่านั้นในยุคสมัยของผู้พยากรณ์นั่นเอง

มีหลายคนกล่าวหาพวกผู้พยากรณ์เหล่านี้ว่า เป็นเพียงเรื่องตลก ไร้สาระและไม่อาจเป็นจริงได้ แต่ ณ วันนี้สำหรับผม.......คำตอบคือ ที่ผ่านมามันยังไม่ถึงเวลาครับ ผมจะนำคำพยากรณ์บางส่วนที่เด่นๆ ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ลองมาดูกันครับว่าเค้ามองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตกันอย่างไรบ้างครับ 

หมายเหตุ : ขอเน้นย้ำนะครับว่าทั้งหมดคือคำพยากรณ์เท่านั้น และผมไม่มีความประสงค์หรือสร้างความตื่นตระหนกด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้นขอให้เวลาและตัวของท่านผู้อ่านเองเป็นผู้ตัดสินครับ***

นิมิตแผ่นดินไหวชิคาโกโดย Chuck Youngbrandt

ในปี 1973 พระเจ้าได้ให้นิมิตแก่ข้าพเจ้าเกี่ยวกับแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีแถบตะวันตกกลาง (Midwest) ของอเมริกา มีศูนย์กลางที่ชิคาโก อิลลินอยส์ ที่จะเกิดขึ้นในวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคมในอนาคต แผ่นดินไหวทำลายล้างนี้จะนำมาสู่การโจมตีอเมริกาด้วยนิวเคลียร์จากรัสเซีย จีน และญี่ปุ่น เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 นิมิตนี้ข้าพเจ้าเห็นเครื่องบินเจ็ตใหญ่มากลำหนึ่งที่บินอยู่ในเส้นทางบิน ได้ลงที่สนามบิน โอแฮร์ ทางตอนเหนือของชิคาโก (หลังจากแผ่นดินไหว) และเมื่อทะเลสาปมิชิแกนคำรามพ่นน้ำออกมากวาดเมืองมันจะเป็นกำแพงน้ำสูงกว่า 100 ฟุต และเครื่องบินเจ็ตลำใหญ่ก็ติดเครื่องเต็มกำลังอีกครั้ง จนมีควันไหม้พุ่งออกมาจากเครื่องยนต์เพราะนักบินได้ตื่นกลัวอย่างเสียสติที่ จะนำเครื่องขึ้นหนีกำแพงน้ำที่จะมาทำลายชิคาโก

ข้าพเจ้างุนงงมากในตอนนั้น (วันที่ 2 กรกฎาคม) เนื่องจากเครื่องบินที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นใหญ่มากเท่าตึกสองชั้น ไม่เหมือนที่ข้าพเจ้าเคยเห็นมากก่อน (ในปี 1973 เครืองบินจัมโบ้เจ๊ตยังไม่มี เพราะกำลังออกแบบสร้างอยู่)

ในขณะที่เครื่องบินจัมโบ้เจ็ต (747-400) ที่มีห้องสองชั้นด้านหน้าของเครื่องบินดู “คล้าย” กับที่ข้าพเจ้าเคยเห็นในปี 1973 ที่เป็นรุ่นใหม่ A3XX อย่างที่เคยเห็นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2000 (ออกข่าวเช้าของดัลลัส ในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน เครืองแอร์บัส 2F เป็นเครื่องบินเจ็ทยักษ์ไอพ่นสีเขียวอ่อน) “คือ” สูง 2 ชั้นและดูคล้ายกับที่ข้าพแห็นในนิมิตปี 1973 มาก

ข้าพเจ้าได้ตามสังเกตุดูในขณะที่พวกเขายังเพิ่งเริ่มต้นพัฒนา เพราะการติดตามพัฒนาการนี้เป็นหนทางเดียวที่จะบอกเราว่าเรากำลังเข้าสู่ “ช่วงเวลานั้น” เมื่อเครื่องบินแบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว จากข่าวนี้ที่มีหัวข้อว่า AEXX เครื่องบินเจ็ตซุปเปอร์จัมโบ้พร้อมที่จะนำมาใช้บินในปี 2005

นิมิตแผ่นดินไหวนี้ได้มาถึงข้าพเจ้าตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 5 กรกฎาคม 1973 ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เห็นสิ่งนี้หรือเพราะอะไรจึงได้เห็นนิมิตนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนโน้ต และทำเป็นไฟล์ไว้ และพยายามจะลืมมันเสียแต่ก็ไม่สำเร็จ

สิ่งแรกคือข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่ชิคาโก และเห็นบริเวณทั่วทั้งแถบตะวันตกกลางและตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา และเห็นซากปรักหักพังมีไฟคุกรุ่นจากการโดนระเบิดนิวเคลียร์ และเมื่อมองไปที่แถบตะวันตกกลาง ก็ได้เห็นชิ้นก้อน โคลนแห้ง ของซากหักพังทุกที่ อย่างไรก็ตาม เมืองเล็ก ๆ จำนวนมากในเมืองใหญ่ก็ยังไม่ถูกทำลาย ข้าพเจ้าเห็นผู้คนบาดเจ็บจำนวนมากถูกนำเข้าโรงพยาบาล ความสับสนและความกลัวเข้ามากลืนกินแผ่นดินนี้

และทันใดนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นกองกำลังรัสเซียเคลื่อนผ่านยุโรปตะวันตกอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้ามายังอเมริกา ยุโรปตะวันตกต้องยอมให้ผ่านเพราะกลัว เนื่องจากพระวิญญาณพระเจ้าได้ตรึงเขาไว้ทำให้พวกเขาอยู่ในความกลัวต่อการนี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นอะไรอีกนอกจากเครื่องบินบรรทุกลำใหญ่ของอเมริกาได้ตกลงที่ อ่าวแห่งหนึ่งในชายฝั่งตะวันออกจมโคลนลงไปครึ่งลำ และทันใดนั้นก็เห็นการบุกรุกเข้ามาที่อ่าวเดลาแวร์ และตลอดชายฝั่งของเวอร์จิเนีย

