โพสต์นี้จะเป็นการคาดการณ์ราคาทองคำในระยะกลางและระยะยาวครับ แต่ในระยะสั้นถึงปลายปี 2009 หลายๆ สำนักฟันธงอยู่ที่ $1,200-$1,250 ครับ ข้อมูลชุดนี้ที่ผมรวบรวมและใช้จะเป็นในทางลึกจากนักวิเคราะห์ของอังกฤษกับอเมริกา เพราะเค้าแทบจะเป็นตัวกำหนดตลาดหรือ Market Maker ครับ (เป็นทั้งตัวปั่น ตัวทุบ ตัวทำราคา)
ปัจจัยราคาทองตอนนี้ก็เป็นอย่างที่คุณต๊ะให้ข้อมูลมาคือ
1.การอ่อนตัวของดอลล่าอย่างต่อเนื่อง ( เรื่องนี้ให้ดูแนวทางของโซรอส ที่โพสต์ไปตามนั้นเลยครับ รวมทั้งการก่อนหนี้ในระดับสูงเกินเพดานของรัฐบาลสหรัฐ จนจีนโวยแล้วโวยอีก )
2.การเข้าซื้อของกลุ่มธนาคารกลางเพื่อถ่ายเทดอลล่า ด้วยเหตุผลในข้อ 1 ( กรณีอินเดีย และชาติต่างๆ ที่ไล่เปิดตัว ) กำลังซื้อตรงนี้มากมายมหาศาล จากปริมาณเงินดอลล่าหรือกระดาษที่ท่วมโลกอยู่ตอนนี้ครับ แล้วถ้าโซรอสเปิดออกมาอย่างนั้นเป็นการส่งสัญญาณว่าต่อไปนี้ทั้งอังกฤษและอเมริกาอาจจะไม่ทุบทองแล้ว แล้วกลับต้องมาซื้อเข้าอีกต่างหาก เพราะดอลล่าต้องเสื่อมค่าและล้มลงในที่สุด เค้าคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้ว นี่คือ "โอกาสทอง (ทองจริงๆ)ในรอบ 40 ปีครับ" เพราะ 40 ปีที่ผ่านมาเค้ากดมันไว้ตลอดด้วยการเททองออกขายอย่างต่อเนื่อและยาวนานแล้วอีกสารพัดวิธีที่เค้าจะทำได้
แต่จะมีอีกช่วงที่ต้องดูคือช่วงปิดสถานะสัญญา Gold Option ปลายเดือนธันวา ที่น่าจะมีการทำราคาหรือเล่นกลกับดอลล่าเหมือนปลายเดือนตุลาที่ผ่านมา จะขึ้นหรือลงต้องคอยตามข้อมูลที่ออกมาครับ แต่ปริมาณการทำธุระกรรมตรงนี้น่าจะหาได้ว่าเป็นฝั่ง Long หรือ Short ในปริมาณเท่าไหร่ครับ
3.การปรับราคาตามสภาวะเงินเฟ้อโดยรวมของโลก ( การคงมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของ G20, การปั๊มเงินและการคงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25% ของ FED )
ทั้ง 3 ข้อเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ผลักดันราคาทองคำอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ย้งมีปัจจัยอีกมากครับที่ผลักดันราคาทองเช่นการเข้ามาไล่เก็บของกลุ่มเฮดฟันด์ต่างๆ กว่า 10,000 กองทุน ตรงนี้แรงแต่เงียบ เพราะคนที่มาไล่ซื้อเค้าเสียงดังไม่ได้ครับ เพราะคนที่อยากจะขายต้องโก่งราคาแน่ ถ้ารู้ว่ามีการไล่ซื้ออยู่ ก็เป็นไปตามกลไกของการซื้อขายครับ
