วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

H1N1 ( ไข้หวัด 2009 ).......Update

จีนเซ่นหวัด 09 ศพแรก-ยอดสั่งยาทั่วโลกเพิ่ม
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 ตุลาคม 2552, 21:40 น.

ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากหวัด 2009 ทั่วโลกพุ่ง จีนตายเป็นรายแรก ด้านบริษัทผลิตวัคซีนในอังกฤษเผย ยอดสั่งยามากเตรียมรับมือฤดูหนาว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า จีนพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายแรกของประเทศ ท่ีภูมิภาคทิเบต ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้

ด้านประเทศกัมพูชาพบผู้เสียชีวิตเป็นรายท่ี 2 และ 3 เป็นชายวัย 47 ปี และหญิงตั้งครรภ์วัย 25 ปี ส่วนยอดผู้ติดเชื้อพุ่งเป็น 101 ราย

ส่วนซาอุดิอาระเบียเตรียมรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ระหว่างชาวมุสลิมราว 3 ล้านคนจากทั่วโลกไปแสวงบุญท่ีเมืองเมกกะในเดือนธันวาคมนี้ ขณะท่ีสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา ตกลงแบ่งปันข้อมูลเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009

องค์การอนามัยโลกระบุ ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วโลกล่าสุดมีอย่างน้อย 24,000 ราย ติดเชื้อกว่า 343,000 ราย

อย่างไรก็ดีบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ของอังกฤษเผยว่าได้รับใบสั่งซ้ือวัคซีนไข้หวัด ใหญ่ 2009 แล้ว 440 ล้านโดสก่อนฤดูหนาวจะมา


"ขอขอบคุณลิ๊งข้อมูลโดยคุณ Maalaachi ครับ"

นี่เป็น Update ในอเมริกาครับ


September 30, 2009 (LPAC)—The A/H1N1 influenza is spreading across the United States, hitting the southern states particularly hard.
Fox News reports that schools across Texas and Oklahoma are closing, and every southern state between Virginia and California is reporting widespread flu activity. Illness among staff and students has closed all schools until Oct. 1 in the Huntsville, Texas Independent School District.
Flu cases soared in Texas as soon as schools opened at the end of August. According to Dr. David Lakey, commissioner of the Texas Department of State Health Services, only small amounts of new vaccine will be arriving by the first week of October. "It will be coming in, drip, drip, drip, before we have a substantial amount," he said.
"Pandemics occur in waves. It looks like we're in wave No. 2. Likely there will be wave No. 3, maybe 4," he said. That's why we knew as soon as school occurred, this thing would expand. Kids take those viruses to their parents and grandparents and infect them."
Nationally, H1N1 is widespread in more than half the country. An estimated 21,000 college students are sick. Dr. Amy Ray, an infectious disease and public health specialist with University Hospitals Case Medical Center in Cleveland, Ohio, reported that 99% of what's circulating "right now is H1N1. That's not to say it won't change. We're watching... It's unusual to see influenza circulate during the summer months. Transmission is increasing."

สรุปคือ H1N1 ระบาดแล้ว หนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ โรงเรียนในรัฐเท็กซัส โอคาโฮมา เวอร์จีเนีย และแคลิฟอเนีย ต้องหยุดการเรียนการสอนลงไปเรื่อยๆ ครับ เพราะมีการแพร่กระจายตลอด 


การระบาดช่วงนี้เป็นคลื่นของการระบาดระลอกที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังจากโรงเรียนเปิดภาคเรียน คาดว่าระลอกที่  3 และ 4 คงตามมาในไม่ช้า และเด็กนักเรียนเหล่านี้ก็เอาเชื้อกลับไปแพร่ให้กับพ่อ แม่ และผู้ปกครองที่บ้านครับ 


การระบาดครอบคลุมในรัฐทางใต้ และลามขึ้นมาถึงภาคกลาง หรือครึ่งประเทศแล้วครับ มีนักศึกษาอย่างน้อย 21,000 คนป่วยจากการติดเชื้อ  และ 99% คือเชื้อ H1N1 หรือไข้หวัด 2009 นั่นเอง 

