ที่เราเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับยักษ์ใหญ่ต่างๆ ในสหรัฐแล้วประเทศต่างๆ ก็ไปเอาข่าวจากสำนักข่าวเหล่านั้นมาแปลอีกที ทั้งหมดนั่นก็คือฉากหน้าครับ และต่อไปนี้คือความจริงหรือเบื้องหลัง วันนี้มีหลายประเด็นครับ
เมื่อวันศุกร์ ประธาน FED นายเบน เบอนันเก้ ออกมาพูดถึง Exit Strategy หรือกลยุทธที่จะออกจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ปัจจุบันทำอยู่ เมื่อเห็นภาพของการฟื้นตัวที่ชัดเจนของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่เค้ากำลังทำอยู่ในปัจจุบันก็คือ Debt Monetization หรือการพิมพ์เงินดอลล่าออกมาจากอากาศนั่นแหละครับ ก็คือเค้าออกมาพูดลักษณะว่า "จะ" หยุดปั๊มเงินก็ได้ "ถ้า" เห็นภาพการฟื้นตัวที่่ชัดเจน แล้วก็ร่ายยาวว่าจะทำอะไรบ้างข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3 เท่านั้นแหละครับทำให้ดอลล่าอินเด็กซ์ตอบสนองเป็นบวกทันที ซึ่งเป็นผลทางจิตวิทยาล้วนๆ เราจะเห็นได้ว่าคำพูดของ FED มีผลมากๆ กับสภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ แต่ในขณะที่ FED กำลังพูดถึงแผนนี้ แล้วจริงๆ ล่ะมันเป็นยังไง เร็วไปหรือเปล่าที่เอาเรื่องนี้มาพูด ดูปัจจัยต่อไปนี้ครับ
1.Budget Deficit hit 1.4 Trillion จนถึงวันนี้งบประมาณสหรัฐของปีนี้ ขาดดุลไปแล้ว 1.4 Trillion ครับ ($1,400,000,000,000) ก็คือตอนนี้หนี้ท่วมหัว เก็บภาษีไม่เข้าเป้า หลุดจากเป้าไป 25%, ไม่มีการตัดลดงบประมาณ, ก่อหนี้เพิ่ม, ขาดดุลย์งประมาณเพิ่มอย่างไม่จำกัด, ไม่มีใครให้กู้, และปั๊มกระดาษ(ดอลล่า)ออกมาจากอากาศอย่างไม่อั้น เพื่อเอาไปอุดการใช้จ่ายข้างต้น
2.อัตราการว่างงานสหรัฐประกาศโดยทางการพุ่งขึ้นเป็น 9.8% เพิ่มขึ้นจาก 9.4% เมื่อเดือนกันนายนที่ผ่านมา ถ้าต้องการดูของจริง ดูลิ๊งค์นี้ ตารางที่ 3 Unemploy ครับ ณ ว้นที่ 4 ตุลาคม 21% เข้าไปแล้วครับ
http://www.shadowstats.com/alternate_data
3.ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมี มีคนว่างงานชาวอเมริกัน หมดสิทธิ์ที่จะรับเงินประกันจากการว่างงานชุดแรกไปแล้ว 400,000 คนครับ ก็คือต่อจากนี้ 400,000 คนนี้ต้องพึ่งตัวเองแล้ว ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าประกัน และอีกสารพัดภาระต่างๆ ยิ่งกว่านั้นต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างนี้ตลอดครับ ทุกสิ้นเดือน จะมีคนว่างงานหมดสิทธิ์ที่จะรับเงินในส่วนนี้อีก 4-600,000 คนต่อเดือน ซึ่งอันตรายมาก เพราะที่ผ่านมาเค้าก็อยู่กันอย่าง Pay check to Pay check หรืออาทิตย์ชนอาทิตย์อยู่แล้ว ตรงนี้คือ "จุดตาย" จุดนึงที่รุนแรงมากครับ เพราะเค้าไม่มีจะกินแล้ว ปัญหาการว่างงานในสหรัฐคงใกล้จะสุดทางหรือตันแล้วครับ
4.จำนวนคนอเมริกันยื่นเรื่องขอล้มละลายตัวเอง ด้วย Chapter 7 หรือบทที่ 7 ของกฏหมายล้มละลาย ซึ่งเป็นบทที่รุนแรงสุด เพราะในบทที่ 7 นี้จะไม่มีการฟื้นฟูใดๆ ครับ คือ "ล้มแล้วล้มเลย" ตัวเลขตัวนี้พุ่งขึ้นไปถึง 1,046,449 ราย เฉพาะ 9 เดือนของปีนี้ครับ ซึ่งทำลายสถิติ ของทั้งปี 2007 และ 2008 ทั้งปีคือ 12 เดือนครับ หรือเพิ่มขึ้นถึง 41% YOY
http://www.abiworld.org/AM/Template.cfm?Section=Home&TEMPLATE=/CM/ContentDisplay.cfm&CONTENTID=58852
5.ตลาดบ้านเช่าและอาคารพักอาศัยเพื่อเช่าในสหรัฐกำลังประสบปัญหาล้นตลาด และตกต่ำอย่างหนักในรอบ 23 ปีครับ
http://news.yahoo.com/s/nm/20091006/us_nm/us_apartmentmarket?ref=patrick.net
6.อย่างที่เคยบอกครับทั้ง World Bank (ธนาคารโลก) และ IMF โดดลงมาร่วมทุบเงินดอลล่าครับตั้งแต่การประชุม G20 ที่ผ่านมา ทั้งที่เจ้า 2 ตัวนี้สหรัฐตั้งมากลับมือครับในปี 1945 อย่าลืมครับเค้าเป็นพวกเดียวกัน เพราะฉะนั้นอ่านเค้าให้ออก อย่าหลงไปในเกมส์ของสหรัฐครับ