เริ่มต้นนิมิต

มันเป็นวันที่บรรยากาศสดใสอบอุ่น ช่วงสายเวลาประมาณ 10:30 ข้าพเจ้ากำลังนั่งอ่านพระคัมภีร์ที่เฉลียงในช่วงพักดื่มกาแฟ ข้าพเจ้ารู้สึกไม่สบายตัวตลอดช่วงเช้า มีอาการกระวนกระวายโดยไม่มีเหตุผล ความตึงเครียดทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกกระวนกระวายที่อยากจะพักสงบในพระวจนะพระเจ้าเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยข้าพเจ้าได้ ขณะที่อ่านอยู่นั้นชั่วครู่ก็มีบางสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้น แสงอาทิตย์ก็สว่างไปทั่วห้องอย่างฉับพลันดูเหมือนจะสว่างกว่าปกติ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สังเกตุอะไรและอ่านพระคัมภีร์ต่อไป และก็ได้ชำเลืองดูไปข้างนอกอีกครั้งและเห็นสิ่งแปลกประหลาดบางสิ่ง แม้ว่าข้าพเจ้าจะเห็นปุยเมฆอย่างชัดเจนในท้องฟ้า แต่ในเวลาเดียวกันก็เห็นท้องฟ้าใสปราศจากเมฆที่ดูสว่างกว่าแสงอาทิตย์เสีย อีก และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงแหลมดังมาก เป็นเสียงแตก ๆ ที่น่ากลัว และรู้สึกว่าพื้นดินเคลื่อนไหวข้างใต้ข้าพเจ้า ตึกต่าง ๆ รอบก็เอนไหวโยกไปมาและกำแพงตึกก็ปริแตกออกมาบางส่วน และข้าพเจ้าได้ยินดังลั่นจากข้างล่าง มันคือแผ่นดินไหว

ข้าพเจ้ามองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ โคมไฟห้อยบนกำแพงก็หลุดตกมาที่พื้น ในขณะที่กำแพงแกว่งเองไปมา หน้าต่างของตึกสูง 2 ชั้นก็แตกระเบิดมีเศษกระจกเป็นพันชิ้นหลุดออกมาในขณะที่กรอบหน้าต่างบิด เบี้ยวไป ต้นเสาหลักภายนอกรอบ ๆ ประตูก็หักลงในทันที กำแพงแตกพังลงเสียงดังอย่างมาก เป็นเสียงแตกปะทุ ชิ้นส่วนเพดานสูงประมาณ 4 ฟุตจากพื้นก็ถล่มมาที่เก้าอี้ ทุกสิ่งแกว่งไปมาอย่างรุนแรงจนข้าพเจ้าเดินไปไหนไม่ได้ ข้าพเจ้าได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งร้องกรี๊ด ข้าพเจ้าประหลาดใจที่อาคารยังทรงตัวอยู่ได้ในขณะที่พื้นดินเคลื่อนที่อย่าง รวดเร็วและรุนแรง และทันใดนั้นมันก็หยุด ข้าพเจ้าสั่นหัวด้วยความเชื่อเมื่อมองดูไปรอบ ๆ เห็นเศษซากหักพังและมีฝุ่นควันปกคลุมวันอันสดใสไป ต่อมาข้าพเจ้ามองเห็นเพียงเฉลียงที่นั่งอยู่ก่อนนั้นไม่เป็นอะไรเลยเหมือน ไม่มีแผ่นดินเกิดขึ้น รู้สึกงงงวยและพยายามลืมมันเหมือนเป็นแค่จินตนาการ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้กับสิ่งที่พบเจอนี้ ข้าพเจ้าก็กลับไปทำงานต่อ

ประสบการณ์ก็เป็นเหมือนหลาย ๆ เรื่องที่ถูกเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในวันแรกและหลายวันต่อมา ในหลาย ๆ พื้นที่ หลาย ๆ เวลา พระเจ้าได้เปิดเผยต่อข้าพเจ้าอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแผ่นดินที่จะเกิดครั้ง แล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสไม่มีเมฆ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงแตกแหลมน่ากลัว ร้ายกาจอย่างมาก และที่เกิดมานั้นก็เช่นกัน มันเกิดการเคลื่อนของแผ่นดินอย่างรวดเร็วและทันทีทันใด ในเวลานั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไร ไม่เข้าใจอย่างมาก คิดว่าไม่ได้เห็นและได้ยินแต่แผ่นดินไหวอย่างเดียวแต่ก็รู้สึกรับรู้ว่าคน อื่น ๆ คิดว่ามันคืออะไรด้วยในเวลานั้น ข้าพเจ้ายังได้กลิ่นแปลก ๆ ในอากาศ ขณะที่วันผ่านไปและความลับก็ถูกเปิดเผยขึ้น ข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกช๊อคและกลัวขึ้นเมื่อทุกสิ่งถูกเปิดเผยออกมาตลอดช่วง เวลานั้น และจะบอกพวกเขาและท่านในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์บอกข้าพเจ้า


ในเวลาอาหารเที่ยงในวันเดียวกันนั้น ทุก ๆ คนก็กำลังรับประทานอาหารในขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่โต๊ะ โต๊ะอยู่ถัดจากหน้าต่างที่หันหน้าไปทิศตะวันออก มองไปทิศใต้จะเห็นทะเลสาปเล็ก ๆ เรียกว่าทะลสาป โอฮาร่า ผ่านตึกคู่กันที่สร้างอยู่รอบ ๆ หน้าทะเลสาป ไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อยของอาคารคือถนน ไตรสเตท โทลเวย์ และทางตะวันออกโทลเวยร์คือโรงงาน ซีร๊อก และมีบางสิ่งดูเหมือนอาคารเก็บน้ำที่มีชื่อว่าซีร๊อก ตั้งอยู่เลยโรงงานซีร็อกไปก็เป็นป่า และมันก็เริ่มอีกครั้ง นับแต่เริ่มวันมาก็เกิดสิ่งนี้ไปทั้งวันนั้น คือเริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส ท้องฟ้าไร้เมฆ และแผ่นดินไหวแตกทิ่มแทงพื้นดิน

