สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่เป็น "ความเชื่อส่วนบุคคล" ครับ ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ เศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ สังคม การเมือง และอริยธรรมของมนุษย์ ซึ่งจะไม่มีการแบ่งแยกในเรื่องชาติพันธุ์ ความเชื่อ ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ สีผิวใดๆ ทั้งสิ้น
โดยส่วนตัว ผมเชื่อใน "พระเจ้า" หรือจะเรียกว่าพระยาเวห์ (Yahweh)และ Jesus Christ หรือที่คนไทยมักจะเรียกว่า "พระเยซูคริสต์" แต่...ผมไม่เชื่อหรืออยู่ใน "ศาสนาคริสต์" ครับ และโดยข้อมูลความคิดซึ่งมาจากการศึกษาค้นคว้าโดยส่วนตัวของผม "พระเจ้า" ไม่เคยแบ่งแยกมนุษย์ด้วยศาสนา หรือลัทธิใดๆ เพื่อทำให้เกิดความแตกต่าง แล้วทำให้ต้องมาเข่นฆ่ากันเองเพราะความต่างเหล่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือพระเจ้ามองมนุษย์ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกเผ่าพันธุ์ หรือสีผิวว่าเป็นมนุษย์เหมือนกันหมด ถ้าคุณศึกษาประวัติศาสตร์คุณจะมองเห็นและเข้าใจสิ่งหนึ่งคือ "ศาสนา ลัทธิและนิกาย" ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นและกำหนดด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งสิ้น
แล้วก็เป็นมนุษย์อีกเช่นกันที่ใช้ความแตกต่างของศาสนาเหล่านั้นเพื่อสร้างอำนาจ สร้างอาณาจักรและแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ด้วยเงินบริจาค ด้วยการทำบุญ และ "การหลีกเลี่ยงภาษี" จนถึงวันนี้แล้วทุกอย่างคงต้องตรงไปตรงมาครับ ในสงครามครูเสดที่ "ศาสนาคริสต์" และ "ศาสนาอิสลาม" ถูก "เสี้ยม" ให้ต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ยาวนานกินเวลานับร้อยปี โดยลืมไปว่าทั้งสองศาสนามีจุดกำเนิดเดียวกันเพียงแต่เรียกชื่อต่างกันไปในความเชื่อของตน และเมื่อทั้งสองศาสนาอ่อนล้าลงเพราะการต่อสู้ที่ยาวนาน ในที่สุดก็ถูกยึดครอง "ทั้งหมด" หลังจากการยึดครองแล้ว กลุ่ม NWO ซึ่งจะรวมทั้ง อิลลูมินาติ, บิลเดอร์เบิร์ก, ซีเอฟอาร์, ไทรแรทเทอรัล คอมมิชชั่น, ฟรีเมซั่น และอีกมากมายหลายกลุ่ม ที่ประกอบขึ้นในลักษณะโครงสร้างของ "ปิระมิด"
ก็ใช้ทั้งสองศาสนาเป็นเครื่องมือในการผลักดันวาระต่างๆ ในรอบ 100 ปี ที่ผ่านมา โดยอาศัยความเชื่อ ความศรัทธาและเงินบริจาค เป็นอาวุธหลัก และพวกเค้าจะใช้ "ความต่าง" นี้แหละครับในการก่อ "สงครามใหญ่" โดยเริ่มจากเหตุการณ์ 911 ซึ่งทั้งหมด.......เป็นจริงและเกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเห็นหรือไม่เท่านั้นเอง
ทุกวันนี้เกือบทุกศาสนาใหญ่ที่มีบนโลกใบนี้ฤูก "แทรกซึม" หมดครับ ถ้าคุณปฏิเสธว่าไม่จริง ก็คือคุณอาจจะยังมองไม่ออกครับ แล้วก็ยังมีอีกหลายแสนคนที่ตกเป็น "เหยื่อ" โดยที่ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน ทั้งที่ทุกคนไปด้วยความเชื่อ ไปด้วยจิตใจที่เป็นบุญ เป็นกุศล ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ทำแล้วสบายใจ แค่นั้นเองจริงๆ ผมจะบอกความจริงที่กำลังจะเกิดว่า วันนึงพวกเค้าจะ "หลอมรวม" ศาสนาเหล่านี้เข้าด้วยกันครับ เป็นศาสนาใหม่ ศาสนาเดียวของโลก ศาสดาองค์ใหม่ ซึ่งก็คือเป้าหมายที่แท้จริงของการแทรกซึมนั่นเอง
