ประเด็นร้อนๆ วันนี้จะเป็นกรณีพิเศษครับ คือผมจะ Update และเปิดเผยข้อมูลเชิงลึก ( Insider ) ที่ผมได้รับมา จะเป็นกรอบเวลาหรือ Time Frame ของเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร ของสหรัฐว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในโพสต์เก่าๆ ผมให้กำหนดเวลาไว้อยู่ที่ 2 ปีครับ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่เป็นผลลบกับกลุ่ม NWO ทำให้เค้าต้องปรับแผนและเร่งกำหนดการเิดิมเข้ามาอยู่ที่ปี 2010 ซะเป็นส่วนใหญ่ครับ
ข้อมูลชุดนี้เปิดเผยโดยประธานธนาคารแห่งหนึ่งในรัฐจอร์เจียครับ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าื่เชื่อถือได้ชุดนึง และมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ จากสาเหตุที่การฉีดวัคซีนไม่เข้าเป้า การเผยแพร่ข่าวสารทางอินเตอร์เนตซึ่้งทำให้ข้อมูลถูกเปิดเผยในวงกว้าง มีคนรู้ทันมากขึ้น และการยื่นเสนอกฏหมายเพื่อขอตรวจสอบ FED หรือ HR1207 ทำให้กลุ่ม NWO ต้องปรับกรอบเวลาและแผนการณ์อยู่ตลอด และนี่เป็น Update ล่าสุดครับ.......
1 มกราคม 2010 ธนาคารและสถาบันการเงินทั้งหมดของสหรัฐจะต้อง ปรับเกณฑ์การประเมินมูลค่าทรัพย์สินให้เป็นไปตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน หรือ Mark to Market ซึ่งตรงนี้จะเป็นการให้ธนาคาต่างๆ สะท้อนสถานะภาพงบดุลย์ ณ ปัจจุบันออกมา รวมทั้งหนี้เน่า หรือ Toxic Assets ที่นั่งทับไว้ทั้งหมดออกมา จะเกิดอะไรตามมาคงไม่ต้องบอกนะครับ ( ลองกลับไปดูในเกมส์ไพ่อีลูมีนาติครับ อยู่ในนั้นแล้ว รูปปลา 2 ตัวครับ )
1 มกราคาม 2010 ธนาคารและสถาบันการเงินทั้งหมดของสหรัฐที่รัีบเงินช่วยเหลือ ( Bailed Out or Tarp Money ) จะต้องสรุปตัวเลขให้กับ FED ว่า จะคืนเงินเข้ากองทุน Tarp Fund ได้เท่าไหร่ และจำนวนธนาคารที่มีปัญหาหนี้ ณ ปัจจุบัน มี 552 ธนาคารที่กำลังประสบปัญหา แต่มีอีก 2,035 ธนาคาที่กำลังเข้าสู่สภาะล้มละลายครับ ตัวเลขเปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นจนถึงปลายปี 2010 อาจจะมีธนาคาร 2,500-3,000 แห่งที่จะต้องประสบภาวะล้มละลาย แล้วถ้าจะอุ้มธนาคารในกลุ่มนี้ทั้งหมด จะต้องใช้เงินถึง 800 Billion- 1 Trillion ครับ
ในทางลึกกระทรวงการคลังสหรัฐ "แอบ" ให้เงินช่วยเหลือด FDIC ไปแล้วกว่า 80 Billion ครับ
แล้วกระทรวงการคลังอาจจะต้องให้ FDIC ประกาศการล้มละลายของกองทุน ในช่วงเดืิอนกันยายนหรือก่อนสิ้นปี 2010 แล้วหลังจากนั้นคือเงินฝากทั้งหมดจะไม่มีการค้ำประกันอีกต่อไปครับ
มิถุนายน ปี 2010 FED จะต้องดูดเงินหรือสภาพคล่องออกจากระบบถึง 1.5 Trillion ครับ เพื่อป้องกันการเิกิด Hyper Inflation หรือสภาวะเงินเฟ้อรุนแรง แต่ถ้าทำก็จะเป็นการล้มระบบเศรษฐกิจโดยรวมลงอยู่ดี ซึ่งเป็นผลจากการสูบเงินออกจากระบบครับ ต้องรอดูกันครับว่าเค้าจะล้มเศรษฐกิจหรือปล่อยให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น
FED มีคำสั่งลงไปถึงนายธนาคารและผู้บริหารระดับสูง ให้เตรียมพร้อมรับเงินสกุลใหม่ที่จะมาแทนเงินดอลล่า ส่วนดอลล่าจะมีการลดค่าลง "อย่างเป็นทางการ" ภายในสิ้นปี 2010 แล้วอัตราส่วนคือ 3 ดอลล่าเก่า : 1 ดอลล่าใหม่ครับ ( ตัวเลขนี้ยังไม่เป็นทางการครับ )