แล้วอย่างที่เห็น คนรอซื้อเช่น รัสเซีย จีน และอีกสารพัด ก็หามุขแปลกๆมาเล่นทุบราคากันผ่านสื่อครับ เพื่อต้องการเข้าซื้อนั่นเอง ตรงนี้ต้องอ่านให้ออกนะครับ ถ้าทุบมาต้องหาจังหวะ "เก็บ" ครับ
ราคาทองผมจะแบ่งเป็น 4 เฟสครับ
เฟสที่ 1 ผ่านไปแล้วครับ จากปี 2001 จาก $270 ขึ้นไปจนถึง $1,000 ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เห็นครับ ก็คือขึ้นมาประมาณ 265% ให้สังเกตุว่าไม่มีอะไรมาก แล้วไม่มีการล้มใหญ่ของประเทศไหนๆ ครับ แต่ตัวเลขทีเป็นการยืนยัน คือ 265% ครับ
เฟสที่ 2 ก็คือตอนนี้ จากราคาปัจจุบัน จะขึ้นไปจนถึง $2,000-$2500 สถานการณ์โดยรวมของโลกทั้งร้อนแรงทั้งเลวร้าย การล้มในรอบที่ผ่านมาของสหรัฐก่อให้เกิดอะไรขึ้นมากมายครับ โดยเฉพาะการปั๊มเงินซึ่งเป็นอัตราเร่งที่สูงมากต่อการเสื่อมค่าของดอลล่า ราคาในเฟสที่ 2 นี้อาจจะได้เห็นปลายปี 2010 คือปีหน้าหรือไม่ก็ไตรมาสแรกของปี 2011 ครับ แต่เมื่อราคาถึงจุดนั้นแล้วจะเกิด Panic Buy คือสภาวะ "ตื่นทอง" พร้อมๆ กันทั่วโลก ทั้งธนาคารกลาง กองทุน เฮดฟันด์ สารพัดผู้เล่นในตลาดคงเปิดตัวออกมาหมด แย่งกันเข้าซื้อ ยิ่งทำให้เกิด Panic Over Panic ครับ หนักเข้าไปอีกทีนี้ จะนำไปสู่
เฟสที่ 3 ก็คือราคาจะขี้นไปจนถึง $3,000-$3,600 ปลายปี 2011 จากผลการของการเกิด Panic Over Panic ครับ
เฟสที่ 4 ก็คือราคาจะขี้นไปจนถึง $5,600 ปลายปี 2012 แล้วราคาทองจะเกิดการ Blow Out คือระเบิดอย่างรุนแรงจนกว่าคำว่า US ดอลล่าจะหายไปจากตลาดนั่นแหละครับ
ปัจจัยราคาทองตอนนี้ก็เป็นอย่างที่คุณต๊ะให้ข้อมูลมาคือ
1.การอ่อนตัวของดอลล่าอย่างต่อเนื่อง ( เรื่องนี้ให้ดูแนวทางของโซรอส ที่โพสต์ไปตามนั้นเลยครับ รวมทั้งการก่อนหนี้ในระดับสูงเกินเพดานของรัฐบาลสหรัฐ จนจีนโวยแล้วโวยอีก )
2.การเข้าซื้อของกลุ่มธนาคารกลางเพื่อถ่ายเทดอลล่า ด้วยเหตุผลในข้อ 1 ( กรณีอินเดีย และชาติต่างๆ ที่ไล่เปิดตัว ) กำลังซื้อตรงนี้มากมายมหาศาล จากปริมาณเงินดอลล่าหรือกระดาษที่ท่วมโลกอยู่ตอนนี้ครับ แล้วถ้าโซรอสเปิดออกมาอย่างนั้นเป็นการส่งสัญญาณว่าต่อไปนี้ทั้งอังกฤษและอเมริกาอาจจะไม่ทุบทองแล้ว แล้วกลับต้องมาซื้อเข้าอีกต่างหาก เพราะดอลล่าต้องเสื่อมค่าและล้มลงในที่สุด เค้าคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้ว นี่คือ "โอกาสทอง (ทองจริงๆ)ในรอบ 40 ปีครับ" เพราะ 40 ปีที่ผ่านมาเค้ากดมันไว้ตลอดด้วยการเททองออกขายอย่างต่อเนื่อและยาวนานแล้วอีกสารพัดวิธีที่เค้าจะทำได้