วันนี้เรายังไม่ต้องมาเถียงกันในเรื่องนี้ครับ ขอเวลาอีกซัก 5-10 ปีในการพิสูจน์ แล้วคุณจะเห็นมันด้วยตาของคุณเอง ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรจากนี้ไปลองจับตาดูความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเริ่มต้นตอนนี้ แต่ทั้งหมดเค้าทำมานานแล้ว "อย่างแยบยล" ชนิดที่คนรุ่นใหม่ๆ อ่านไม่ออก เพราะ "คิดไปว่า" มันคือสิ่งใหม่ที่ "อาจจะ" ดีกว่า ด้วยการ "แยกออก แตกออก" สร้างเครือข่าย สะสมกำลัง สะสมทุน แล้วใช้ลัทธิที่สร้างขึ้นใหม่นี้ในการเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ รวมทั้ง "การเมือง"
วันนี้เรายังไม่ต้องมาเถียงกันในเรื่องนี้ครับ ขอเวลาอีกซัก 5-10 ปีในการพิสูจน์ แล้วคุณจะเห็นมันด้วยตาของคุณเอง ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรจากนี้ไปลองจับตาดูความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาเริ่มต้นตอนนี้ แต่ทั้งหมดเค้าทำมานานแล้ว "อย่างแยบยล" ชนิดที่คนรุ่นใหม่ๆ อ่านไม่ออก เพราะ "คิดไปว่า" มันคือสิ่งใหม่ที่ "อาจจะ" ดีกว่า ด้วยการ "แยกออก แตกออก" สร้างเครือข่าย สะสมกำลัง สะสมทุน แล้วใช้ลัทธิที่สร้างขึ้นใหม่นี้ในการเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ รวมทั้ง "การเมือง"
คำถามก็คือทำไมเค้าไม่ให้ศาสนาเป็นเรื่องของศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของ "ความเชื่อ" "จิตใจ" และ "ความดีงาม" และปล่อยไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสุดท้ายของมนุษย์ นั่นก็เพราะเค้ากำลังอาศัยการสร้างอำนาจ การสร้างอาณาจักร ขยายอิทธิพล ด้วยความเชื่อและเงินบริจาค "เป็นอาวุธ" ลองไล่เรียงนิกายที่แยกตัวออกมาเหล่านี้ย้อนกลับขึ้นไปสิครับ คุณจะเห็นว่าก็คือพวกเค้า หรือกลุ่ม NWO ที่สนับสนุนเงินทุนและทำงานผ่านคนไทยบางกลุ่มนั่นเอง โดนรู้ทันไล่ไปเจอ "CIA"...โดนเคลียร์ไปบ้างก็มี
จนถึงวันนี้ที่สองนิกายของศาสนาอิสลามคือสุหนี่และชีอะห์กลับต้องห้ำหั่นกันเอง โดยการ "เสี้ยม" ของอีกศาสนาหนึ่ง เพื่อบั่นทอนเสถียรถาพในตะวันออกลางเพื่อทำให้กลุ่ม NWO แทรกตัวเข้าไปครอบครองและแสวงหาประโยชน์จากธุรกิจน้ำมัน การค้าอาวุธและสงคราม
ปัญหาเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นในโลกใบนี้ ก็เป็นเพราะการถูกแบ่งแยกให้แตกต่างโดยคำว่า "ศาสนา" นั่นเอง และนี่ก็เป็นต้นเหตุหรือที่มาของปัญหาทั้งหมดของโลกใบนี้ และจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติทั้งมวลด้วยเช่นกัน ถ้าคุณสามารถเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นมิติที่ "สู้กัน" ด้วยความเชื่อและจิตวิญญานของมนุษย์ คุณก็จะมองเห็นสิ่งต่างๆ กำลังเกิดขึ้นและจะเกิดตามมาได้อย่างชัดเจนอย่างทะลุปรุโปร่ง
