สรุปว่าโอบาม่าได้รับเสนอชื่อเพื่อเข้าชิงรางวัลโบเบลเพียง 6 วัน หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีครับ ในขณะที่ผู้ถูกเสนอชื่อท่านอื่นคุณลุง คุณป้าอายุ 60-70 กันแล้ว ทำงานเรียกร้องสันติภาพกันมา 20-30 ปี ไม่ค่อยมีด่างพร้อย
"ให้สังเกตุมือที่เปื้อนเลือด กับธงชาติอิสราเอลที่คอเสื้อครับ"
เห็นหรือยังครับว่าของเค้าแรงขนาดไหน ดูรูปนี้ครับ สังเกตุที่ "มือ" เลือดที่ติดมือยังไม่แห้งเลยครับ 55555 เพราะตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ไม่ถอนทหารจากอิรัค เปิดฉากสงคราอัฟกัน ส่งทหารเพิ่ม ความรุนแรงใน G20 เตรียมการโจมตีอิหร่าน สุดท้ายได้รางวัลโนเบล สาขาอื่นยังพอว่าครับ ได้สาขาสันติภาพอีก
ถ้าใครตามเกมส์เค้าอยู่ตลอด จะเห็นว่าก่อน G20 โอบาม่าไป Address หรือปราศัยที่ยูเอ็นนิวยอร์ค ได้ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ประธานของ UN Security Council หรือกองกำลังของยูเอ็นครับ โดยที่ไม่มีการประกาศล่วงหน้ามาก่อน ภาพที่ออกมาทำให้ "งง" กันไปทั้งโลก ว่ายูเอ็นมันเล่นอะไรอีก คือการส่งสัญญาณครับว่า สหรัฐคงจะเป็นกองกำลังหลักและควบคุมกองกำลังของโลกใบนี้ทั้งหมดหลักจาก "เซ็นสนธิสัญญาโคเป็นเฮเก้น" เพื่อปูทางไปสู่การ "ตั้งรัฐบาลโลก" หรือ World Government ในเดือนธันวาคมนี้แล้ว ที่กรุงโคเป็นเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค ใครที่สนใจการเมืองหรือความเคลื่อนไหวระดับโลกอยู่ เช็คเรื่องนี้เลยครับ เค้าจะเซ็นสนธิสัญญานี้กันในเดือนธันวาคมนี้แล้ว แต่จีน อินเดีย และรัสเซียประกาศแล้วครับว่าไม่เซ็น ไม่เอา ไม่ร่วม คงรู้ทันแล้วครับ
เกมส์นี้ "ตัวดำขาว" เจ้าเก่ากะรวบหัว รวบหาง ใช้ UN เป็นเครื่องมือเหมือนเดิม ที่สำคัญที่สุดการประชุมรอบที่ผ่านมาเรื่องนี้เพิ่งประชุมจบไปที่่ไหนรู้ไม๊ครับ "กรุงเทพ" บ้านเรานี่แหละ หลายรอบไปแล้วครับ ทำไมต้องเป็นประเทศเรา เราเป็นเพียงประเทศเล็กๆ แต่ทำไมหลายๆ อย่างมาใช้เราเป็นฐาน น่าคิดครับ การประชุมนี้เป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น สรุปทั้งหมดทั้งสิ้นก็คือให้ไปเซ็นสัญญายอมรับการจัดตั้งรัฐบาลโลก หรือ Global Authority ที่พวกดำขาว อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศษ เรียกร้องกันนั่นแหละครับ คือขอให้ใครบางกลุ่มมีอำนาจสิทธิ์ขาดจัดการหลายๆเรื่องและอีกหน่อยจะเป็นทุกๆ เรื่องในโลกใบนี้ได้ครับ
ภาพที่ออกมาเป็นช๊อตๆ กระจายไปทั่วโลก แล้วแต่ใครจะเห็นความเชื่อมโยงแล้วต่อติดหรือไม่ โดยเอาข้ออ้างเรื่องจะมีเงินไหลไปสู่ประเทศโลกที่ 3 เพื่อการพัฒนาในช่วง 2-3 ปีแรก ก็คือเอาเงินมา "ล่อ" ประเทศยากจนให้เค้าคิดว่าได้ประโยชน์แล้วยอมเซ็นรับ แล้วที่เหลือรัฐบาลโลกก็จะเริ่มเก็บ "ภาษี" ครับ
แล้วถ้าอ่านได้ลองหาสนธิสัญญาฉบับนี้อ่านเลยครับ ประมาณ 200 หน้า ถ้าจำไม่ผิด อ่านที่หลักๆก็พอแล้ว ถ้าอ่านแล้วจะเข้าใจว่า มันคือสนธิสัญญา NWO ( New World Order ) หรือการจัดระเบียบโลกใหม่นั่นเองครับ และทั้งหมดอยู่ภายใต้หน้าฉากของเรื่อง Glogbal Warming หรือภาวะโลกร้อนนั่นเอง นี่แหละครับพวก NWO เล่นเรื่องนี้มา 2-3 ปีก็เพื่อเรื่องนี้เท่านั้นเอง ไม่ใช่ "รัก" หรือ "ห่วงใย" โลกอะไร ใดๆ ทั้งสิ้นครับ เราถูกเค้า "หลอก" เรื่องนี้ไปมากและไปไกลแล้ว เรือง Global Warming หรือภาวะโลกร้อนไม่มีจริงครับ ที่ร้อนขึ้นเพราะเป็นช่วงวัฐจักรขึ้นลงของธรรมชาติเท่านั้นเอง