ผมมี Link แผนที่การระบาดเป็บแบบ Interactive ครับ หลายๆ อันเอาไว้ดูเทียบกัน

1.http://flutracker.rhizalabs.com/flu/gmap0908201619.html?lat=30.996445897426373&lon=-83.49609375&zoom=6
2.http://flutracker.rhizalabs.com/
3.http://www.msnbc.msn.com/id/30435064


ทุกอย่างคงเป็นไปตามการคาดการณ์ครับ วางแผนรับมือไว้ได้เลย ไม่น่าพลาดครับ กลับไปดูโพสต์เรื่อง H1N1 ที่ผ่านมาแล้วตามนั้นเลยครับ ใครที่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้องในอเมริกาคงต้องส่งสัญญาณไปเตือนให้ระวังกันมากขึ้นแล้วครับ  ยอดล่าสุดที่เห็น


ณ วันที่ 7 มีผู้ติดเชื้อแล้ว 186,548 รายครับ 
ยอดผู้เสียชีวิต 1,916 รายครับ

16 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ ข้อมูลชุดนี้ จุใจจริง ๆ

    มีเรื่องน่าจับตาอีกเรื่องครับ
    ฝูงบิน Thunderbird มาไทย
    กว่า 15 ปีที่เงียบหายไปจากน่านฟ้าเมืองไทย
    ครั้งนี้มาได้เวลาจริง ๆ ใครออกไปดู ระวังตัวหน่อยก็ดีครับ
    เราไม่รู้เขามีแผนอะไร แต่ถ้าอ่าน ๆ สิ่งที่คุณ Jimmy เขียนไว้ทั้งหมด
    พอจะเดาออกได้ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้มาโชว์อะไรหรอกครับ
    เราต้องดูภาระกิจแฝงครับ

    http://www.thaiflight.com/mach/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=38673&start=0&postdays=0&postorder=asc&highlight=

    และก็ Dell ปลดพนักงาน 900 คน
    เดี๋ยวจะมีออกมาเรื่อย ๆ
    http://www.thaidellclub.com/board/index.php?topic=560.0

    ตอนนี้ข่าวทองขึ้น มันออกมาเยอะมาก
    ผมไม่แน่ใจว่ามันจะมีการ ล่อเข้าไปเชือด ชุดเล็ก ก่อนหรือเปล่า
    คุณ Jiimmy ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ

    เพราะเวลาที่กระแสคนธรรมดา ที่ไม่เคยคิดจะซื้อทอง
    อยู่ ๆ เดินเข้าร้านทองเพราะได้ยินข่าวทีวี ตะบี้ตะบันซื้อ
    ผู้คนพากันแห่ไปซื้อ ตาม ๆ กัน อย่างนี้
    มันจะเกิดอะไรขึ้น วา....เสียวจัง

    เปรี้ยง เล็ก ๆ สักที... โอย ยิ่งพูดยิ่งเสียว

    ตอบลบ
  2. ยิ่งคนแห่ซื้อทองยิ่งขึ้นครับ เพราะขานี้ก็จะซื้อๆ ขายๆ กันไปอย่างนี้แล้วครับ มันหายอดไม่เจอ เพราะมูลค่าจริงของทองคำมันอยู่ ที่ $12,000-15,000 ถ้ายังจะเอาดอลล่าไปอิงกับทองหรือน้ำมันอยู่อย่างนี้ ยังอีกไกลเลยครับ มันเกิดสารพัดดีมานด์ขึ้นมาพร้อมกัน ทั้งความกลัวไม่รู้กลัวอะไรก็กลัวไว้ก่อน การเก็งกำไร การป้องกันความเสี่ยง กลัวสงคราม กลัวดอลล่าล้ม "ถนนทุกสายมุ่งมาที่ทองคำครับ" ขาดอยู่อีก 2 เส้นคือ การเทดอลล่าพรอ้มๆ กันทั่วโลก กับการล้มของตลาดหุ้นดาวโจนส์แล้วฟาดหางไปทั่วโลก ก็จะครบองค์ครับ จะค่อยๆ มา ไม่นานครับ ปัจจัยซ้ำเติมเต็มไปหมด อย่างที่คุณ Maalaachi เรียงไว้นั่นแหละครับ

    ตอบลบ
  3. อีกนิดศีกษาเรื่องการ Short ตลาดหุ้นรอไว้ได้เลยครับ ใกล้เวลาขายทองบางส่วนทำกำไร เอาไป Short หุ้น มี "ขาลง" หลายร้อยจุดให้เห็นครับ