และนั้นก็ทำให้ตึกทั้งหมดเริ่มเคลื่อนที่ ข้าพเจ้าเห็นการแตกและขยายตัวจากที่หนึ่งของอาคารมายังที่ ๆ ข้าพเจ้าอยู่ในชั่วพริบตา ผนังปูนฉาบแตกปะทุและโน้มตัวพังลงมาในขณะที่กำแพงโค้งตัวลงมา พื้นที่ยื่นอยู่ก็ทรุดตัวลงไปประมาณห้าหรือหกฟุต ทำให้เฟอร์นิเจอร์และตู้เอกสารเลื่อนไถลลงไป อีกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดและรู้สึกวิตกกลัวถึงการไหวที่อื่นด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคำรามเหมือนฟ้าผ่าของแผ่นดินที่พลิกตลบไปมา และสังเกตุได้ว่าการเคลื่อนไหววิ่งจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเฉียงเหนือ ข้าพเจ้ามองออกไปที่หน้าต่างเห็นอาคารเก็บน้ำชื่อซีร๊อกแกว่งไปมา และฐานก็เคลื่อนจนอาคารล้มลง ทันใดนั้นก็เห็นเปลวไฟพุ่งออกมาจากอาคารในขณะที่อาคารเก็บน้ำยักษ์กระแทกลง ที่หลังคาอาคารซีร๊อก ในชั่วขณะหนึ่งแผ่นดินก็หยุดไหวและข้าพเจ้าก็หยุดชะงักด้วยความเงียบสงัดที่ จะมีไปตลอดวัน ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ เหลืออยู่แม้กระทั่งนก กลุ่มควันลอยขึ้นจากอาคารซีร๊อกเหมือนแท่งเสาสีดำ น้ำในทะเลสาปโอฮาร่ากระฉอกสาดออกมาจากทะเลสาปเป็นคลื่นยักษ์และก็ไหลกลับไปที่เดิม

ข้าพเจ้ารู้ว่านี่เป็นอีกครั้งที่เป็นนิมิตเกี่ยวกับเหตุการณ์อนาคต คือแผ่นดินไหวใหญ่ ในเวลานี้ความรู้สึกของข้าพเจ้าก็ถูกสะกดด้วยสิ่งที่ได้ประสบ แต่ใครที่ข้าพเจ้าจะบอกเล่าได้ ใครจะเชื่อสิ่งนี้ นี่คือประเด็นเพราะข้าพเจ้าได้เห็นแต่เพียงผู้เดียวและไม่เข้าใจถึงจุด ประสงค์ของนิมิตนี้

มันเป็นเวลาบ่าย 3 โมงในวันเดียวกัน อีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแสงอาทิตย์สดใส ในช่วงนี้นิมิตเริ่มต้นที่จุดสุดท้ายของครั้งก่อน การทำลายล้างเกิดขึ้นกับทุกที่ ข้าพเจ้าสามารถรู้สึกได้อย่างจริงจังว่ามันจะเป็นวันที่เงียบสงัดไปทั้งวัน และความเงียบก็สิ้นสุดด้วยเสียงคำรามที่น่ากลัวที่ต่างออกไปทำให้เสียวไปถึง กระดูกสันหลัง ข้าพเจ้าหันหลังกลับไปมองที่หน้าต่าง และได้เหลือบมองข้ามไปยังพื้นที่ที่พังถล่มเหนือป่าไปยังอาคารซีร๊อก ที่นั่นมีต้นไม้ตั้งยืนต้นอยู่ ข้าพเจ้าเห็นในระยะไกลว่ามีกำแพงน้ำยักษ์สีน้ำเงินใส กำลังเคลื่อนที่ไปทิศตะวันตก มันดูเหมือนไม่ได้วิ่งมาที่ข้าพเจ้าอยู่แต่ดูเหมือนเคลื่อนที่จากตะวันตกไป ทิศใต้ ใช่แล้ว กำแพงน้ำยักษ์พุ่งไปที่ ๆ ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ใน เดสเพลน อิลลินอยส์ กำแพงน้ำมาจากทะลสาปมิชิแกน ดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่า ช่างเลวร้าย ทำให้ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น นี่เป็นจุดแรกที่ข้าพจะต้องระลึกไว้ว่าข้าพเจ้าจะได้เป็นพยานเกี่ยวกับ การทำลายล้างชิคาโกด้วยแผ่นดินไหวใหญ่และตามมาด้วยกำแพงน้ำยักษ์ถล่ม

หลังจากนั้นข้าพเจ้าขับรถจาก เดสเพลน ไปวิลล่าพาร์ค อิลลินอยส์ ขณะที่ขับไปมุ่งไปที่ ไตรสเตท โทลเวย์ ก็ได้เห็นคลื่นระลอกแผ่นดินไหวทำลายบ้านและถนนพังอย่างชัดเจน ถนนทางลอดใต้ก็พังถล่ม ต้นไม้โค่นล้มถอนรากออกมาอยู่ทุกที่ทุกแห่ง ไตรสเตท โทลเวยร์ นั้นวิ่งจากทิศใต้ไปยังสนามบิน โอแฮร์ และออกไปถึงทางลอดใต้ โอเอซิส ที่อยู่ใกล้ ๆ อีกครั้งที่จะเริ่มต้นด้วยใจจดจ่อ แผ่นดินพลิกเคลื่อนเสียงคำรามเหมือนครั้งก่อนและข้าพเจ้ามองออกไปประมาณ 300 ฟุต เหมือนจะมีชิ้นส่วนของหินแกรนิตขนาดใหญ่จากใต้พื้นดินหรือวัตถุที่คล้ายกัน นี้พุ่งทะลุโผล่ที่ถนน ไตรสเตท และทะลุกวาดไถไปจนถึงทางลอด โอเอซิส 


มันพุ่งทะลุขึ้นมาจากดินสูงถึง 20-30 ฟุตสูงกว่าเพดานของทางโอเอซิส กำแพงหินนี่ดูจะเหมือนตึกสูงสี่หรือห้าชั้นเลย ร่องหินยักษ์เหล่านี้พุงทะลุขึ้นไปอากาศดูเหมือนจะมีแนวเอียงจากตะวันออกไป ตะวันตกในการเคลื่อนตัว และเคลื่อนที่ไป ๆ มา ข้าพเจ้ารู้ว่าทิศใต้ของแนวร่องหินนี้ฐานพื้นดินจะอยู่ต่ำกว่าทิศเหนือมาก ข้าพเจ้ารู้ได้ดังนั้นทันทีว่านั้นคือแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว

ตอนที่กำแพงหินเหล่านี้พุ่งขึ้นมาที่ถนน ไตรสเตทไปถึง โอเอซิส มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากทำให้ข้าพเจ้าตะลึงอย่างมากทำให้ต้องเหยียบเบรค ย่างกระทันหันเพื่อหลบแท่งกำแพงหินนี้ก่อนที่จะนึกได้ว่ามันเป็นเพียงนิมิต เท่านั้นไม่ใช่เหตุการณ์จริง เมื่อผ่าน โอแฮร์ และโอเอซิส แล้วก็ไปทิศใต้ตามถนน ไตรสเตท ก็จะพบสะพานขาด ข้าพเจ้าเห็นได้ชัดเจนว่ามันพังทะลายสิ้นเพราะแผ่นดินไหว ไม่ว่าทิศไหนก็เห็นแต่ไฟลุกลาม ท่อควันสีดำพวยพุ่ง บ้านและโรงงานพังทะลาย การทำลายล้างช่างยิ่งใหญ่เกินบรรยายได้ ข้าพเจ้าได้มาถึงตึก 15 ชั้นแห่งหนึ่งที่ยังคงทรงตัวอยู่ในทิศตะวันออกของไตรสเตท คือโรงแรมของสนามบิน โอแฮร์ แห่ง นอร์ทเลค ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำเคลื่อนมาเหนือเมืองและถล่มตึก 15 ชั้นนี้ โดยกำแพงน้ำสูงกว่าเพดานโรงแรมนี้

ในนิมิตของอนาคตนั้น ข้าพเจ้ายังเห็นเครื่องบินที่กำลังมาลงจอดที่สนามบินโอแฮร์ ในช่วงเวลาที่กำแพงน้ำปรากฎตัวขึ้นมา นักบินก็สังเกตุเห็นมันด้วย และมีกลุ่มควันสีดำที่ข้าพเจ้าเห็นออกมาจากเครื่องยนต์เจ๊ตที่เผาไหม้ ข้าพเจ้ารู้ได้ว่านักบินได้พยายามเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้นออกไป ข้าพเจ้าประหลาดใจว่าเครื่องบินจะไปลงจอดที่ไหน ข้าพเจ้าก็คิดถึงเมือง มิลวากี้ และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้เห็นเมืองนี้ถูกน้ำท่วมและกำลังถูกทำลาย ข้าพเจ้าก็นึกถึงเมือง เซนต์หลุย และได้เห็นน้ำท่วมไปทั่วเมืองทุกสิ่งจมน้ำสิ้น คือในทันทีที่ข้าพเจ้าเริ่มนึกถึงสถานที่ใดก็จะเห็นภาพการทำลายล้างจริงใน อนาคตที่จะเกิดกับที่นั่น และก็รู้ได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ใด ๆ ที่ผ่านมา ที่จะเทียบเคียงกับสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดกับเราในอนาคตได้

ข้าพเจ้าสังเกตุว่ากำแพงน้ำนั้นพุ่งลึกเข้ามาถึงศูนย์กลางของชิคาโกและพุ่ง เป็นปลายเรียวเลยไปถึงทิศใต้ก็หยุด และเลยไปทิศเหนือด้วยแต่มันไม่ลึก ข้าพเจ้าสังเกตุได้ว่าทางยกระดับและทางลอดใต้จะพังทลาย มีซากหักพังถล่มเป็นทับถมก้อนปิดเส้นทางถนนขาดจากกันในหลาย ๆ ที่และการจราจรก็หยุดชะงัก การหนีจากแผ่นดินไหวเพื่อรอดชีวิตนั้นดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

และทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เห็นพื้นที่ของ ลูป ในนิมิตดูจากเงาที่ทอดลงมาก็ได้ดูเหมือนเป็นเวลาเที่ยงวัน ข้าพเจ้าเห็นการจราจรพลุ่กพล่านในย่านดาวทาวน์ แต่ว่าความสนใจของข้าพเจ้าอยู่ที่ชั้นล่างของตึกใหญ่แห่งหนึ่ง และอีกครั้งที่เริ่มต้นด้วยแผ่นดินไหว รถยนต์จำนวนมากก็ปลิวไถลจากถนนเข้าไปยังตึกต่าง ๆ อย่างแรงเพราะแผ่นดินเคลื่อน เสียงประสานที่น่ากลัวพร้อม ๆ กันทั้งเสียงดังลั่นเอี๊ยด เศษกระจาย เสียงครูดเต็มไปทั่วเหมือนกับเสียงของเสาของเรือใหญ่ที่แล่นอยู่กลางพายุ และตึกสูงระฟ้าก็โยงเอนไปมา ตึกยักษ์ก็เริ่มเลื่อนไถลออกจากตัวฐานประมาณ 20 ฟุตจากทางเดินแต่น่าทึ่งที่มันไม่พังลงมา อิฐ หิน แก้ว และเศษชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ตกลงมาที่ถนนข้างล่างคล้ายลูกเห็บที่ลมพายุพัดมา และเมื่อแผ่นดินไหวหยุด ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนจำนวนมากพูดว่า “โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่” หลายคนรอหน่วยกู้ภัยมาช่วย แต่ไม่มีใครขอบคุณพระเจ้าเลย

ทันใดนั้นภาพที่ข้าพเจ้าเห็นก็เปลี่ยนไปอยู่หน้าทะเลสาป หลังจากแผ่นดินไหวหยุด น้ำในทะเลสาปมิชิแกนก็หยุดนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว และนอนแน่นิ่งสงบอย่างกับป่าช้า ในทันใดน้ำนิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะเขย่าหรือสั่นไหวในขณะที่มองดูอยู่ ระดับน้ำก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงแล่นของน้ำอย่างรวดเร็วพุ่ง หายไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เหลือทิ้งไว้เป็นบ่อโคลนที่ต่าง ๆ

