วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Gold Update.......This way

วิเคราะห์กราฟทางเทคนิค
ช่วง 12-16 ตุลาคม มีทั้งพันธบัตร ทอง หุ้น และน้ำมันครับ



ความเห็นนักพยากรณ์เศรษฐกิจชั้นนำอีกคนครับ
Jim Roger  "ทอง $2,000/ออนซ์ น้ำมัน $200/บาเรล"



อีกคนครับนักวิเคราะห์ราคาทองคำ
James Turk, CEO ของบริษัท Gold & Money
พูดถึงความต้องการทองคำในตลาดอยู่ในระดับสูงมาก


6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2552 เวลา 07:34

    เมื่อวานเข้าไปอีกแล้วค่ะ คุณจิมมี่...ทั้ง GF และทองแท่ง ตอนนั้นราคาทองโลกอยู่ที่ประมาณ 1050 เหรียญ ......

    คนรอบข้างส่วนใหญ่จะบอกให้ใจเย็นๆ อย่ามือหนัก และอย่าอินกับข้อมูลที่อ่านจากเวบนี้มาก แต่เราว่าเราก็ไม่ใช่เข้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้า พยายามทำใจให้นิ่งๆ ที่สุด ประกอบกับก็ดู Dollar Index ควบคู่ด้วย ขนาดมียาหอมจาก Bernanke ยังเด้งได้แค่นั้น ก็เลยไม่รู้จะรอทำไม เพราะถ้าจะรอยาหอมจาก FED อีกที ก็ต้องรอ Minute of FOMC Meeting คืนวันที่15 แต่คิดว่าคงมีน้ำหนักเล็กน้อย

    เช้านี้ยูโร 1.4788 แล้วค่ะ

    ต๊ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2552 เวลา 11:11

    เช้านี้อ่านเจอค่ะ ว่าจีนกับรัสเซียมีแผนการที่จะใช้ bilateral currency ในการทำ settlement ของธุรกรรมค้าขายระหว่างกัน จะไม่ใช้เงินดอลล่าและยูโร

    ต๊ะ

    ปล. เรื่องทุนสำรองเด๋วจะไปพยายามสืบมาให้ค่ะว่าที่ถือในรูปของสินทรัพย์ต่างประเทศ นี่อยู่ในรูปใดบ้างค่ะ แต่ที่แน่ๆคือน่าจะอยู่ในรูปเงินดอลล่าซะเกือบทั้งหมด แต่จะอยู่ในรูปเงินหรือลงทุนในพันธบัตรอเมริกา อันนี้ก็ขึ้นกับมุมมองของคนจัดการ (....อยากให้สังเกตค่า Exchange Rate ที่ใช้ Mark to Market ในแต่ละเดือน.... )

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2552 เวลา 15:39

    คุณจิมมี่คะ จะเป็นการโจ่งแจ้งไปไหมคะ

    คือว่ายังไม่ทราบเลยค่ะว่า ดำ กับ ขาว นี่ใครอ่ะค่ะ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  4. เมื่อตอนเช้าดูข่าวของคุณสรยุทธ พูดเรื่องการแข็งค่าของเงินบาทครับ ส่วนใหญ่ตำหนิว่าทำไม BOT ปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าเร็วขนาดนี้ แต่ทาง BOT เค้าก็ออกมาอธิบายว่าเป็นเพราะราคาทองและเงินดอลล่าที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และเงินบาทเราก็ยังเกาะกลุ่มตามเงินสกุลต่างๆ ในเอเซีย "ซึ่ง BOT ถูกครับ" แต่ประเทศเราเอาความหวังไปผูกอยู่กับการส่งออกมากเกินพอดี เลยทำให้ผู้ส่งออกเดือดร้อนกันไป ถ้าให้ BOT แทรกแซงมากกว่านี้ก็คือเข้าไปซื้อขายดอลล่าล่วงหน้า จะไปฝืนธรรมชาติมากๆ แล้วมาอุ้มภาคการส่งออกก็ยังไงอยู่ แต่ BOT คงต้องเข้าแทรกแซงเพราะไม่มีทางเลือก เพราะโครงสร้างเรามาอย่างนี้แล้ว ระบบเศรษฐกิจเราเป็น Export Base คงลดการพี่งพาการส่งออกลำบาก

    เท่ากับที่เบอนันเก้ออกมานี่ แทบจะได้ผลวันที่พูดวันเดียว เหมือนกับมีการหยุดดูมากกว่า ดูแล้ว การรอให้ทองลงแล้วไปช้อนเป็นความหวังที่เลือนลางเต็มที ถ้าเป็นเงินเก็บ เงินเย็นๆ ซื้อและถือได้เลยครับ พอไปถึง 20,000 แล้วค่อยคิดต่อ อีก 3,000 หรือ Gain อีก 15% นิดเดียวครับ ไม่เกินปลายปีหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้นถ้าจะรอ FOMC ก็น่าคิดอาจจะบวกหรือลบต่อราคาทองได้ทั้งนั้น ส่วน Minute of FOMC ก็คงมีน้ำหนักบ้างครับกับทอง "แต่คงต้องดูครับ" ต้องดูว่าเค้าคิดอะไรแล้วจะพาเราไปทางไหนต่อ เช่นถ้าขึ้นดอกเบี้ย ก็จะไปล้มตลาดหุ้น อะไรประมาณนี้ เป็นเรื่องของทิศทางระยะกลางและระยะยาวซะมากกว่า