แต่จะมีอีกช่วงที่ต้องดูคือช่วงปิดสถานะสัญญา Gold Option ปลายเดือนธันวา ที่น่าจะมีการทำราคาหรือเล่นกลกับดอลล่าเหมือนปลายเดือนตุลาที่ผ่านมา จะขึ้นหรือลงต้องคอยตามข้อมูลที่ออกมาครับ แต่ปริมาณการทำธุระกรรมตรงนี้น่าจะหาได้ว่าเป็นฝั่ง Long หรือ Short ในปริมาณเท่าไหร่ครับ
3.การปรับราคาตามสภาวะเงินเฟ้อโดยรวมของโลก ( การคงมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของ G20, การปั๊มเงินและการคงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25% ของ FED )
ทั้ง 3 ข้อเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ผลักดันราคาทองคำอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ย้งมีปัจจัยอีกมากครับที่ผลักดันราคาทองเช่นการเข้ามาไล่เก็บของกลุ่มเฮดฟันด์ต่างๆ กว่า 10,000 กองทุน ตรงนี้แรงแต่เงียบ เพราะคนที่มาไล่ซื้อเค้าเสียงดังไม่ได้ครับ เพราะคนที่อยากจะขายต้องโก่งราคาแน่ ถ้ารู้ว่ามีการไล่ซื้ออยู่ ก็เป็นไปตามกลไกของการซื้อขายครับ
แล้วอย่างที่เห็น คนรอซื้อเช่น รัสเซีย จีน และอีกสารพัด ก็หามุขแปลกๆมาเล่นทุบราคากันผ่านสื่อครับ เพื่อต้องการเข้าซื้อนั่นเอง ตรงนี้ต้องอ่านให้ออกนะครับ ถ้าทุบมาต้องหาจังหวะ "เก็บ" ครับ
ราคาทองผมจะแบ่งเป็น 4 เฟสครับ
เฟสที่ 1 ผ่านไปแล้วครับ จากปี 2001 จาก $270 ขึ้นไปจนถึง $1,000 ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เห็นครับ ก็คือขึ้นมาประมาณ 265% ให้สังเกตุว่าไม่มีอะไรมาก แล้วไม่มีการล้มใหญ่ของประเทศไหนๆ ครับ แต่ตัวเลขทีเป็นการยืนยัน คือ 265% ครับ
เฟสที่ 2 ก็คือตอนนี้ จากราคาปัจจุบัน จะขึ้นไปจนถึง $2,000-$2500 สถานการณ์โดยรวมของโลกทั้งร้อนแรงทั้งเลวร้าย การล้มในรอบที่ผ่านมาของสหรัฐก่อให้เกิดอะไรขึ้นมากมายครับ โดยเฉพาะการปั๊มเงินซึ่งเป็นอัตราเร่งที่สูงมากต่อการเสื่อมค่าของดอลล่า ราคาในเฟสที่ 2 นี้อาจจะได้เห็นปลายปี 2010 คือปีหน้าหรือไม่ก็ไตรมาสแรกของปี 2011 ครับ แต่เมื่อราคาถึงจุดนั้นแล้วจะเกิด Panic Buy คือสภาวะ "ตื่นทอง" พร้อมๆ กันทั่วโลก ทั้งธนาคารกลาง กองทุน เฮดฟันด์ สารพัดผู้เล่นในตลาดคงเปิดตัวออกมาหมด แย่งกันเข้าซื้อ ยิ่งทำให้เกิด Panic Over Panic ครับ หนักเข้าไปอีกทีนี้ จะนำไปสู่
เฟสที่ 3 ก็คือราคาจะขี้นไปจนถึง $3,000-$3,600 ปลายปี 2011 จากผลการของการเกิด Panic Over Panic ครับ
เฟสที่ 4 ก็คือราคาจะขี้นไปจนถึง $5,600 ปลายปี 2012 แล้วราคาทองจะเกิดการ Blow Out คือระเบิดอย่างรุนแรงจนกว่าคำว่า US ดอลล่าจะหายไปจากตลาดนั่นแหละครับ