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านไปในวันนั้น เป็นเวลาเท่าใดข้าพเจ้าไม่ทราบมากได้ จากจุด ๆ ที่อยู่สูงแห่งหนึ่งที่ถนนใน ลูป ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างน่ากลัว แสงอาทิตย์หายไปหมดสิ้นและทุกสิ่งถูกกลืนกินด้วยความมืด ต่อมาข้าพเจ้าเห็นภาพทางอากาศของพื้นที่ดาวทาวน์ของชิคาโก เมื่อกำแพงน้ำจากทะเลสาปมิชิแกนได้พัดมาถล่มเข้าไปที่ ลูป อย่างแรงแบบไม่น่าเชื่อ แต่ตึกระฟ้าต่าง ๆ ยังคงทรงตัวอยู่แต่มันตั้งยันคลื่นน้ำเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มบิดตัวทรุดลงมาอย่างช้า ๆ และหายไปสิ้นในน้ำที่พัดวนอยู่ ข้าพเจ้าเห็นภาพนี้ติดตรึงชัดเจน ตึกทางตอนเหนือของ ลูป (มีส่วนผ่านแนวรอยเลื่อน) ดูเหมือนจะปลอดภัย กำแพงน้ำนี้ไม่ใช่คลื่น ไม่ใช่คลื่นน้ำขึ้นน้ำลง ไม่ใช่ปลายยอดคลื่น แต่มันคือน้ำทั้งหมดของทะเลสาปมิชิแกนที่เคลื่อนมาทั้งก้อนไปทางทิศใต้โดย ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ รุนแรงน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทุก ๆ สิ่งในทิศทางที่น้ำเคลื่อนไปจะถูกบดขยี้ทำลายล้างอย่างหมดสิ้น แม้ว่าน้ำจะสูงกว่าตึก 15 ชั้น (ใช้ทางด่วน ไอเซนโอเวอร์ เป็นจุดศูนย์กลางวัด) แต่ความลึกของระดับน้ำก็ลดลงอย่างเร็วในทิศที่เคลื่อน โดยไป 12 ไมล์ทางใต้และเหนือ แต่จุดที่ตื้นที่สุดที่ข้าพเจ้าเห็นก็ถึงประมาณ 20 ฟุต

นับแต่ปี 1973 เรารู้ว่าแผ่นดินไหวที่จะเป็นเหตุเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน และเปลี่ยนเมืองหลายเมืองให้เป็นเส้นทางเดินของน้ำที่จะไหลท่วม ขณะที่พื้นที่ทิศเหนือของแนวรอยเลื่อนบางพื้นที่จะถูกยกสูงกว่าระดับน้ำ พระเจ้าให้ข้าพเจ้าเห็นเมือง คัลลูเม็ต อิลลินอยส์ ฮัมมอนด์ อินเดียน่า ชิคาโกตะวันออก และพื้นที่อื่น ๆ แถวปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่จะต้องไปอยู่ใต้ระดับน้ำถึง 60 ฟุต ที่ส่วนปลายตะวันตกของทะเลสาปมิชิแกนที่ข้าพเจ้าเห็นแต่ผืนน้ำใหญ่โต ไม่มีตึกโผล่เหนือน้ำเลย วันที่ 5 กรกฎาคม 1973 ใน เดสเพลน ข้าพเจ้าเห็นน้ำระดับน้ำพุ่งขึ้นมาเหนือป้ายบอกความเร็วบนถนน บัลลาด และระดับน้ำตรงนั้นดูเหมือนจะลึกอย่างน้อย 5 ฟุตหรือลึกกว่า สะพานคอนกรีต ไตรสเตท บนถนน บัลลาด จะพังอย่างรวดเร็วในขณะที่น้ำซัดไปทิศใต้ตรงนี้เป็นเนินบน ไตรสเตท หรือถนนที่อยู่สูงกว่าน้ำ

4 กรกฎาคม 1973

ขณะที่ข้าพเจ้าขับรถไปตะวันออกบนทางด่วน ไอเซนโอเว่อร์ อีกครั้งที่ได้เห็นคลื่นระลอกแผ่นดินไหวตามมา รถยนต์ต่าง ๆ ก็ชนกันกองสุมเป็นกอง ส่วนทางออกลาดชันต่าง ๆ ไม่พังลงมาก็ถูกปิด สะพานต่าง ๆ ก็พังลงทุกที่ มันเป็นวันที่อบอุ่นและคนขับรถก็บีบแตร (ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรจากความวุ่นวายนี้ได้) และทันใดนั้นกำแพงน้ำก็ปรากฎในทิศตะวันอก คนบางคนก็ตะลึงแน่นิ่ง แต่ส่วนใหญ่จะรีบวิ่งหนีไปมาหรือหาที่ซ่อน มีชายคนหนึ่งออกจากรถและคุกเข่าอธิษฐาน เขาเป็นคนเดียวที่ฉลาดเพราะเขาจะได้พบกับพระเจ้าเมื่ออธิษฐาน น้ำได้พุ่งโอบล้อมพวกเขาทั้งหมด บ้านต่าง ๆ ถูกบดขยี้จนไม่มีอะไรเหลือในทันที ถนนคอนกรีตและราดยางก็ถูกเลาะออกมา พื้นถนนถูกกวาดหายไปในเวลาสั้น และต่อมาข้าพเจ้าได้เห็นพื้นดิน 10 ถึง 20 ฟุตถูกชะล้างพัดไปในทันที

บริเวณสุสานใกล้ ๆ ข้าพเจ้าเห็นแท่งหินหลุมศพที่เป็นคอนกรีตเลอะสกปรก และโลงศพมีก้อนดินอยู่ภายในก็ถูกพัดลากไปอย่างรวดเร็วโดยแรงของน้ำ และน้ำก็เคลื่อนมาเหนือข้าพเจ้าและภาพที่เห็นก็เปลี่ยนไปอยู่เหนือน้ำ ก็ได้เห็นชายคนที่คุกเข่าอธิษฐาน ลอยขึ้น ๆ ลง ๆ บนผิวน้ำเหมือนจุ๊กค๊อกและไม่เป็นอะไร พระเจ้าได้ช่วยชายผู้นี้ที่อยู่ท่ามกลางการทำลายล้างเพราะเขาวางใจในพระเจ้า

