วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เรื่องที่ไม่อยากเขียน ( แต่ต้องเขียน ) 3/5

เรามาว่ากันต่อเรื่อง Time Line ครับ  แต่ก่อนอื่นเรามาดูเนื้อหาของกฏอัยการศึก HR8791 ฉบับนี้ว่าเมื่อเค้าประกาศแล้ว เค้าให้อำนาจประธานาธิบดีและทหารทำอะไรได้บ้าง แล้วเรามาดูบรรยากาศการผ่านกฏหมายฉบับนี้ครับ เป็นกฏหมายที่ดำมืดฉบับหนึ่งของสหรัฐก็ว่าได้ แม้แต่ระหว่างการประชุมลงมติกฎหมายฉบับนี้ยังต้องใช้คำว่า " Classified " หรือเป็นความลับกว่า 20 คำ คือแทบจะมีการเปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณะเลย??? ทำไมครับ??? 

นี่คือบรรยากาศในสภาคองเกรสในขณะที่กำลังเสนอให้ลงมติ ใน HR8791 หรือกฏอัยการศึกซึ่งเสนอโดยพรรคริพับลิกันในขณะนั้น และเสนอญัตติให้ลงคะแนนเสียงโดย นายจอห์น แฮลเลอร์ สส.จากพรรครีพับลิกัน จากรัฐเพนซิลวาเนีย 







สรุปเนื้อหาของกฏอัยการศึกก็คือ เค้าเตรียมพร้อมรับการล้มละลายของรัฐบาลกลางที่กำลังจะมาถึง การก่อวินาศกรรมและภัยพิบัติต่างๆ ทั้งยังให้อำนาจสิทธิขาดกับหน่วยงาน FEMA, DHS & Nortcom ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ แล้วให้จัดเตรียมที่หลบภัยฉุกเฉินไว้สำหรับ ประธานาธบดี คณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาครองเกรสทั้งหมด เพราะเค้าคาดว่าประชาชนจะลุกฮือ เข้ามารุมทำร้ายนักการเมืองในสภาด้วยความโกรธแค้น รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณฉุกเฉินต่างๆ เช่น งบประมาณฉุกเฉินสำหรับการเดินทาง ยานพาหนะ และเชื้อเพลิงต่างๆ


มีการพูดถึงการจัดการกับศพผู้เสียชีวิต การทำลายศพ และเรื่องวิธีปฏิบัติกับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเช่นการก่อวินาศกรรม ระบาดของไข้หวัด และเหตุไม่คาดฝันต่างๆ 

วีดีโอต่อเป็นนี้เป็นทหารหญิงคนนึงที่จะคอยเอาเรื่องราวคำสั่งการเตรียม พร้อมต่างๆ ซึ่งเป็นความลับทางทหารมาเปิดเผย ที่เค้าทำเพราะเค้าเค้ารับไม่ได้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ เค้ามาเล่าถึงขั้นตอนทั้งหมดที่ถูกวางไว้ การฝึกที่ผ่านมา ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหลังจากการประกาศ  " Martial Law " หรือกฏอัยการศึกแล้ว




สรุปได้ว่าหลังจากที่โอบาม่าประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในเรื่อง ไข้หวัด 2009 ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือรอการประกาศ " กฏอัยการศึกเรื่องไข้หวัด 2009 " แล้วจะเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นหรือไม่?? 

1.จะมีการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu โดยจะเริ่มที่ เด็ก และหญิงมีครรภ์ คนสูงอายุ และคนปกติตามลำดับ (เค้าผ่านกฏหมายฉบับนี้แล้วใน Lower State 40 กว่ารัฐ)

2.ถ้าใครที่ "ไม่รู้ทัน" พอที่จะไปรับวัคซีนแล้ว เค้าจะให้สวม Bracelet หรือสายรัดข้อมือที่เป็นเหล็กและมีไมโครชิพฝังอยู่ซึ่งจะเก็บข้อมูลส่วนตัว ของคนๆ นั้นทั้งหมด