กิจการภาคค้าส่งและค้าปลีกขนาดยักษ์หรือ Commercial Real Estate จะเกิดการล้มขนานใหญ่หรือฟองสบู่แตกในปี 2010 นี้่เช่นกัน จากการล้มนำไปแล้วของ CIT หรือผู้ให้กู้รายใหญ่อันดับต้นๆ ของสหรัฐครับ
จะเกิดการเบี้ยวหนี้ ( Default ) จำนวนมหาศาลในหลายๆ ภาคส่วนครับ รวมทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรก็จะอยู่ในแดนอันตรายด้วยเช่นกัน
มีการประมาณว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐน่่าจะมีราคาเฉลี่ยลดลงอีก 45% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าครับ
และหนังเรื่องนี้กำลังจะออกฉายครับ สร้างโดย Michael Rupert ซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น และกำัลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้ หนังเรื่องนี้ความยาว 85 นาที มีชื่อเรื่องว่า "COLLAPSE" ครับ ดูแค่หนังตัวอย่างก็หนาวแล้ว ดูไปหยุดไปนะครับ แล้วดูเนื้อข่าวที่เค้าตัดมา ยัีงไม่รู้จุดประสงค์ของหนังที่ืทำออกมาครับ อาจะจะเป็นการบอกกลายๆ ก็ได้ ไม่รู้ว่าจะเข้ามาฉายในเมืองไทยหรือเปล่าครับ
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ สำหรับข้อมูลชุดนี้
ตอบลบอยากลองเชื่อมต่อกับวันเวลา
ของเหตุการณ์กลียุค ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เท่าที่ลองดูคร่าว ๆ ก็สอดคล้องกันมากเลยครับ
อยากรู้ว่าถ้าลงรายละเอียดแล้ว จะออกมายังไง
เราคงมองอะไรได้ชัดเจนแม่นยำมากขึ้น
คุณ Jimmy ช่วยวิเคราะห์หน่อยนะครับ
วันนี้ผมพึ่งเดินทางจากการสำรวจที่ลี้ภัย
และก็ได้ข้อมูลมาหลายอย่าง รวมถึงแนวเลื่อนของแผ่นดิน
เพื่อจะได้ประกอบในการวิเคราะห์ประเด็นอื่น ๆ ด้วย
ทุกอย่างกำลังใกล้เข้ามาทุกทีล่ะ
ตอบลบจะแปะติดผนังไว้ครับ
ตอบลบมิถุนายน ปี 2010 FED จะต้องดูดเงินหรือสภาพคล่องออกจากระบบถึง 1.5 Trillion
ตอบลบถ้าสภาพคล่องหดหายจริง ตัวเงิน Us dollar ก็น่าจะพุ่งขึ้นสิครับ
แล้วทองจะไม่ลงราคาหรือครับ
ที่ดูดออกคือในประเทศสหรัฐเท่านั้นครับ ข้างนอกน่ะต้องการให้ท่วมโลกครับ 55555
ตอบลบแล้วการดูดออกของเค้าเป้าหมายคือการล้มเศรษฐกิจลงทั้งระบบครับ อาจจะอ้างเรื่องป้องกันเงินเฟื้อ เหมือนในปี 1938-1942 ทำแบบเดียวกันเป๊ะ ตอนนั้นปริมาณเงินน้อยกว่านี้เยอะครับ แต่เค้าดูดออกถึง 1 ใน 3 ของสภาพคล่องทั้งระบบภายใน 2 ปี เรียบร้อยครับ กลายเป็น The Great Depression ครับ จุดระเบิดด้วย Black Monday เป็นครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นที่ตลาดวอลสตรีทครับ
ถ้ามามุขดูดคือ เค้าจะเร่งเกมส์เร็ว ถ้าไม่ดูดออกแล้วปล่อยก็จะเป็น Hyper Inflation ทุกอย่างอยู่ในมือเค้าครับ ถ้าดูดเศรษกิจพัง ดอลล่าก็พัง เพราะความเชื่อมั่นในเศรษกิจของสหรัฐคงหมดลงครับ แล้วที่บอกว่า ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว คงต้่องเปลี่ยนเป็น ฝังแล้ว ฝังแล้วแทนครับ 55555
http://www.cropcircleconnector.com/anasazi/time2007o.html
ตอบลบไปเจออันนี้มาครับ decoding binary message จาก crop circle
มีการอ้างถึงวีดีโอเกี่ยวกับ ไอเซนฮาวด์ ด้วย