ลองเซิร์ชหา "Global Warming Hoax" ในอินเตอร์เน็ตแล้วหาความจริงครับ หาดูกราฟระดับความร้อนความเย็นของโลกในช่วงพันปีทีผ่านมา ก็จะเข้าใจทั้งหมดเอง "โดยเฉพาะปีนี้จะเป็นปีแรกที่อากาศหนาวรุนแรงในเกือบทุกทวีปทั่วโลก" และจะหนาวรุนแรงขึ้นทุกปี จนอีก 15-20 ปีข้างหน้าโลกเราแทบจะเข้ายุคน้ำแข็งอีกครั้งแล้วครับ เป็นเพียงวัฐจักรของธรรมชาติเท่านั้นเอง มีหลักฐานไม๊ ง่ายนิดเดียวครับ เมื่อ 1-2 อาทิตย์ก่อนจนมาถึงวันนี้ ในทวีปอเมริกาเหนือแทบจะเข้าฤดูหนาวแล้วครับ หนักเข้าไปอีกหิมะตกลงมาถึง ภาคกลางตอนบนในเดือนตุลา แล้วอุณภูมิทำสถิติต่ำสุดในรอบ 40 ปี เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทั้งที่จริงๆ แล้วเพิ่งจะเข้า Fall หรือ ฤดูใบไม้ร่วงเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง จะไปวินเทอร์อีกทีก็โน่น 21 ธันวาครับ "แล้วไหนบอกว่าโลกร้อนไง"
ลองเซิร์ชหา "Global Warming Hoax" ในอินเตอร์เน็ตแล้วหาความจริงครับ หาดูกราฟระดับความร้อนความเย็นของโลกในช่วงพันปีทีผ่านมา ก็จะเข้าใจทั้งหมดเอง "โดยเฉพาะปีนี้จะเป็นปีแรกที่อากาศหนาวรุนแรงในเกือบทุกทวีปทั่วโลก" และจะหนาวรุนแรงขึ้นทุกปี จนอีก 15-20 ปีข้างหน้าโลกเราแทบจะเข้ายุคน้ำแข็งอีกครั้งแล้วครับ เป็นเพียงวัฐจักรของธรรมชาติเท่านั้นเอง มีหลักฐานไม๊ ง่ายนิดเดียวครับ เมื่อ 1-2 อาทิตย์ก่อนจนมาถึงวันนี้ ในทวีปอเมริกาเหนือแทบจะเข้าฤดูหนาวแล้วครับ หนักเข้าไปอีกหิมะตกลงมาถึง ภาคกลางตอนบนในเดือนตุลา แล้วอุณภูมิทำสถิติต่ำสุดในรอบ 40 ปี เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทั้งที่จริงๆ แล้วเพิ่งจะเข้า Fall หรือ ฤดูใบไม้ร่วงเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง จะไปวินเทอร์อีกทีก็โน่น 21 ธันวาครับ "แล้วไหนบอกว่าโลกร้อนไง"
เราประเทศเล็กๆ คง "โดน" ครับแต่ไม่รู้ว่าจะกระทบมากขนาดไหน ได้แต่หวังว่าในส่วนหัวๆ ระดับบริหารประเทศเราจะตามเค้าทันครับ ตามเรื่องนี้ไว้ มันจะเป็น "กระแสโลก" ที่รุนแรงมากในอีก 5-10-15 ปีข้างหน้านี้ครับ อย่างนึงคือเงินภาษีส่วนนึงของพวกเราและคนทั้งชาติก็ต้องไปจ่ายสมทบให้กับ UN ในเรื่อง(เอาแบบตรงๆ เลยนะ) "แหกตา" เหล่านี้ครับ แล้วต้องไปยอมทำตามในหลายๆ เรื่องหลังจากที่เซ็นสนธิสัญญาฉบับนี้ไปแล้วครับ ถ้าไม่รีบจับเค้าเซ็นกันแล้วมันหนาวขึ้นมาแล้วเรื่องมันจะแตกครับ เลยต้องปลายปีนี้เลยครับ
ดูลิ๊งเหล่านี้ครับ:
http://unfccc.int/2860.phphttp://www.eenews.net/special_reports/copenhagen/
http://en.cop15.dk/news/view+news?newsid=876
เฮ้อออ...วันอาทิตย์คิดว่าจะเขียนเรื่องเบาๆ สบายๆ ซะหน่อย ไม่รู้ ทำไมไหลไปเรื่องนี้ได้ 55555 สงสัยเลือดรักชาติมันพุ่งพล่านไปหน่อยครับ 55555
เวบนี้เป็นหนึ่งในหลายร้อยล้านเวบที่ต่อต้านการแหกตาเรื่อง "ภาวะโลกร้อน" ในอเมริกาครับ คนที่รู้เค้าจะเรียกเรื่องนี้ว่า Scam คร๊าบบบบบ
ตอบลบhttp://www.globalclimatescam.com/
ข่าว“ลัทธิกีดกันการค้า”ด้วยข้ออ้างเรื่อง“โลกร้อน” จาก ASTV
ตอบลบhttp://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000122874