3.Martial Law จะทำการ bypass หรือระงับใช้รัฐธรรมนูญทั้งหมด คือลืมไปเลยเรื่องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เค้าจะตั้งจุดตรวจของเค้าเรียกว่า Check Point ตามแยกต่างๆ ที่สำคัญทั่วทุกเมืองของอเมริกา โดยหน่วยงานของ CDC และตำรวจท้องถิ่น*** ถ้าไม่มีสายรัดข้อมือนี้จะเดินทางไม่ได้ในอเมริกาทั้งหมดครับ

4.เมื่อมาถึงจุดตรวจเค้าจะขอดูที่ข้อมือก่อน ถ้าใครไม่มีคือไม่ได้รับวัคซีน เค้าจะมีให้เลือก 2 ทาง คือรับวัคซีนเดี๋ยวนั้นเลย แล้วได้สายรัดข้อมือไป (แล้วอาจค่อยๆ ล้มป่วยและตายในที่สุด) อีกทางเลือกนึงคือต้องขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายกักกันเชื้อโรค หรือ FEMA CAMP  800 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองใหญ่ในอเมริกาตอนนี้ ในค่ายนั้นมีอะไรหรือเป็นยังไง ก็ให้ไปดูที่พวกนาซีเยอรมันเคยทำ "ไม่ต่างกัน" ใครที่เคยเห็นวีดีโอแล้ว นั่นแหละที่เค้าเตรียมทั้งหมดก็เพื่อการนี้


5.จากข้อ 4 ใครที่เข้าเมืองหรืออยู่อย่างผิดกฏหมาย ไม่มี ID  หรือเอกสารแสดงตัวตนของคุณเอง เค้าคงเอาเข้า FEMA CAMP หรือค่ายกักกันเลย ไม่ต้องคุย ไม่ต้องหาทนาย หรือต่อรองอะไร เพราะคุณไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว หรือแม้แต่จะยืนอยู่ตรงนั้น ณ เวลานั้น

6.ส่วนใครที่คิดว่าจะหลบได้ตลอดก็ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียว ห้ามเดินทาง เค้ามีสิทธิ์ที่จะบุกรุกเข้าไปในบ้านของคุณโดยที่ไม่ต้องมี Search Warrant หรือ หมายค้นใดๆ และอย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเค้าประกาศ Martial Law อำนาจอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เค้าจะเป็นคนต้ดสินสถานภาพของคุณ คุณไม่มีสิทธ์เลือก เพราะคุณ "ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการไม่รับวัคซีนและซ่อนตัว" 


ข้อมูลจากการเปิดเผยของทหารหญิงรายนี้ ก่อนจะมีการบังคับใช้กฏอัยการศึก จะมีคำสั่งไปยังหน่วยทหารต่างๆ ให้เตรียมเข้ายึดพื้นที่ หรือเมืองที่คุณอยู่ เป็นเวลาล่วงหน้า 24 ชม. เท่านั้นครับ พูดง่ายๆ เมื่อว่ามีคำสั่งให้ "ลงมือ" ก็คือคุณมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงก่อนที่ระบบทุกอย่างจะถูกล๊อคครับ ทั้งสาธารณูประโภคเช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ การจราจร การสื่อสารโทรคมนาคมรวมทั้งสนามบิน แม้แต่อินเตอร์เนตก็ตาม เพราะฉะนั้นอาจจะมีวันนึงครับที่อินเตอร์เนตในประเทศสหรัฐจะ Down หรือหยุดการให้บริการทั้งหมดครับ ขอให้เป็นที่รู้กันนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว



สรุปก็คือคุณอาจมีเวลา 24 ชั่วโมงครับ หลังจากที่มีคำสั่งลงไปที่กองกำลังทหาร ผมเชื่อว่าทหารหญิงคนนี้ และจะมีเจ้าหน้าที่ผู้หวังดีทั้งทหารและตำรวจอีกหลายๆ คนคงจะเจ้ามาโพสต์เตือนไว้ทั้ง  Youtube และสื่ออินเตอร์เนตนี่ครับ เพราะแทบจะเป็นช่องทางเดียวที่เป็นอิสระจากรัฐบาลพอที่จะสื่อสารกันได้  แต่ผมแนะนำว่าถ้าคุณมีทหารหรือตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ให้ใช้จากตรงนั้นดีกว่า จะเร็วกว่าครับ เพราะตรงนี้ต้องผ่านกันไปมา เวลามีน้อยครับ หากสถานการณ์ยังคงดำเนินไปในทิศทางนี้ ดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังครับ 

ติดตามตอนต่อไปครับ....... 