http://www.moneyandmarkets.com/world-bank-and-imf-join-global-attack-on-the-dollar-3-35705
http://www.breitbart.com/article.php?id=CNG.e272eaa74dccc30f21c6ff7638b0f37b.461&show_article=1
7.ปธน.ของอิสราเอลออกมาระบุครับว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังและคอยช่วยเหลืออิหร่านในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ครับ
http://www.timesonline.co.uk/tol/news/world/middle_east/article6860161.ece
8.อีกไม่นาน กลุ่มสหภาพยุโรปคงลงคะแนนเสียงเลือก โทนี่ แบล อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษขึ้นเป็นประธานสหภาพยุโรปตามสนธิสัญญาลิสบอนหรือ Lisbon Treaty ครับ และนี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของโลกครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง จำได้ไม๊ครับว่าใครที่จับมือกับสหรัฐเข้าไปบุกอิรัค ก็คือเค้านี่แหละครับ แต่ครั้งนี้เค้าจะพายุโรปเข้าสงครามใหญ่แน่นอน และนี่ "ก็เป็นหมากอีกตัวของพวกดำขาวครับ" WW III ใกล้เข้าไปอีกนิดแล้วครับ
http://www.telegraph.co.uk/comment/columnists/concoughlin/6278686/Worried-about-President-Blair-of-the-EU-It-may-be-about-to-get-even-worse.html
9.สุดท้าย FDIC หรือสถาบันรับประกันเงินฝากของสหรัฐอยู่ในสภาวะล้มละลายในทางบัญชีแล้วครับ ถ้าไม่มีใครหรือวิธีการใดๆ เข้ามาแก้ปัญหา เพราะกองทุนอยู่ในสภาวะติดลบ ในขณะที่ต้องค้ำประกันเงินฝากของธนาคาร 8,200 แห่งในอเมริกา ที่มีวงเงินฝากสูงถึง 9 Trillion (US$9,000,000,000,000) ครับ
http://www.mybudget360.com/fdic-insuring-8200-banks-with-9-trillion-in-deposits-and-zero-in-the-deposit-insurance-fund-calling-banks-to-prepay-assessment-of-45-billion/
สรุปว่าที่ประธาน FED นายเบน เบอนันเก้ ออกมาพูดเรื่องกลยุทธการออกจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และไม่เป็นจริงครับ และภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ต้องมีอะไรแตกออกมาอีกหลายอย่างมากทั้งเรื่องการขาดดุลย์งบประมาณที่ปิดหีบไม่ได้ทั้งของปีนี้และปีหน้า ปัญหา Short Fall หรืองบประมาณไม่เพียงพอใน 42 รัฐที่กำลังมีปัญหาอย่างหนัก จาก 48 รัฐ (48 Lower States) จับตาดูที่แคลิฟอเนียครับหรือมิชิแกนครับว่า "รัฐไหนจะเป็นรัฐแรกของรัฐบาลท้องถิ่นที่จะประกาศล้มละลายก่อน"
http://www.cbpp.org/cms/?fa=view&id=711
http://www.nytimes.com/interactive/2008/11/17/us/20081117_budget_graphic.html
ไม่รู้ว่า ประเด็นเหล่านี้จะร้อนพอหรือเปล่า ลองไปดูละกันครับ
ตอบลบ1.California Out of Money Again
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601087&sid=ahpLpu9sKLyY
2.Gordon Brown is to announce the sale of £16bn worth of assets by the government in a bid to shore up public finances
http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/politics/8301787.stm
3.World official gold holding (March 2009)(อันนี้ดูเล่น ๆ นะครับ )
http://en.wikipedia.org/wiki/Official_gold_reserves
คาลิฟอเนียนี่ชินแล้วครับ เงินเไม่พอมาตั้งแต่ต้นปี Shortfall หรืองบประมาณไม่เพียงพอในระดับสูงมากๆๆๆๆ ในทางตัวเลขหรือทางเทคนิคเค้าล้มละลายมาหลายเดือนแล้วครับ ที่่น่าห่วงคือคนไทยอยู่ที่นี่เยอะ และนักวิเคราะห์และนักพยากรณ์เศรษฐกิจต่างๆ คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นรัฐแรกที่ "ล้มละลาย" ถ้ามิชิแกนไม่แซงโค้งมาก่อน และจะเป็นที่แรกๆ ที่จะมีสงครามกลางเมืองเริ่มขึ้นทางใต้ของรัฐคาลิฟอเนียครับ เอาแบบตรงเลยนะครับ ไม่ต้องเม้มไว้ เต็มที่ก็ไม่เกินปลายปีหน้า 2010 หรือกลางปี 2011 แล้วลามไปรัฐข้างเคียงคือเนวด้าครับ ส่วนผมคิดว่าน่าจะเร็วกว่านั้นซักกลางปี 2010 ก็่ไม่ไหวแล้ว
ตอบลบ