และทั้งหมดทั้งสิ้นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ก็จะเกิดจาก 2 ฝ่าย ก็คือสงครามระหว่างความดีและความชั่ว ฝ่ายหนึ่งคือความเชื่อใน "พระเจ้า" และอีกฝ่ายคือ "ซาตาน" หรือแอนตี้ไครส์ (ที่ถูกกล่าวถึงในศาสนาคริสต์รวมทั้งศาสดาพยากรณ์ต่างๆเช่น นอสตราดามุส) หรือ "ดัจจัล" ในศาสนาอิสลาม ที่กำลังผลักดันวาระ NWO หรือ การจัดระเบียบโลกใหม่ โดยการรวบรวมมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนาเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้านพระเจ้านั่นเอง สงครามนี้คือสิ่งที่อยู่บน "ยอดสุด" ของสงครามที่สู้รบกันมาต่อเนื่องยาวนานหลายพันปี หรือจะเรียกว่า "สงครามฝ่ายวิญญาน" ที่ยากต่อการเข้าถึงและเข้าใจของมนุษย์ทั่วๆ ไป
และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไม "พระคัมภีร์ไบเบิ้ล" จึงสามารถบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ได้ ด้วยความ..แม่นยำ..ชนิดเหตุการณ์ต่อเหตุการณ์และคำต่อคำ ล่วงหน้าไว้หลายพันปีที่ผ่านมา ซึ่งมนุษย์ก็ไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ต่อปรากฏการณ์นี้ได้นับจนถึงวันนี้
และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไม "พระคัมภีร์ไบเบิ้ล" จึงสามารถบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ได้ ด้วยความ..แม่นยำ..ชนิดเหตุการณ์ต่อเหตุการณ์และคำต่อคำ ล่วงหน้าไว้หลายพันปีที่ผ่านมา ซึ่งมนุษย์ก็ไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ต่อปรากฏการณ์นี้ได้นับจนถึงวันนี้
เพราะฉะนั้นเป้าหมายก็คือการเข้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้อย่างเบ็ดเสร็จ ผ่านทาง
1.การลดประชากรโลกลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 5% ของประชากรโลก ณ ปัจจุบัน ด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและสอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ โดยการสร้าง โรคภัยไข้เจ็บ(ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดโดยธรรมชาติ) อาหารและสารเคมีปนเปื้อน(GMOs ฟาส์ตฟู๊ด เคมีและยาฆ่าแมลงต่างๆ) ภัยพิบัติครั้งร้ายแรง โรคระบาด การกันดารอาหาร และสงคราม "ย่อย" ที่จะเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกแล้วจะนำไปสู่สงคราม "ใหญ่" ในที่สุด ซึ่งจะถือว่าเป็นสงคราม "ครั้งสุดท้าย" สำหรับมนุษย์
2.การเข้าควบคุมระบบเครดิต การเงิน การธนาคารของโลกใบนี้ เพื่อควบคุมกระแสเศรษฐกิจ และการค้าโลกทั้งปวง เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดความเป็นอยู่ของมนุษย์ หลังจากการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจ "ในโลกเก่า" หรือโลกปัจจุบันแล้ว ด้วยวิธีการล้มสกุล "เงินดอลล่า" ที่ใช้เชื่อมโยงโลกใบนี้อยู่ทั้งหมด แล้วสิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ "ระบบเงินกระดาษ" หรือ Paper Currency ก็จะถึงการหายนะอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากเช่นกัน