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ29 ตุลาคม 2552 เวลา 09:51

    คุณจิมมี่คะ กฏอัยการศึก HR8791 นี้เขาเพิ่งมีออกมาหรือมีมานานแล้ว เราจะมองว่าเขาออกมาเผื่อไว้ป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ไหมคะ เพราะก็เหมือนการป้องกันไว้ล่วงหน้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดซึ่งมันอาจจะไม่เกิดก็ได้ คือปลอดภัยไว้ก่อน หากเกิดปัญหาจะได้เตรียมรองรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที เพราะถึงเวลานั้นมาออกกฏแบบนี้ก็คงไม่ทันเหตุการณ์กันพอดี

    เราจะมองในแง่ดีว่าเขาป้องกันไว้อย่างดีเผื่อไว้จะได้ไหมคะ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  2. จะมองอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่.....เค้าร่างและเสนอกฏหมายนี้หลัง 911 ซึ่งเค้าก็สร้างเหตุการณ์ขึ้นเองทั้งหมด แล้วเอาไปลองใช้ในเหตุการเฮอริเคนแคทลีน่า ซึ่งก็ทำเองอีก แล้วถ้าประกาศปั๊บเป็นการรวบอำนาจเบ็ดเสร้จเด็ดขาดได้ทันทีครับ ถ้าเรามองแค่ตัวกฏหมายน่ะใช่ครับก็คิดได้ แต่อยากให้มองทั้งกระดานครับ ง่ายๆ คือถ้าเค้าไม่สร้างสถานการณ์กฏหมายฉบับนี้ก็ไม่ต้องมี ด้วยความเป็นอเมริกา ใครจะไปทำอะไรเค้าได้ครับ แค่อย่าไปทำคนอื่นก็พอ แล้วตั้งประเทศมา 200 ปี ไม่เห็นต้องมีเลย น่าคิดไม๊ครับ :)

    ตอบลบ
  3. เรียนถามคุณ จิมมี่

    เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึกเกิดขึ้น
    1.ระบบการติดต่อซื้อขายจะดำเนินต่อ
    ได้หรือไม่ โดยเฉพาะระบบอีคอมเมิร์สครับ

    2.ระบการจัดส่งสินค้าจากอเมริกามาไทยจะชะงักหรือไม่ครับ
    เพราะผมอยู่บริษัทที่ทำระบบ MLM น่ะครับ(วิตกครับ)เพราะ
    ฐานผลิตอยู่อเมริกาครับ

    ขอบคุณครับ......ประสิทธิ์

    ตอบลบ
  4. ในข้อ 1 ผมเชื่อว่าคงหยุดชะงัก เพราะระบบธนาคารจะล๊อคก่อนเลย แล้วเจ้าหน้าที่แบ๊งค์คงทำงานต่อไม่ได้ครับ ถ้าตรงนี้ชะงักผมว่าระบบการค้าขายน่าจะหยุดไปด้วย ถึงจะเป็นอีคอมยังไงก็ต้องผ่านระบบตรวจสอบของธนาคารอยู่ดี มีอย่างนึงในอเมริกาโดยหลักการทั่วไปนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรเค้าเอาเรื่องความปลอดภัยมาก่อนครับ การค้าขายคงมาทีหลัง แล้วถึงขั้นประกาศ Martial Law แล้ว คงไม่มีอะไรต้องคิดแล้ว เค้าคงเอาตัวรอดก่อนครับ

    ในข้อ 2 ระบบการจัดส่งคงไม่ต่างกันครับ

    ถ้าเป็นลูกหนี้ของทางอเมริกาไม่น่าห่วง แต่ถ้าเป็นเจ้าหนี้ ต้องระวังความเสียหายมากๆครับ เป็นผมคงทำอะไรให้เราอยู่ในฐานะเป็นต่อไว้ดีกว่า ในสถานะการณ์อย่างนี้ครับ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ...คุณจิมมี่

    ตอบลบ