    แต่ต้องดูอัตราผลตอบแทนประกอบนิดนึงครับ เพราะมันจะวิ่งลงขนานไปกับทองขี้นครับ แต่เท่าที่ดูน่าจะดีกว่าทองครับ บ้านเรา GDP ลบอยู่ แล้วดอลล่าเต็มท้องเลย ภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองแบบนี้ หนักแน่ครับ ตัวต้านคือพวกกองทุนต่างชาติ จะถอนหรือไม่ การลงทุนฝั่งตะวันตกเค้าไปไม่ได้แน่นอน ทางจีนหุ้นก็ไม่ค่อยดี ต้องดูตัวกองทุนนี่ครับ เค้าไม่ควรจะถอน แต่ถ้าเค้าถอนคือ "เค้าต้องการให้เราล้ม" เค้าจะถอนเร็วและแรง ไม่ใช่กองทุนทำกำไรอะไรหรอกครับ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องการเก็งกำไรอะไรแล้ว "เป็นเรื่องของอำนาจและการครอบครองครับ" ตามให้ทันครับพวกเรา

    ตอบลบ
  4. ฝากอีกเรื่องครับ ถ้าใครไปดูฝูงบินแล้วเห็นมีควันสีขาวๆ หรือสีอะไรก็ตามเป็นทางยาวๆ ออกมาแล้วนับได้เกิน 20 วินาที หรืออยู่เป็นวัน ให้สันนิษฐานเลยครับเค้าเล่นพวกเราแล้วววว เผ่นได้เลยอย่าอยู่ตรงนั้นครับ

    นี่เป็นวิธีการปล่อยเชื้อโรคอีกรูปแบบนึงในอเมริกาครับ แค่สันนิษฐานนะ แต่ถ้าไปดูฝากดูแล้วนับด้วยครับ :) ที่รู้เพราะ เกิดกรณีเหล่านี้ขึ้นในอเมริกาครับ คือร่างกายจะมีอาการผิดปกติ เช่น เกิดแผลตามผิวหนัง ริมฝีปาก วิงเวียนศรีษะแต่หาสาเหตุไม่ได้ หรือแน่นหน้าอกแบบหาสาเหตุไม่ได้ เจอเคสเหล่านี้ในอเมริกาเยอะแล้วครับ

    ตอบลบ
  5. วันนี้มีข่าวดีสำหรับเมืองไทย เพราะนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยของไทย
    ค้นพบ สารที่ต่อต้าน ไวรัส 2009 หรือ H1N1 ได้แล้วครับ อยู่ในมังคุด
    พึ่งมีการแถลงการ เมื่อบ่ายวันนี้นี่เอง

    อธิบายคร่าว ๆ ก่อนนะครับ ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์
    เดี๋ยวผมจะหามารับรองอีกที

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจกระบวนการของไวัส H1N1 ว่ามันทำงานยังไง
    แล้วจะรู้ว่าทำไม เขาถึงพุ่งเป้าหมายไปฉีดวัคซีนให้เด็กก่อน
    ตามที่คุณ Jimmy ได้เขียนไว้ ผมพึ่งเข้าใจวันนี้นี่เอง

    กระบวนการทำงานของ เชื้อไข้หวัด H1N1
    เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายบริเวณช่องหายใจ และเกิดการติดเชื้อที่เซลล์
    ตัวเชื้อ H1 จะจับตัวกับเซลล์ของเราและทำให้ติดเชื้อ
    จากนั้นจะเดินทางไปยังเซลล์อื่น ๆ ต่อไปโดยอาศัย N1 เป็นตัวช่วย

    เปรียบเหมือน H1 เป็นผุ้ก่อการร้ายมีอาวุธ
    ส่วน N1 เปรียบเหมือน เครื่องบินที่โดนจี้

    ถ้าไม่มีเจ้าตัว N1 เชื้อ H1 ก้อไม่สามารถแพร่ไปที่เซลล์อื่นได้
    หรืออาจจะลำบากหน่อย

    เมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อไวรัส H1N1 แล้ว ระบบภูมิคุ้มกันของเรา
    เม็ดเลือดขาว ก็จะหลั่งสาร interleukin 1 ให้เข้าไปบริเวณนั้น
    เพื่อทำการยับยั้งเชื้อ เปรียบเหมือนการส่ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง
    เข้าไปกู้สถานการณ์ ยังไงยังงั้นเลย