    ต้องเข้าใจครับว่า "FED นี่แหละที่อยู่เบื้องหลัง และชักใยเรื่องการล้มเศรษฐกิจครั้งนี้ทั้งหมด" ต้องอ่านให้ออกครับว่าเค้าจะไปทุบตรงไหนต่อ เราจะไปดักได้ถูก แต่ไม่นานเค้าต้องอัดตลาดหุ้นแน่ ส่วนการหยุดปั๊มดอลล่าคงเป็นไปไม่ได้ ก็จะเกิดเงินเฟ้อยิ่งยวดหรือ Hyper Inflation แต่จะส่งอะไรมาตัดเกมส์ก่อนหน้านั้นเช่นไข้หวัดหรือสงครามอิหร่านหรือไม่ต้องตามดูกันไปครับ

    ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่าน อาจจะยังไม่รู้เบื่องลึกเบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ให้มองทั้งกระดานครับ เค้าเป็นกลุ่มเดียวกันหมด FED(ทั้งในอเมริกา อังกฤษและยุโรป คือกลุ่มเดียวกัน), อีลูมินาติ(การทหารและสงคราม HAARP), อังกฤษ(กลุ่มทุน), Rothchild(การเงินและทองคำ), Rockefeller(ไวรัส วัคซีนและบริษัทยา), JP Morgan (การเงิน), Goldman Sachs(การเงินและทองคำ), ค่ายหนังฮอลลีวู๊ด(สร้างภาพ ชี้นำและสร้างวัฒนธรรมใหม่)บนยอดสุดคือ "เยซูอิดและวาติกัน" คือ "โป๊ปดำและโป๊ปขาว" นั่นเองซึ่ง...คุมทั้งหมดอีกที

    ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมดเป็นเครือข่ายครอบคลุมทั้งโลก แทรกซึมอยู่ในทุกประเทศ มากบ้างน้อยบ้างตามผลตอบแทนของแต่ละประเทศที่จะสะท้อนกับไปที่พวกเค้าครับ เพราะฉะนั้น ชีวิตคนอเมริกัน ประเทศสหรัฐทั้งประเทศ หรือแม้แต่เงินดอลล่า "เป็นแค่ตัวหมากเล็กใหญ่ไม่กี่ตัว" ที่เค้าเดินกัน เพื่อไปสู่เกมส์ใหญ่ เพราะฉะนั้นเค้าจะทุบอะไรทิ้งต่อ
    "เป็นไปได้ทั้งหมด" ถ้ามีเวลาหาลองดูครับว่าใครอยู่เบื้องหลัง The Great Depresstion หรือเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก ปี 1928-1932 วิธีการที่ใช้ "คล้ายๆ" และเหมือนๆ กันเกือบทั้งหมดครับ

    ถ้าอ่าน Blog นี้ ต้องมองอย่างนี้ครับ อย่าไปมองแค่เท่าที่เราไปเรียนจากเค้าหรือที่เค้าให้รู้จากหนังสือหรือสถาบันการศึกษาที่เค้าอยากให้เรารู้ครับ ไม่ว่าจะเป็น ดร. Top 10 จากสถาบันไหนๆก็ตาม เพราะเค้าวางระบบให้เรารู้เท่านั้นแหละ "แต่เค้าอยู่เหนือระบบ" ไอ้ที่ทำน่ะไม่มีสอน แต่เราก็ไปเอาของเค้ามาเป็นแม่แบบกันอยู่ครับ แล้วก็สอนหรือถ่ายทอดที่ไปล่ำเรียนต่อกันมาไปเป็นทอดๆ อีกหลายๆ รุ่น ทีนี้ก็ฝังหัวกันไปเลยครับ ว่าสิ่งนี้ต้องเป็นอย่างนี้ สิ่งนั้นต้องเป็นอย่างนั้นเท่านั้น เค้าก็เลยปั่นหัวเรามันส์เลยครับทีนี้ ตามเท่าไหร่ก็ไม่ทันซะที 55555 โดนนนนนครับพวกเรา

    ตอบลบ
  5. คุณบาบาร่า ลองดูลิ๊งค์นี้ครับ มีทั้งยวงเลยครับ คลิ๊กลิ๊งเชื่อมโยงแตกประเด็นออกไป ทุกอย่างมีที่มาที่ไปครับ ค่อยๆ ดูไปครับเรื่องมันระดับโลกครับ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ สงสัยตรงไหนแล้วจะตอบให้ครับ

    ข้างขวาคือ "โป๊ปดำ" เป็นมนุษย์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดบนโลกใบนี้ครับ เป็นเจ้าของประเทศอิสราเอลมากกว่า 60% แต่จะไม่แสดงตัว ไม่มีข่าว ไม่มีตัวตน น้อยคนที่่รู้ครับ

    http://wikicompany.org/wiki/Image:Ratzinger_and_Adolfo.jpg

    http://wikicompany.org/wiki/911:Vatican_%26_Jesuits

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ13 ตุลาคม 2552 เวลา 23:40

    ขอบคุณค่ะคุณจิมมี่

    โอ้....จะอ่านแล้วแปลได้หมดมั๊ยคะเนี่ย 555...แบบว่าภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเอาซะเลย


    ลิ๊งค์นี้ทำเองเลยรึเปล่าคะคุณจิมมี่...สงสัยว่าจะต้องพยายามแกะ แงะ ให้ได้ซักเรื่องก็ยังดี

    แต่ไม่เคยเห็นคนขวาจริงๆแหละค่ะ แบบว่าไม่รู้จักเลยก็ว่าได้

    คนเรานี่กิเลสเป็นตัวกำหนดทุกอย่างเลยนะคะ หากไม่มีกิเลสแล้ว โลกเราจะเป็นสุขมากกว่านี้อีกหลายเท่าค่ะ

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