และทันใดนั้นหลังจากแผ่นดินไหวที่น่ากลัวในแถบตะวันตกกลาง ข้าพเจ้าเห็นคณะประกาศกิตติคุณ พวกพระ ผู้อาวุโส และคริสเตียนที่ปฏิเสธคำพยากรณ์ คนเหล่านี้ดูเหมือนคนที่ตายแล้ว ความเข็มแข็งของพวกเขาหายไปสิ้น หลายคนล้มหน้าลงพื้นร้องไห้ขอให้พระเจ้ายกโทษให้พวกเขา

ในช่วงแรกของนิมิต ข้าพเจ้าเป็นผู้สังเกตุที่อยู่ในความตะลึง ยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น แต่วันที่ 4 กรกฎาคม 1973 ความจริงของหายนะในอนาคตนี้ก็ได้มาสัมผัสจิตใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดถึงคนทุกคนที่จะถูกทำลายและข้าพเจ้ากลั่วจนตัวสั่นที่ได้เห็นการ ล้มตายจำนวนมาก ดังนั้นในครั้งแรกนับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ข้าพเจ้าก็ได้เข้าหาพระเจ้าและถามว่า “โอ้ พระบิดา มันจะเกิดขึ้นจริงหรือ? จะหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?” ในชั่วขณะที่อธิษฐานนั้น ข้าพเจ้าก็ได้ถูกพระวิญญาณพระเจ้าพัดมาแตะต้องและได้มองเห็นเมืองชิคาโกทั้ง เมือง และฑูตสวรรค์ของพระเจ้าได้วางมือบนข้าพเจ้า เบื้องล่างที่ข้าพเจ้าเห็นคือมือของพระเจ้าที่ช่วยคนจำนวนมากที่วางลงไปยัง เมืองและทะเลสาป และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสั่งมาพูดว่า “นี่คือสิ่งที่เราจะทำถ้าเด็ก ๆ ของเราหันกลับมาหาเรา”

ต่อมาข้าพเจ้าจำได้ว่าตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ไม่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติใหญ่ใด ๆ ที่เคยเกิดกับมนุษย์โดยปราศจากการเตือนในครั้งแรกจากผู้พยากรณ์ของพระเจ้าเลย และบัดนี้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ข้าพเจ้าได้เห็นชายแก่ผิวสีคนหนึ่งถือระฆัง ในมือกำลังเดินทางไปยังพี่น้องคนผิวดำ สั่นกระดิ่งและเรียกร้องให้ทุกคนกลับใจ ชายแก่ก็ถูกคนด่าแช่งและถ่มน้ำลายใส่ ข้าพเจ้าเห็นเขาร้องไห้เพื่อประชาชนที่จิตใจแข็งกระด้าง และที่แห่งหนึ่งก็มีแก๊งวัยรุ่นอันธพาลก็มาล้อมรอบเขาและตั้งใจจะฆ่าเขา กลุ่มฑูตสวรรค์ก็ปรากฎรอบ ๆ เขาและพวกแก๊งก็หนีไปด้วยความกลัว คนเหล่านั้นไม่สามารถฆ่าเขาได้เพราะเขาได้ทำพันธกิจในการเตือนคน ในเวลานี้ จิตใจข้าพเจ้าก็เป็นเช่นกับเขา แม้พันธกิจที่เขาทำช่างยากเย็น แต่ก็ได้รางวัลตอบแทนคือข้าพเจ้าได้เห็นหลายคนกลับใจจากบาปของตน

แม้ว่าข้าพเจ้าไม่เคยเห็นตัวจริงของเขา แต่ในนิมิตนั้นชายแก่ผิวดำนี้มีจุดเด่นเมื่อปรากฎ เขามีศรีษะเกือบล้านแม้จะมีผมขาวแซมด้านข้างและด้านหลังของศรีษะบ้าง เขามีผิวสีโกโก้ ตาสีน้ำตาล และเต็มด้วยใจดีและความรัก และเขาเป็นตัวแทนสำแดงของพระคริสต์นั่นทำให้เขาเป็นผู้เข็มแข็ง อ่อนโยนและน่าประทับใจ ใบหน้าของเขาน่ารักน่ามอง ตลอดปีของเขาเต็มไปด้วยการอวยพรจากพระคริสต์ เขาสวมเสื้อคลุมสีเทาอ่อน ในมือขวาถือกระดิ่งทองเหลืองและไม้เท้าในมือซ้าย และมีพระคัมภีร์สีดำเล่มเก่า ๆ ผูกติดไว้ด้วยเชือก แม้ว่าเขาจะแก่และเดินช้า แต่เสียงใส ชัดเจน และดัง ข้าพเจ้าได้ยินเขาพูดว่า “มือแห่งพระพิโรธของพระเจ้าจะมายังพวกท่าน จงหันกลับจากความบาปของท่าน และกลับใจก่อนที่การลงโทษของพระเจ้าจะมายังท่านในไม่ช้าและทำลายท่านเนื่อง จากความชั่วร้ายที่ท่านเดินอยู่ ฟังสิ่งนี้ที่มาจากพระเจ้าของท่าน…” และเป็นดังนั้น และจะเป็นต่อไป จนบัดนี้ข้าพเจ้ารู้และเห็นผู้พยากรณ์จำนวนมากกำลังนำการเตือนครั้งสุดท้ายมา บางคนถูกฆ่า บางคนบาดเจ็บ เมื่อคำเตือนได้ส่งออกไป ผู้ใดได้ยินก็เฝ้าระวังคำเตือนนี้