    แต่เนื่องจากเจ้าไวรัส H1N1 มันเป้นของแปลกสำหรับร่างกาย
    ระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่รู้จะปล่อยสารตัวไหนออกมาช่วย
    จึงปล่อยทุกอย่างออกมา เรียกว่า พายุไซโตคายน์ (cytokine storm)
    เรียกว่าเกิดการ หลอน ของภูมิคุ้มกัน หรือกลัวอย่างมาก
    เลยปล่อยตัวช่วยออกมา ดั่งพายุ แทนที่จะรักษา กลับมาทำลายซะงั้น
    เรียกว่าเป็นภาวะที่ควบคุมไม่ได้ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
    พายุไซโตคายน์ที่ถูกปล่อยออกมามาก
    ทำให้้มีการรวมตัวกันของสารน้ำชนิดต่าง ๆ ในปริมาณมาก
    จนอุดตันหลอดลม และระบบทางเดินหายใจ ตลอดจนปอด
    นี่จึงเป้นสาเหตุทำให้เสียชีวิต เขาเรียกว่า อาการแพ้ภูมิตัวเอง
    (จะเห็นว่าเกี่ยวข้องที่ปอดด้วย นี่แหละสาเหตที่วัคซีนทดลอง
    กับหนูถึงทำให้เป้นมะเร็งที่ปอด)

    วิธีการที่ลดหรือป้องกัน ไวรัส H1N1 (เพราะรักษายังไม่ได้)
    คือการทำให้ H1 แพร่เชื้อไม่ได้ นั่นคือ ตัดกำลังการเดินทางของมันนั่นเอง
    จัดการเจ้าตัว N1 ให้สิ้นซาก เพราะ N1 เป็นตัวช่วยให้ H1 แพร่เชื้อได้
    ทางวิชาการ เขาเรียกว่า ต้องทำภูมิคุ้มกันของเราลดการสร้าง interleukin 1
    ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และต้องเพิ่ม interleukin 2
    เพื่อให้ระบบเม็ดเลือดขาวแข็งแรง มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถกำจัดไวรัสได้

    มาถึงเรื่อง สารที่คนไทยค้นพบ
    มีอยู่ในมังคุด บัวบก ถั่วเหลือง งาดำ และฝรั่ง
    แต่ผมคิดว่า มีอีกอย่างคือ ลูกยอ เห็นคนแก่แถวบ้านบอก
    แต่ทำไม ไม่เห็นมีคนไทยเอาไปวิจัย นะ

    สารที่สกัดได้ จะเข้าไปจัดตัวกับ N1 ทำให้ไม่สามารถช่วย H1 ได้
    ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับยาต้านเชื้อทั่วไป คือ โอเซลทามิเวียร์
    (อังกฤษ: Oseltamivir) หรือชื่อที่ถูกต้องอ่านว่า "โอเซิลแทมิวีร์"
    ดูรายละเอียดที่
    http://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&ct=res&cd=1&url=http%3A%2F%2Fth.wikipedia.org%2Fwiki%2F%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C&ei=EwHOSoGfIYiW6wPIy434AQ&usg=AFQjCNGdIoVcx9Ois8FJ1iLq1pT0yHzpYg
    โอเซลทามิเวียร จะจับ N1 ไม่ให้แพร่ออกไป วัดค่าได้ 209.4
    แต่ติดที่ ราคาแพงมาก

    ส่วนสารสกัดของคนไทย ค่านี้อยู่ที่ 209.9

    ตอบลบ
  6. ลืมอีกประเด็นคือ ทำไม มะกัน ต้องทดลองกับเด็กก่อน
    จากที่เรารู้มาว่าตัวไวรัส H1N1 นี้จะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน
    ให้ทำงานบกพร่อง ผมเรียกว่า ไร้การควบคุมละกัน ดูจะเข้ามากกว่า
    หรือเป็นอาการตื่นทอง ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรานั่นเอง

    เหมือนคนเราละครับแบบว่า อยู่ ๆ ไม่เคยมีอะไรแปลกปลอมเข้ามา
    พอรู้ตัวว่า ระบบโลกล่มสลาย วันนั้นมาถึง เหตุจราจลจะเกิดขึ้นทันทีครับ