อะไรคือเหตุผลสนับสนุน.......ปัจจุบันทองคำทั้งหมดที่อยู่บนพื้นโลกคือขุดขึ้นมาแล้วมีปริมาณทั้งสิ้น 150,100 ตัน คิดเป็นมูลค่า $3 Trillion ( $3,000,000,0000,000, ) เท่านั้นครับ แต่ในขณะที่ปริมาณกระดาษทั้งเงินดอลล่ารวมทั้ง Derivatives หรือสัญญากระดาษทั้งโลกมีมูลค่ารวมถึง 600 Trillion ครับ คือเป็นอัตราส่วน 1 : 220 ซึ่งถ้าจะเคาะเป็นราคาทองออกมาจะต้องอยู่ที่ $13,200 เข้าไปแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ระบบการเงินโลกในขณะนี้จะรับความจริงข้อนี้ได้ครับ แต่สหรัฐและอังกฤษเค้าก็ทำกันไปแล้วคือทั้งปั๊มเงินและปั่นกระดาษ ( Derivatives ) ไงครับ
ซึ่งหลังจากที่ไปถึงจุดนึงที่เงินดอลล่าและระบบกระดาษไปไม่ไหว(น่าจะประมาณปี 2012) แล้วมีการล้างระบบกระดาษพวกนี้ออกไป สัดส่วนตรงนี้น่าจะลงมาประมาณ 1:100 ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำปรับตามสภาพความเป็นจริงที่ทุกฝ่ายรับได้คือประมาณ $5,000-$6,000 ต่อออนซ์ครับ
เชื่อไม๊ครับว่าครั้งนึงตอนที่ระบบเศรษฐกิจโลกยังยืนอยู่บนความเป็นจริงคือสหรัฐยังผูกอยู่กับระบบทอง และจนวันสุดท้ายที่เค้าออกจากระบบทองคำ อัตราส่วนตรงนี้หรือ ทอง : กระดาษ อยู่ที่เพียง 1 : 10 เท่านั้น แต่วันนี้ 1 : 220 เข้าไปแล้วครับ จำได้ไม๊ครับที่ผมเขียนไว้นานแล้วว่าคุณจะได้เห็น New High เหนือ New High ทั้งวันและทุกวัน ตอนนี้คงจะได้เวลาแล้วล่ะครับ
ซึ่งหลังจากที่ไปถึงจุดนึงที่เงินดอลล่าและระบบกระดาษไปไม่ไหว(น่าจะประมาณปี 2012) แล้วมีการล้างระบบกระดาษพวกนี้ออกไป สัดส่วนตรงนี้น่าจะลงมาประมาณ 1:100 ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำปรับตามสภาพความเป็นจริงที่ทุกฝ่ายรับได้คือประมาณ $5,000-$6,000 ต่อออนซ์ครับ
เชื่อไม๊ครับว่าครั้งนึงตอนที่ระบบเศรษฐกิจโลกยังยืนอยู่บนความเป็นจริงคือสหรัฐยังผูกอยู่กับระบบทอง และจนวันสุดท้ายที่เค้าออกจากระบบทองคำ อัตราส่วนตรงนี้หรือ ทอง : กระดาษ อยู่ที่เพียง 1 : 10 เท่านั้น แต่วันนี้ 1 : 220 เข้าไปแล้วครับ จำได้ไม๊ครับที่ผมเขียนไว้นานแล้วว่าคุณจะได้เห็น New High เหนือ New High ทั้งวันและทุกวัน ตอนนี้คงจะได้เวลาแล้วล่ะครับ
แล้วทำไมเขาถึงต้องกดราคาทองเอาไว้นานตั้ง 40 ปีล่ะครับ หรือเพื่อให้เงินตัวเองมีค่าสูงกว่าความเป็นจริง?? พอจะอธิบายเป็นวิทยาทานหน่อยได้รึเปล่าครับ
ตอบลบหรือเพื่อให้เงินตัวเองมีค่าสูงกว่าความเป็นจริง??