3.ซึ่งจะเป็นการกำเนิดของ เงินสกุลใหม่ เงินสกุลเดียวที่จะใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยการควบคุมขององค์กรกลางในระดับโลกที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อรอไว้เมื่อนานแล้ว นั่นก็คือ IMF ซึ่งก็มีรูปแบบไม่ต่างไปจากธนาคารกลางของโลกในปัจจุบัน ถ้าถามว่า IMF ไม่มีความเป็นกลางหรือ คำตอบคือ "ไม่มี" ครับ ตรวจสอบได้คือ 1.ใครเป็นผู้จัดตั้ง IMF และ 2.อิทธิพลหรือเสียงโหวตของชาติมหาอำนาจตะวันตกที่มีอยู่ในองค์กรนี้ 3.ถูกใช้เป็นเครื่องมือเข้าไปปล่อยเงินกู้เพื่อทำกำไรจากดอกเบี้ย หลังจากกลุ่มการเงินดังกล่าวเข้าไปทุบเศรษฐกิจของชาติใดชาติหนึ่งจนพังแล้ว และส่ง IMF เข้าไปตีซ้ำ โดยการบังคับให้เปิดเผยข้อมูล ปรับโครงสร้างภาคการเงินการธนาคารและยึดครองเศรษฐกิจในที่สุด 4.IMF ถูกใช้เป็นเครื่องมือทุบราคาทองคำ เงิน และตลาดโลกมาตลอดหลายสิบปี
4.การรวบรวมศาสนาและความเชื่อทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อการนำในด้านจิตวิญญานให้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ในโลกยุคใหม่
5.การปกครองด้วยรัฐบาลโลก ซึ่งก็ทำเสร็จไปแล้วคือ "องค์การสหประชาชาติ" หรือ UN ซึ่งใน UN เองก็จะแตกออกเป็นองค์กรย่อยๆ เช่น UNICEF, UNSCR, UNTAD และอีกสารพัดที่จะครอบคลุมไปทุกภาคส่วนของชีวิตมนุษย์ จะไม่มีการแบ่งแยกขอบเขตของประเทศอีกต่อไป โดยการรวม 6 ภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งก็ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที ตั้งแต่เราเริ่มมีคำว่า Globaliztion หรือโลกาภิวัติ นั่นเองครับ
6.การตัดสินคดีความต่างๆและข้อพิพาทด้วย "ศาลโลก" ที่เกิดขึ้นแล้ว
7.ภาษาใหม่ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ หรืออินเตอร์เน็ต ที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารของ "โลกใหม่"
8.องค์กรระดับโลกต่างๆ ก็จะนำมาบังคับใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็คือ UN, IMF, World Bank, WHO, WTO, OPEC, APEC, NAFTA, AFTA, GATT, G8, G20, NATO และอีกสารพัดองค์กรความร่วมมือเพื่อรอเวลาของการ "ควบรวม" ที่ได้จัดตั้งขึ้นในรอบ 100 ปีที่ผ่านมารอไว้ก็เพื่อการนี้ เพียงแต่เราไม่เคยเข้าใจจุดประสงค์และจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของพวกเค้านั่นเอง
เพราะฉะนั้นถ้ากรอบความคิด "ทางโลก" ของคุณยังไม่ถูกทำลายลง "มิติ" นี้จะเป็นอะไรที่คุณไปไม่ถึงอย่างแน่นอน...หรือคุณจะเข้าใจเท่าที่คุณจะสามารถทำความเข้าใจได้ก็ไม่ว่ากันครับ
คุณจะเห็นได้ว่าหมากทุกตัวบนกระดานได้เข้าประจำจุดหมดแล้ว และสิ่งที่จะเกิดต่อไปนี้ ก็จะมุ่งไปสู่ "วาระโลกใหม่" ทั้ง 8 ข้อข้างต้น ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ลองสังเกตุทุกชิ้นข่าวในระดับภูมิภาคหรือระดับโลกที่คุณอ่านมันจะเป็นประเด็นย่อยๆที่อยู่ใน 8 ข้อนี้ครับ
หรือถ้าคุณจะยังว่าทั้งหมดนี้เป็น Conspiracy Theory หรือทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดอยู่ ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล ส่วนผมและครอบครัวเลือกที่จะเตรียมพร้อมและปรับตัว เพื่อให้อยู่รอดและสอดคล้องกับสิ่งต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นดีกว่าครับ.......
ขอเอาไปเผยแพร่ต่อนะครับ
ตอบลบผมอยากให้ทุกคนได้ลองคิดทบทวนและยอมรับความจริง โดยการเปิดใจรับฟังอย่างตั้งใจ
ตอบลบhttp://www.youtube.com/playlist?list=PLCD66926549FCA86E