วันที่ 3 และ 4 กรกฎาคม 1973

หลังจากกำแพงน้ำได้เข้ามาท่วมเมืองและกวาดไปสิ้น ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นบางสิ่งดูเหมือนเป็นการไหลของน้ำที่ไม่สิ้นสุดอย่างต่อ เนื่องไปทิศตะวันตก เพราะข้าพเจ้าได้เห็น เซนต์หลุย เป็นหนองน้ำและจมน้ำหมดสิ้นจากกระแสน้ำที่พัดไปทั่ว ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าน้ำนั้นน่าจะเชื่อมต่อกับแม่น้ำมิสซิปซิปปี้ตรงไหนสัก แห่ง และเคลื่อนลงไปทิศใต้ เนื่องจากแม่น้ำมิสซิปซิปปี้เอ่อท่วมล้นตลิ่งอย่างมาก อีกครั้งที่ได้เห็นน้ำทะลักไปทิศใต้หลายวัน ข้าพเจ้าตามดูไม่ทันว่ามันเคลื่อนไปยาวเท่าไรแต่รู้ว่ามันกว้างขึ้น ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นทะเลสาปมิชิแกนทั้งหมดจะเหือดหายไปหมด ห่างไกลออกมาจากเมืองไปยังทิศใต้ข้าพเจ้าเห็นพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำ และไม่ถูกน้ำยกเว้นแผ่นดินไหวทำลาย และหลายปีหลังจากนิมิตครั้งแรกนี้ก็สามารถระบุได้ว่าของชิคาโกแถวชานเมือง ของวูดริจ คือพื้นที่หนึ่งที่จะเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดที่ไม่ถูกน้ำท่วม ข้าพเจ้าเห็นท่อระบายน้ำที่ต่าง ๆ และมีน้ำพัดเหนือท่อและภายในท่อด้วย ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นอาหารกระป๋องจำนวนมากที่ฉลากหลุดออกแต่ไม่เสียหายจมอยู่ ในน้ำและโคลน

ข้าพเจ้ายังได้เห็นศพ ทั้งมนุษย์และสัตว์ลอยน้ำทุกที่ เศษซากศพที่กระจายเป็นชิ้นมีอยู่เต็มในพื้นที่ภัยพิบัติ แต่ยังดีที่ศพเหล่านี้ส่วนมากจะถูกฝังในกระแสของโคลนที่ไหลใต้น้ำ เมื่อน้ำลดลงข้าพเจ้าเห็นหลายศพติดอยู่ตามกิ่งไม้หรือรากของต้นไม้ไปทั่ว พื้นที่ที่พังทลาย น้ำจะลดจริง ๆ หลังจากแผ่นดินไหวแท้จริงผ่านไปแล้วเราจะเห็นจะทะเลโคลนและเกาะแก่งลี้ภัย มากมาย และกลิ่นเหม็นคาวคลุ้งของเนื้อที่เปื่อยย่อย พืชผักที่เปื่อยย่อยสลายและน้ำนิ่งเน่าเหม็น อากาศชื้นแฉะต่าง ๆ ล้วนยากจะทนได้

เกือบในทันทีทันใดหลังจากความเลวร้ายที่สุดของการทำลายล้างผ่านไป ในนิมิตข้าพเจ้าได้เห็นเครื่องบินอเมริกาบินข้ามหัวเราไปทิ้งเสบียงโดยร่ม ชูชีพที่ต่าง ๆ ให้ผู้รอดชีวิตที่ติดค้างอยู่ ต่อมาเครื่องบินก็หยุดบินไม่มาอีก ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม


หลังจากน้ำท่วมได้พื้นที่ต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นผู้รอดชีวิตโผล่ออกมาจากน้ำ บ้างเป็นผู้ใหญ่และเด็กจำนวนมาก มีคนเจ็บและเปลือยกายครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดอยู่รวมกันและอยู่ในอาการช๊อค พวกเขาได้ถูกรับไว้โดยชุมชนคริสเตียนต่าง ๆ และได้เสื้อผ้า การดูแลให้ที่อาศัย ข้าพเจ้าไม่ทราบชัดเจนนักในเวลานั้น แต่วันนี้รู้ว่าชุมชนหรือที่พักพิงเหล่านั้นถูกจัดหามาจากสิ่งต่าง ๆ ที่พังทลาย และจะมีการรวบรวมประชาชนโดยคริสเตียนที่ได้จัดเตรียมล่วงหน้า เมื่อข้าพเจ้าเห็นเด็ก ๆ จำนวนมาก ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แต่แปลกใจว่าเด็กอายุสามหรือสี่ขวบรอดชีวิตจากน้ำได้ อย่างไรแต่ผู้ปกครองนั้นไม่รอด พระเจ้าบอกข้าพเจ้าภายหลังว่า “เพราะพวกเขายังไร้เดียงสา”

ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นคนอื่น ๆ โผล่ออกมาจากกลุ่มผู้รอดชีวิต พวกคนเหล่านั้นที่ต่อมาข้าพเจ้าขอเรียกว่าเป็น “กองโจรปล้นสะดม” พวกคนเหล่านี้หวังจะหาทรัพย์สินที่จะหาได้จากศพต่าง ๆ จะเอาแหวน ทองและเครื่องเพชรพลอยแม้กระทั่งฟันทอง พวกนี้มีอาวุธและจะมายังชุมชนที่รอดชีวิต จะใช้กำลังบังคับ ข่มขืน ทรมานและฆ่าคนอื่นตามที่พวกเขาต้องการ ไม่มีรัฐบาลหรือตำรวจที่จะเข้ามาดูแล พวกคนเหล่านี้จะทำตามสัญชาติดิบของตน ข้าพเจ้านึกถึงทันทีและตอนนี้ว่าคริสเตียนเหล่านั้นจำเป็นต้องตระเตรียมใน การป้องกันตนเอง 


จากที่ข้าพเจ้ารู้นั้นดูเหมือนจะบอกให้รู้ว่าเกือบหนึ่งปีก่อนที่กองทัพจะเข้ามา และเมื่อพวกทหารมาถึงก็พบเห็นประชาชนมีหนวดเครารุงรัง อ่อนล้า สกปรก หิวโซและเสื้อผ้ารุ่งริ่ง พวกกองทัพจะเข้ามาปลดอาวุธพวกโจรโดยเร็วและฆ่าพวกนี้ทั้งหมดทันทีเมื่อเห็น และก็เคลื่อนกำลังต่อไป ลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้ข้าพเจ้างงตอนที่ได้นิมิต ข้าพเข้าไม่เข้าใจว่าทำไมกองทัพอเมริกาถึงเดินทางด้วยเท้า ทำไมพวกเขาถึงเดือดดาลนัก ทำไมพวกเขาถึงยิงพวกโจรทิ้งในทันทีโดยไม่ไต่สวนทางกฎหมาย