ตอบลบคำตอบอยู่ในคำถามแล้วครับ อีกนัยนึงก็คือทำเพื่อ "สร้างและรักษา" กระดาษที่เค้าพิมพ์ออกมาที่เรียกว่าเงินดอลล่าไงครับ ถ้าทองแพงขึ้นเรื่อยๆ ก็คือดอลล่าเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ แล้วจะไปซื้ออย่างอื่นเช่นนำมัน หรือน้ำมันหมู เค้ายังไม่ขายให้เลยครับ 55555 เพราะทองเป็นทุนสำรองที่ดุลกับเงินของทุกชาติในโลกไงครับ ทองคือเงินจริงๆ ครับ
เทคนิคก็คือ ทำยังไงจะปั๊มกระดาษแบบไม่อั้นด้วยแล้วไม่ให้มันเสื่อมค่าด้วย เอางี้ ทุบและกดทองครับ แล้วเค้าก็บอกว่าดูสิทองราคาแค่นี้เองไม่กี่ร้อย เอ้าเอาดอลล่าไปก็เหมือนกันแหละ แล้วมันก็กลายมาเป็นวันนี้ไงครับ ท่วมโลกเลยยยยยย เสร็จเค้าล่ะ
อีกนิดครับ ถ้าเข้าใจว่าทองคำทำงานยังไงจะเห็นภาพชัดเลยครับ ลองกลับไปดูโพสต์ของเดือนกรกฏาคม เรื่องปัจจัยพื้นฐานเนื้อๆ ของทองคำ 1-2 ครับ
ตอบลบขอถามคุณ Jimmy หร่อยครับว่า นอกจากทองแล้วเราควรเก็บแร่ธาตุที่มีค่า อย่างอื่นด้วยหรือป่าวครับ เช่น เงิน ทองแดง etc. แล้วเค้าซื้อขายกันที่ไหน อย่างไรครับ
ตอบลบอ้าวววว แสดงว่าอ่านเกมส์ออกแล้ว :) ถ้าตอนนี้ผมยังอยู่ในอเมริกาผมจะไปเก็บเงินแท่งครับ พอทองสูงมากๆๆ ก็จะไล่ลงไปตัวต่อไปคือแร่เงิน แล้วก็ลงไปเรื่อยๆครับ commodity ต่างๆ
ตอบลบเมื่อวานแอบไปเชคตลาดแร่เงินมาแล้วครับ กะว่าใส่ก่อนได้เปรียบ แต่กลายเป็นว่าเมืองไทยไม่ค่อยเล่นกัน เงินแท่งจะต้องไปที่ย่านบ้านหม้อครับ แต่ถ้าเป็นเม็ดมีทั่วไป เค้าจะเอามาทำเครื่องประดับและอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ผมก็ตามอยู่นะเรื่องเงิน เพราะพอทองถึงจุดนึงถ้าเล่นแร่ธาตุมันก็ต้องเงินอยู่ดี สถานการณ์อาจเปลี่ยนไปครับ ตลาดเหล่านี้บ้านเรายังไม่เป็นสากลมาก แต่ลองดูเรื่องส่งออกครับ ตุนแล้วส่งออก ลองอ่านกราฟราคาแร่เงินสิครับ วิ่งขนานกับทองแต่ในอัตราเร่งที่ต่ำกว่าเท่านั้นเอง แต่คาดกันว่าน่าจะเข้า $50 ตอนนี้เพิ่ง 17.56 แต่งานหนักกว่าทองครับ เพราะปริมาณมหาศาลเลย
ขอบคุณครับ ผมเพียงเห็นว่าถ้าราคาทองสูงขึ้นไปขนาดนั่น
ตอบลบน่าหาตัวสำรองไว้บ้างครับ
คุณ Jimmy ช่วยขยายความท่อนนี้หน่อยสิครับ
"วิ่งขนานกับทองแต่ในอัตราเร่งที่ต่ำกว่าเท่านั้นเอง แต่คาดกันว่าน่าจะเข้า $50 ตอนนี้เพิ่ง 17.56 แต่งานหนักกว่าทองครับ เพราะปริมาณมหาศาลเลย"
ผมว่าเงินน่าสนใจมากครับ แต่ไม่รู้ว่าในปัจจุบัน และอนาคต มีความต้องการในตลาดอุตสาหกรรม และเครื่องประดับ ประมาณกี่% เมื่อเที่ยบกับทอง ขอบคุณครับ