    ร่างกายเราก็เหมือนกัน เรียกว่าระบบภูมิคุ้มกันเกิดจราจล ครับ

    ที่นี้ คนเราในช่วงอายุ 15-50
    จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์ครับ ดังนั้นในช่วงวัยเด็ก ถือว่า
    ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน หรือการทำงานของเม็ดเลือดขาว
    ยังไม่สมบูรณ์นั่นเอง
    เมื่อเด็กได้รับสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันของเขา
    จะไม่ค่อยตอบสนองครับ เหมือน งง ๆ ไม่รู้อะไร
    ดังนั้น เม็ดเลือดขาวจึงไม่สร้าง พายุไซโตคายน์ เพื่อผลิต interleukin -1
    ให้ออกมา ต่อสู้กับเชื้อไวรัส เด็กจึงไม่ได้รับอันตรายมากเท่าผู้ใหญ่
    หมายถึงอันตรายจากการแพ้ภูมิตัวเองนะครับ

    สรุปง่าย ๆ คือ ไวรัส H1N1 ไม่ได้ฆ่าเราครับ
    แต่มันทำให้ ภูมิคุ้มกันของเรา ผลิตสารออกมาอย่างบ้าคลั่ง
    จนกระทั่งเราแพ้ภูมิตัวเอง และตายไปเอง

    อย่างนี้นี่เอง ที่ผมคุยกับดอกเตอร์ แล้วเขาหัวเราะ
    บอกว่า H1N1 ไม่ร้ายแรงเลย แบคทีเรียในอากาศยังร้ายแรงกว่า

    นั่นนะสิ...น่าคิด ถ้ามันไม่ร้ายแรง ทำไมเขาถึงประกาศว่าอยู่ระดับ 6
    เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    คือต้องการให้คนกลัว อย่างที่คุณ Jimmy บอกแล้วคน จะแห่ไปรับวัคซีน

    เป้าหมายแรกของเขา จึงเป็น เด็ก ๆ และสตรีมีครรภ์ เพราะ เขาต้องกำจัด
    กลุ่มที่ อาจจะเป็นอันตรายสำหรับเขาก่อน นั่นเอง
    ถ้าเด็ก ๆ ผู้ที่ พระเจ้าสร้างมา ไม่ให้เขาได้รับอันตรายจาก H1N1
    ต้องกลายเป็นเหยื่อไวรัส แล้วคนใหญ่ ๆ จะเหลืออะไร
    นั่นอาจจะเป็นความคิดของพวกเขา ก็ได้
    ปิดทางที่จะ ให้คิดค้น วัคซีน เพราะในตัวเด็ก บางคน อาจจะมีเชื้อ
    ที่สามารถ ต่อต้านไวรัสก็ได้ เหมือนเรื่อง เรสซิเดนอีวิล
    ที่เลือดของผู้หญิงคนหนึ่งสามารถรักษา ไวรัสได้

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณครับคุณ Jimmy และคุณ Maalaachi

    ที่ว่า N1 เปรียบเหมือน เครื่องบินที่โดนจี้ มันคืออะไรในร่างกายเราหรือครับ ?

    แสดงว่าเด็กมีโอกาสเสี่ยงน้อยกว่าผู้ใหญ่ในการติดเชื้อ H1N1 แล้วเสียชีวิต
    แล้ววัคซีนที่คาดว่าเป็นตัวแพร่เชื้อนี่มันเชื้ออะไรครับ H1N1 หรือเปล่า เพราะถ้าเด็กไม่เสี่ยงเท่า จะกำจัดเด็กก่อนได้อย่างไร หรือต้องการให้เด็กเป็นตัวพาหะ ช่วยแพร่เชื้ออีกทีให้ผู้ปกครอง