ข้าพเจ้ามองอยู่เหนือชิคาโกบริเวณพื้นที่ที่น้ำลดแล้วและมีโคลนแห้ง และก็ประหลาดใจคือทะเลสาปมิชิแกนหายไป มีเพียงแอ่งทะเลสาปเนินเขาแห่งหนึ่งเหลืออยู่ให้มองเห็นได้ โคลนแห้งเกาะอยู่ทุกที่กระจายไปทั่วอย่างกว้างขวางของพื้น ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองใหญ่ กระดูกสีขาว ๆ ของศพคนที่ตายมานานโผล่ในหลาย ๆ ที่ ความสูญเสียของคนที่ตายนั้นมากเกินกว่าจะประมาณได้ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีหญ้า มีเพียงความตายเงียบสงัด ไปทางทิศเหนือข้าพเจ้าเห็นซากปรักหักพังของอาคาร ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่ว่าที่ไหนก็ถูกทิ้งร้างด้วยโครงซากของบ้านและตึก ที่พังทลาย

ข้าพเจ้ามาถึงข้อสรุปเกี่ยวกับหายนะในอนาคตนี้ว่า จากสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับอนุญาติให้เห็นนี้ในหลาย ๆ วันของเดือนกรกฎาคม 1973 วันแห่งแผ่นดินไหวนี้จะเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆอากาศอบอุ่น แผ่นดินไหวจะโจมตีในช่วงสาย ๆ ใกล้ ๆ เที่ยง ข้าพเจ้าแน่ใจว่ามันจะเกิดในเดือนของฤดูร้อน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าจำไม่ลืมคือเราควรจะสังเกตุดูพวกนก เมื่อเราเห็นมันอพยพไปนั้นแผ่นดินไหวก็ใกล้จะเกิดแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกว่าหายนะนี้จะโจมตีในช่วงปลายสัปดาห์แต่ก็ยังไม่แน่ใจใน เรื่องนี้ พระเจ้าไม่ได้บอกวันเวลาที่แน่นอนตายตัวแก่ข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้ารู้ว่ามันใกล้แล้วแต่ก็ยังไม่ถึงเวลา ข้าพเจ้าสังเกตุได้ว่าหลังจากน้ำท่วมและพื้นแผ่นดินแห้งแล้ว พื้นที่ทั้งหมดจะปกคลุมไปด้วยความตายอันเยือกเย็น ไม่มีลมพัด ความร้อนและกลิ่นเหม็นคลุ้งทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นความเศร้าสลด มีผู้รอดชีวิตเล็กน้อยที่ซ่อนตัวในห้องเพื่อหนีจากกลิ่นเหม็นคลุ้ง ความเงียบจะน่ากลัวอย่างยิ่ง ดูเหมือนราวกับว่าทั้งโลกนี้หยุดหายใจทีเดียว

ในวันที่ 5 กรกฎาคม 1973 ข้าพเจ้าไม่สามารถทนรับนิมิตได้อีกและร้องต่อพระเจ้าว่าเอามันไปจากข้าพเจ้า และพระเจ้าก็ได้นำมันไปจากข้าพเจ้า ต่อมาข้าพเจ้าก็กลับมาหาพระเจ้าอีกและถามว่าเมื่อไรสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ข้าพเจ้าได้รับนิมิตของเลข 17 โดยตัวเลขเกิดมาจากสิ่งที่ดูเหมือนปุยเมฆสีขาว ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามันจะหมายถึง 17 วัน หรือสัปดาห์ หรือปี หรือศตวรรษ ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ นับแต่ปี 1973 ผ่านมาพระเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ให้เรามีความเข้าใจที่ลึกขึ้นเกี่ยวกับหายนะโดยตลอด วันนี้เรารู้ว่าชิคาโกจะเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวและมีรัศมีทำลายล้าง ประมาณ 300 ไมล์ เราเชื่อว่ามันจะเป็นแผ่นดินไหวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เมืองต่าง ๆ จะพินาศราบเรียบโดยแผ่นดินไหวนี้ ทั้งชิคาโก อิลลินอยส์ เซนต์เปาโล มินนิโซต้า มิลวากี้ วิสคอนซิน เซนต์หลุย มิสซูรี่ หลุยวัลลี่ เคนตั๊กกี้ อินเดียนาโปลิส อินเดียน่า ดีทรอยส์ มิชิแกน โทเลโด เคลบแลนด์ โคลัมบัส และซินซิเนติ โอไฮโอ และเมืองแคนซัส มิสซูรี่ ออนตาริโอตอนเหนือ แคนาดาและบางส่วนของคิวเบกตอนใต้ แคนาดาจะถูกทำลายโดยน้ำจากทะเลสาปใหญ่ในขณะที่มันไหลย้อนกลับเหมือนที่มัน เป็นกำแพงน้ำกวาดชิคาโกและพื้นที่ต่าง ๆ พระเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สำแดงว่าเสียงของการแตกร้าวของพื้นดินหรือ รอยเลื่อนจะรุนแรงจนทำให้กระจกหน้าต่างที่อยู่ใน เดส มอยเนส ไอโอวา ที่ห่างจากชิคาโก 316 ไมล์แตกละเอียด เมื่อแผ่นดินไหวโจมตีชิคาโกประชาชนจะถูกน๊อคล้มลงกับพื้น ในดีทรอยส์ต้นไม้จะถูกขุดออกมาจากพื้นดินใน เซนต์หลุย มิสซูรี่ ที่ห่างจากชิคาโก 269 ไมล์ เสียงแผ่นดินแตกนี้จะได้ยินไปไกลถึง เดนเวอร์ โคโลราโด จะว่าไปแล้วทั้งทวีปจะถูกเขย่าทั้งหมดก็ได้



หมายเหตุ : ขอเน้นย้ำนะครับว่าทั้งหมดคือคำพยากรณ์เท่านั้น และผมไม่มีความประสงค์หรือสร้างความตื่นตระหนกด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้นขอให้เวลาและตัวของท่านผู้อ่านเองเป็นผู้ตัดสินครับ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น