คือวันนี้ถ้าทองขึ้น เงินก็ขึ้นครับ เพราะเป็นผลสะท้อนของดอลล่าเหมือนกัน แต่วันนี้ทองทำ New High ไปแล้วไปอีก แต่เงินยังครับ แต่ในบางช่วงเงินก็วิ่งแรงกว่าทอง ถ้าเราสังเกตุนะครับ เงินในระดับโลกยังมีการกดราคาอยู่ในตลาดหลักๆ คือนอกบ้านเราเค้าเล่นเงินไม่ต่างกับทองครับ ต้องอ่านตรงนี้ให้ขาดก่อน
ตอบลบตั้งแต่สมัยสร้างโลกมาทั้งทองและเงินก็คือเงินนั่นแหละครับหลักการเดียวกัน ที่ผมบอกว่างานหนักกว่าคือ เงินมันกินที่มากครับ สมมุติทอง 1 แท่ง 10 บาท ไม่รู้ได้เงินกี่แท่งเข้าไปแล้ว ถ้าลองเทียบตอนนี้ $1,115:$17.56 ที่น้ำหนัก 1 ออนซ์เท่ากันครับ เป็นอีกทางเลือกนึงครับ ต้องคอยดูกันไป ให้สังเกตุว่าเงินตอนนี้ยังไม่วิ่งครับ แต่พอทองไปไกล เงินน่าจะตามไปครับ ในสภาวะที่หาทองไม่ได้หรือไม่ทันแล้ว ที่เค้าวิเคราะห์น่าจะเห็นเงิน $50/ออนซ์ ครับ
ขอยืนยัน ข้อมูลตัวเลขของคุณ จิมมี่ ...ด้วยคลิปนี้ครับ
ตอบลบhttp://www.youtube.com/watch?v=ckFfzoplC-I
คนที่แต่งหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เอามานำเสนอครับ ว่าราคาทองที่แท้จริงในตอนนี้ ควรอยู่ที่ 15,000$/oz ทำไม ? เหตุผลที่คุณจิมมี่ให้ กับในคลิปนี้สอดคล้องกันครับ
อย่างนึงก็คือเรื่องมันเกิดที่อเมริกาครับ ทำกันเองที่อเมริกา เพราะฉะนั้นเค้ารู้ว่ามันคืออะไรและจะเกิดอะไรขึ้นกับทอง แต่บ้านเราสิครับจะมีซักกี่คนที่่เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ณ วันนี้เลยขายกันเกลี้ยงแล้วไงครับ ไม่กล้าซื้อคืนด้วย เพราะคิดว่าราคาที่เค้าเห็นมันคือสุดๆแล้ว เลยสะท้อนออกมาเป็นยอดขายหน้าร้านที่คุณผิงบอกมานั่นแหละครับ ตอนนี้เหลือแต่ใจถึงๆ ทั้งนั้นครับ ที่กล้าเข้าซื้อทั้งที่ไม่มีข้อมูลเพื่อขายในราคาที่สูงกว่า นับถือจริงๆ
ตอบลบถ้าเป็นเหรียญเงิน จะคล่องตัวในการซื้อขาย มากกว่า เงินแท่ง ไหมคะ หาซื้อเหรียญเงินจากนอกเมืองไทย ตอนนี้ยังหาได้อยู่ แต่ห่วงว่า เวลาปล่อยออกขายในเมืองไทย จะทำได้ที่ไหนบ้าง ที่ย่านบ้านหม้อ รับซื้อ รับขาย เหรีญเงิน บ้างไหมคะ รบกวนถามคุณจิมมี่ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ3am
ในเมืองไทยยังหาแหล่งซื้อเงินแท่งยังไม่ได้เลยครับถ้าท่านใดมีข้อมูลรบกวนช่วยpost บอกกันด้วยนะครับ
ตอบลบฝากคนซื้อมาจาก USA สิครับ
ตอบลบจากนั้นก็เอามาเก็บไว้กับเราก่อนที่เมืองไทย
พอราคามันพุ่งกระฉูดก็ขนกลับไปขายที่ USA เหมือนเดิม
ถ้าราคาขึ้นเยอะจริง ๆ และลงทุนเยอะพอสมควร กำไรที่ได้น่าจะ cover ค่าตั๋วเครื่องบิน
นี่ผมกะจะฝากน้องสาวซื้อ เงินแท่งจาก USA เหมือนกันครับ
ขนเงินแท่ง ระหว่าง USA กับ เมืองไทย ยังไงดีคะ
ตอบลบโหลดขึ้นเครื่องบิน เฉยๆ เลย เหรอคะ
3am