    ตอบลบ
  8. วันนี้ thunder bird บินโชว์ผ่านที่ผมอยู่พอดี ผมอยู่แยกหลักสี่แจ้งวัฒนะใกล้ดอนเมืองออกมามองดู เห้นมีปล่อยควันขาวเป็นวงกลมแนวตั้ง อยู่หลายหน แต่ลองนับดูมันก็กระจายฟุ้งค่อยๆขยายใหญ่แล้วจางหายไปประมาณ 20-30วินาที แต่มีชุดสุดท้ายที่เห็นพุ่งขึ้นพร้อมกัน 5 ลำ ปล่อยควันขาวพอสูงๆ 4 ลำก็บินแตกแยกออกเป็น 4แฉกลำที่ 5 พุ่งขึ้นต่อไป ควันคราวนี้อยู่นานเกินนาทีครับ เป็นทางยาว 4 ทิศเลย อาจเป็นเพราะลมไม่แรงก็ได้นะครับ คิดแง่ดีไว้ก่อน แต่ตอนนั้นแดดจัดแรง คิดว่าถ้าเป็นเชื้ออาจตายหมด แต่ก็แปลกมาก พอจบการแสดงไม่นานัก ก็มีฝนตกฟ้าคะนองแรงมากๆ ทั้งที่มองดูท้องฟ้าไม่ได้มืดดำหรือมีเมฆดำ กลับสว่างซะอีก ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เค้าใช้เจ้า haarp มาทำให้ฝนตกเพื่อเป็นการพาเชื้อลงสู่พื้นหรือเปล่า...แหะๆ...ชักวิตก...เหอเหอเหอ...ถ้าอีกสัปดาห์มีคนเป็นหวัดเพิ่มขึ้นละก็ ...

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ11 ตุลาคม 2552 เวลา 01:27

    สงสัยว่านักบินที่ขับเจ้าเครื่องบินแบบนี้ หากว่ามีสารปล่อยออกมาจริงๆ เขาจะทราบไหมคะ ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน เขาก็น่าจะมีมนุษยธรรม คิดถึงลูกเมียของตัวเอง รวมถึงตัวเขาเองด้วยว่าก็คงไม่รอดเช่นกัน

    บาบาร่า ฟู

    ตอบลบ
  10. คนที่อยู่หลังเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ มนุษย์ครับ
    แต่เป็นแด้กกุล่า อยู่มาหลายร้อยปี วางแผนมาหลายชั่วอายุคน...
    เคี้ยกๆ...

    เอาไป1มุข...เหอะๆ

    ตอบลบ
  11. เหตุที่..เมกาทะเลาะกับพวกอิสลามบ่อยๆ
    เพราะไม่ชอบเครื่องเทศกระเทียม...

    ตอบลบ
  12. ลืมบอก แวมพายด้วย...

    เหอะๆขำๆกันไป...

    ตอบลบ
  13. เหอะๆมีอีกเรื่อง รู้สึกคนที่รู้เรื่องนี้ มีคนดังๆหลายคนที่รู้ หนึ่งนั้นที่เด็กๆชอบ
    คนหนึ่งที่สร้างนารุโตะน่าจะรับรู้บ้างแล้วแหละ

    Naruto 467 : คำประกาศสงคราม
    http://thaimangaclub.blogspot.com/2009/10/naruto-467.html

    อ่านไปก็คล้ายๆกัน พวกการ์ตูนญี่ปุ่นยึกครองโลกเนี้ยเหอะๆ

    ตอบลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ11 ตุลาคม 2552 เวลา 13:52

    นารุโตะนี่ฮีโร่ชองลูกชายเลยนะคะ หากอยู่ในกลุ่มนี้จริงๆล่ะก็ ลูกชายคงรับไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้ก็เริ่มเล่าให้ลูกๆฟังบ้าง เขาก็เริ่มรับรู้แบบนิดๆผ่านๆ แต่ก็ดูเราอ่านข้อมูลบ้าง เพราะที่ผ่านมาเขาดูหนังเรื่อง demon&angle แล้วก็รู้สึกอเมซิ่งว่า เห้ยยยย...มีเรื่องแบบนี้จริงๆด้วยหรือแม่ ไม่น่าเชื่อเลย อย่างน้อยเขาก็จำได้แล้วว่า กลุ่มอิลูมินาติ นี่คืออะไร....เอิ๊กๆ

    ตอบลบ
  15. มีข่าว H1N1 มาฝากครับ ไปดูกันเลยครับ
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000120351

    http://www.thairath.co.th/content/oversea/38833

    ตอบลบ
  16. 55555 จิ๊กซอ "นารุโตะ" ตัวนี้ลึกลับและมึนหนักกว่าตัวอื่นอีก นับถือ นับถึอ :)

    ตอบลบ